หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความคิดเพียงชั่ววูบ ทำให้ผมเสียใจทั้งชีวิต

โพสท์โดย ผู้หญิงลายผีเสื้อ

ก่อนอื่นเห็นเขาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง....

 

เมื่อผมกลับถึงบ้านในคืนนั้น ภรรยาของผมกำลังเสิร์ฟอาหารมื้อค่ำ ผมจับมือของเธอและพูดว่า ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะบอกคุณ เธอนั่งลงและกินอย่างเงียบ ๆ เป็นอีกครั้งที่ผมสังเกตเห็นความเจ็บปวดในสา...ยตาของเธอ

ทันใดนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดต่อไปยังไง ผมแค่รู้ว่าผมจะต้องบอกเธอในสิ่งที่ผมคิดให้ได้ ผมต้องการหย่า ผมเริ่มบทสนทนาอย่างเรียบๆ เธอดูไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของผม แต่กลับถามผมอย่างสงบ  ทำไม?”

ผมหลีกเลี่ยงคำถามของเธอ และนั่นทำให้เธอโกรธ เธอโยนตะเกียบทิ้งและตะโกนมาที่ผม  หน้าตัวเมีย!  คืนนั้นเราไม่ได้พูดคุยกัน เธอร้องไห้ ผมรู้ว่าเธอต้องการที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา แต่ผมคงไม่สามารถจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับเธอได้ เธอได้สูญเสียความรักของผมให้กับ "เจน"  เลขาสาวสวย  ที่เข้ามาในจังหวะที่ผมคิดว่าชีวิตคู่ผมช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน  

ผมกับเจน พูดคุยกับทุกวัน ประกอบกับเจนก็มีทีท่าพอใจผมไม่ใช่น้อย แม้เธอจะรู้ว่าผมมีภรรยาแล้วก็ตาม  ในที่สุดผมคิดว่า "เจน" คือผู้หญิงที่ผมรักที่สุด  ส่วน "เธอ" ผมไม่ได้รักอีกต่อไป  ผมเพียงแค่สงสารเท่านั้น!

 

 

 

ผมร่างข้อตกลงการหย่าด้วยความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง สัญญาระบุว่าเธอจะเป็นเจ้าของบ้านของเรา รถของเราและสัดส่วนการถือหุ้น 30% บริษัท ของผม เธออ่านมันเผินๆแล้วฉีกมันเป็นชิ้น ผู้หญิงที่ได้ใช้เวลาสิบปีที่ผ่านมาในชีวิตของเธอให้กับผมได้กลายเป็นคนแปลกหน้า ผมรู้สึกเสียใจสำหรับเวลาที่เสียไปของเธอ แต่ผมก็ไม่สามารถกลับคำพูดที่ผมได้ขอหย่ากับเธอ เพราะผมเองก็รักเจนมาก

ในที่สุดเธอก็ปล่อยโฮออกมาต่อหน้าผม อย่างที่ผมนึกคาดไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับผมการร้องไห้ของเธอเป็นเหมือนการปลดปล่อย ความคิดของการหย่าร้างซึ่งทำให้ผมสับสนมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ตอนนี้ดูเหมือนจะแน่ชัดและชัดเจนขึ้น

วันรุ่งขึ้น ผมกลับมาถึงบ้านดึกมากและพบว่าเธอกำลังเขียนบางอย่างอยู่ที่โต๊ะ ผมไม่ได้ทานอาหารมื้อเย็น แต่ตรงไปยังที่นอนและหลับลงอย่างรวดเร็ว เพราะผมเหนื่อยหลังจากวันที่แสนยุ่งกับเจน เมื่อผมตื่นขึ้นมาเธอยังคงนั่งเขียนอยู่ที่โต๊ะ ผมไม่อยากจะสนใจเธอผมจึงพลิกตัวหนีเพื่อจะนอนต่อ

ในตอนเช้า เธอยื่นเงื่อนไขการหย่าร้างของเธอ เธอไม่ได้ต้องการอะไรจากผม แค่ผมจะต้องบอกให้เธอรู้หนึ่งเดือนก่อนที่ผมจะหย่ากับเธอ เธอขอร้องว่าในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนั้น เราทั้งคู่จะพยายามดำเนินชีวิตคู่อย่างปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอให้เหตุผลง่ายๆว่า เพราะลูกชายของเรากำลังจะสอบ และเธอไม่อยากให้การหย่าของเรากระทบกระเทือนการสอบของเขา

นี่คือข้อตกลงของเธอกับผม เธอขอให้ผมระลึกถึงวันแต่งงานของเราทั้งคู่และขอให้ผมระลึกถึงช่วงเวลาที่ผมอุ้มเธอเข้าเรือนหอในวันที่เราแต่งงานกันโดยการให้ผมอุ้มเธอออกจากห้องนอนของเราไปยังประตูหน้าบ้านทุกวัน ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนสุดท้ายของชีวิตแต่งงานของเรา ผมคิดว่าเธอบ้าไปแล้วแต่ก็ตกลงยอมรับคำขอของเธอ

ผมบอกเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการหย่าร้างของภรรยาของผม เจนหัวเราะเสียงดังและคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล ไม่ว่าภรรยาของผมจะใช้มารยาอะไรที่เธอมี มันก็ไม่ทำให้เธอหลีกเลี่ยงการหย่าร้างได้ เจนกล่าวอย่างเหยียดหยาม

ผมและภรรยาไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันมาตั้งแต่ผมแสดงความตั้งใจเรื่องการหย่า ดังนั้นเมื่อผมอุ้มเธอออกไปที่ประตูบ้านเป็นวันแรก เราทั้งคู่จึงดูงุ่มง่าม ลูกชายของเราปรบมืออยู่ด้านหลัง กำลังอุ้มแม่อยู่เหรอครับ คำกล่าวของเขาทำให้ผมรู้สึกปวดใจ ระยะทางตั้งแต่ห้องนอนไปที่ห้องนั่งเล่นจนเลยไปที่ประตู ผมเดินกว่าสิบเมตรพร้อมกับเธอในอ้อมแขนของผม เธอปิดตาของเธอและพูดเบา ๆ ; อย่าบอกลูกของเราเกี่ยวกับเรื่องหย่า ผมพยักหน้ารู้สึกอารมณ์เสียบ้าง ผมปล่อยเธอลงที่ด้านนอกประตู เธอไปรอรถประจำทางเพื่อไปทำงาน ผมขับรถคนเดียวไปยังสำนักงาน

ในวันที่สอง เราทั้งคู่ต่างเกร็งน้อยลง เธอโน้มตัวบนหน้าอกของผม ผมได้กลิ่นหอมจากเสื้อของเธอ ผมตระหนักว่าผมไม่เคยจ้องมองที่ผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียดเป็นเวลานานแล้ว ผมรู้สึกตัวขึ้นมาว่าเธอไม่ได้อ่อนเยาว์อีกต่อไป มีริ้วรอยจางๆบนใบหน้าของเธอ ผมของเธอกำลังเปลี่ยนเป็นสีเทา! การแต่งงานของเราได้ทำให้เธออ่อนแรงลงไป นาทีนั้นผมถามตัวเองว่า ผมทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

ในวันที่สี่ เมื่อผมได้อุ้มเธอขึ้น ผมรู้สึกว่าความผูกพันของเรากำลังย้อนกลับมา นี่คือผู้หญิงที่ได้มอบชีวิตตลอดสิบปีที่ผ่านมาของเธอให้ผม ในวันที่ห้าและหก ผมตระหนักว่าความผูกพันของเรายิ่งมากขึ้นไปอีก ผมไม่ได้บอกเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งนานวันผ่านไป การอุ้มเธอไปที่หน้าประตูก็ยิ่งรู้สึกง่ายดายขึ้น บางทีการออกกำลังกายกับเธอในอ้อมแขนทุกเช้าอาจทำให้ผมแข็งแรงขึ้น

เธอเลือกชุดที่เธอจะใส่ในเช้าวันหนึ่ง เธอลองใส่ตัวนั้นตัวนี้อยู่พักใหญ่แต่ก็หาที่ถูกใจไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถอนหายใจ  ชุดของฉันหลวมไปหมด ในตอนนั้นเองที่ผมได้รู้ว่าร่างกายของเธอนั่นเองที่ได้ผ่ายผอมลง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงสามารถอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น

ทันใดนั้นผมก็เข้าใจทุกอย่าง ในหัวใจของเธอซ่อนความเจ็บช้ำและขมขื่นไว้มากมาย มือของผมยื่นไปแตะศีรษะของเธอโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ

ลูกชายของเราได้เข้ามาขัดจังหวะ เขาพูดว่าถึงเวลาที่ผมต้องอุ้มเธอออกไปแล้ว การที่ลูกชายของผมได้เห็นผมอุ้มแม่ของเขาออกไปกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปเสียแล้ว ภรรยาของผมกวักเรียกเขาเข้ามาแล้วกอดเขาไว้แน่นผมหันหน้าหนีเพราะกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจเรื่องการหย่าในนาทีสุดท้าย ผมเข้าไปโอบเธอขึ้นมา อุ้มเธอออกไปจากห้องนอน ผ่านห้องนั่งเล่นจนถึงประตู มือของเธอคล้องคอของผมอย่างแผ่วเบาและเป็นธรรมชาติ ผมกอดเธอไว้แน่น ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับวันแต่งงานของเรา

แต่น้ำหนักที่เบาโหวงของเธอทำให้ผมเศร้าใจ ในวันสุดท้ายเมื่อผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ผมแทบจะไม่เดินไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว ลูกชายของเราไปโรงเรียนแล้ว ผมกอดเธอไว้แน่นและกล่าวว่าผมไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าชีวิตของเราขาดความใกล้ชิด จากนั้นผมรีบขับรถไปที่สำนักงาน กระโดดออกมาจากรถอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทันจะได้ล็อคประตู ผมกลัวหากผมมัวชักช้า ผมจะเปลี่ยนใจอีก ...ผมเดินขึ้นไปที่ชั้นบน เจนเป็นคนเปิดประตูและผมบอกกับเธอ ผมขอโทษเจน แต่ผมเปลี่ยนใจเรื่องหย่าแล้ว

 

เธอมองผมด้วยความงุนงง จากนั้นจึงเอื้อมมือแตะที่หน้าผากของผม คุณไม่สบายรึเปล่า? เธอถาม ผมดึงมือของเธอออก ขอโทษนะ เจน แต่ผมจะไม่หย่ากับภรรยาของผม ชีวิตแต่งงานของผมมันอาจจะเปลี่ยนเป็นน่าเบื่อเพราะหล่อนและผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดชีวิตของเรา แต่ผมไม่ได้เบื่อชีวิตคู่เพราะเราทั้งสองไม่ได้รักกันแล้ว ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ในเมื่อผมโอบกอดเธอไว้ในวันแต่งงานของเรา ผมก็ควรที่จะโอบกอดเธอจนความตายจะพรากเราจากกัน” 

เจนดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างในทันที เธอตบผมฉาดใหญ่แล้วกระแทกประตูปิด เจนทรุดลงทั้งน้ำตา ผมเดินลงมาชั้นล่างและขับรถออกไป มาถึงที่ร้านดอกไม้ ผมซื้อดอกไม้ช่อหนึ่งเพื่อภรรยาของผม พนักงานสาวที่ร้านถามผมว่าจะให้เธอเขียนข้อความบนบัตรว่าอะไร ผมยิ้มและเขียนว่า ผมจะอุ้มคุณออกไปที่ประตูทุกเช้า จนกว่าเราจะตายจากกัน

เย็นวันนั้น ผมกลับบ้าน ผมถือดอกไม้ไว้ในมือ ผมมีรอยยิ้มบนใบหน้า ผมวิ่งขึ้นบันได...เพียงเพื่อจะพบภรรยาของผมนอนอยู่บนเตียง เธอไม่หายใจ ภรรยาของผมได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะที่ผมมัวยุ่งอยู่กับเจนเกินกว่าที่จะรับรู้อาการผิดปกติของเธอ เธอรู้ว่าเธอกำลังจะตายและเธอก็อยากจะช่วยให้ผมหลุดพ้นจากความรู้สึกแย่ๆของลูกชายที่เขาจะมีต่อผมหากว่าเราหย่าจากกัน เพราะว่าอย่างน้อย...ในสายตาของลูกชายผม ผมก็จะยังเป็นสามีที่รักใคร่ดูแลเธอ

 

จริงๆแล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในชีวิตของคุณ คือสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตไม่ใช่คฤหาสถ์หลังใหญ่ ไม่ใช่รถไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองในธนาคาร สิ่งเหล่านี้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีความสุข แต่ไม่สามารถให้ความสุขในตัวของมันเอง

ดังนั้น หาเวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนคนข้างๆคุณ และทำสิ่งเล็ก ๆ เหล่านั้นให้แก่กัน ขอให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุข!

 

หากคุณไม่ได้เผยแพร่ข้อความนี้ออกไป คุณก็ไม่ได้เสียหายอะไร  แต่ถ้าคุณทำ คุณก็อาจจะช่วยชีวิตคู่ไว้อีกหลายคู่ คนหลายๆคนยอมแพ้ในเรื่องชีวิตคู่ของเขาโดยที่เขาไม่มีทางได้รู้ว่าพวกเขาอยู่ใกล้ความสุขแค่เอื้อม

 

 

ผู้หญิงลายผีเสื้อ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
56 VOTES (4/5 จาก 14 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เลขเด็ด ธูปปู่ 2 มกราคม 2568
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!
ตั้งกระทู้ใหม่