♥วันวานยังหวานอยู่นะ♥
ทฤษฎีความหวาน ความเป็นจริงของความอาย
กับผู้ชายคนนึง (มันยากอยู่นะ)
จากแรงบันดาลใจ กระทู้ก่อนของสมาชิกท่านนึง กล่าวถึงความหวานของชีวิตคู่ไว้
ผมได้อ่านเรื่อง แนวนี้ก็รู้สึกดีทุกครั้ง
จนไม่รู้สึกเบื่อ มันทำให้จิตใจฮึกเหิม นึกถึง..
สมัยที่ยังจีบกัน รักกันใหม่ๆ....อะไรอะไร มันก็ดูโรแมนติก ...
เอาแค่ ....เธอหันมามอง ...หัวใจผมก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะแล๊ววว......
เกือบ ยี่สิบปีผ่านไป ก็เป็นปกติของหลายๆคู่ที่ พออายุมากขึ้น ความหวานก็จะ....ลดลง
ด้วยเหตุ เพราะ ความเคยชิน ความอายกับอายุที่มากขึ้น...
ผมพยายามจะทำตัวให้โรแมนติก...แต่ติดตรงความอายนี่แหละ...ทำให้ ผมมักจะ..
แฝงความโรแมนติกมากับ เทศกาลต่างๆ อย่างวันวาเลนไทน์ วันเกิด วันปีใหม่ประมาณนี้
ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ไม่มีเสียหละที่ผมจะกล้า แสดงความหวานออกมา....
เข้าเรื่องดีกว่า....
เมื่อวาน ภรรยาป่วยไม่สบาย ลุกไม่ขึ้น ..เลยเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องไปตลาด
หาข้าวปลาอาหารให้ภรรยาและเด็กๆ....
หลังจากหอบของกินได้พะรุงพะรังเต็มมือแล้ว
บังเอิญเดินผ่านร้านขายดอกไม้ในตลาด มีดอกกุหลาบสีชมพู
ดูแล้วสวยและสดชื่นมาก..
เห็นแล้ว ในใจก็อยากจะเอาไปฝากภรรยา เพื่อเติมความหวาน และให้หายป่วยเร็วๆ...
แต่นี่มันไม่ใช่เทศกาลนี่หวา ตูจะซื้อดอกกุหลาบ พร้อมกับข้าว เดินออกไปดุ่ยๆ นี่นะ
"อายชาวบ้านนา" อายุอานามก็เย๊อะแล๊นนนน......ว่าแล้วก็เดินจากออกมา จะขึ้นรถ
ทันใดก็นึกถึงกระทู้ที่เพิ่งอ่านไปเมื่อวันก่อน....อืม...ม์ ถ้าเราปล่อยมันให้มันเป็นเหมือน
ทุกๆวันที่ผ่านมา....ผมว่า ความหวาน ความรักที่มีต่อกัน มักก็อาจจะค่อยๆลดลงไป...
เหมือนอย่างหลายๆคู่ ที่ออกมาแนะนำได้....
คิดได้ดังนั้น ผมเลยกลับหลังหัน เดินกลับไปที่ร้านขายดอกไม้....ทั้งที่ที่ยังหิ้วกับข้าวเต็ม
สองมือ (ลืมเก็บที่รถเลยอะ)..
"ดอกเท่าไหร่ครับ " ผมถามแม่ค้า สาวรุ่น...ในใจคิดไว้ ยื่สิบบ้านมั๊ง เพราะจำได้ เมื่อเดือน
กุมภาฯ ซื้อให้ภรรยาดอกนึง มัน 100 บาทถ้วน ...กำลังจะควักใบร้อย จากกระเป๋า....
"5 บาทจ้า" ....เห๊อ..อ..ห้าบาทเหรอ...ผมคิดในใจ....นี่ ราคาดอกไม้ ตอนไม่ใช่ช่วงเทศกาลนี่
มันราคานี้เหรอนี่....แสดงว่า ผม ไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้ภรรยา มานานมากนอกจากช่วงเทศกาล...
หลังได้ดอกไม้มา...ผมก็พยายาม เดินดิ่งไปที่รถไม่สนใจว่าใครจะมองอะไรตามมาหรือป่าว....
แต่เท่าที่แอบมองด้วยหางตา ก็ไม่เห็นมีใคร สนใจตูนี่หว่า....คิดมากไปได้..เว๊อออออ....
ถึงบ้าน ยังไม่ทันวางของ....ได้ยินเสียง ภรรยากำลังดุลูกๆ สองคน ข้อหา ตื่นสาย...
"ถึงวันหยุดก็ต้องตื่นเช้ารู้มั๊ย...ต้องไปเรียนพิเศษ อย่าขี้เกียจ หม่าม๊าปลุกตัั้งนานแลวนะ..!!"
อูยย.....ผมนึกในใจ...วันนี้ ตูจะรอดด้วยมั๊ยเนี่ย...เพราะปกติ เวลา ลูกๆไม่สบอารมณ์หม่าม๊า
ผมมักจะเป็นรายต่อไป....หุหุ..
แต่ใจดีสู้ ภรรยาครับ หยิบดอกกุหลาบสีชมพู แอบซ่อนไว้ที่หลัง....ทำหน้า ซื่อๆ นิ่งๆ...เดินเข้าไป
ประจันหน้า...แล้ว เอาดอกไม้ที่ซ่อนไว้ ยื่นให้แบบไม่ให้ตั้งต้ว...กระซิบเบาๆ..."หายเร็วๆนะ".....
งง ครับ งง ภรรรยา ผมตั้งตัวไม่ทัน เพราะ หลายปีมานี่ไม่เค๊ยไม่เคย ที่จะมาแบบนี้.....
she นิ่งเงียบซักพัก...ค่อยตอบมา.. "อะไร...?"
"ก็หายป่วยเร็วไง เค้าเป็นห่วงนะ รู้มั๊ย.." she ยังนิ่งอยู่....แต่มือก็รับดอกกุหลาบไปดม แล้วมองจองมัน
ไม่ยอมจ้องหน้าผม.....อ่า.....เฮ้ย...นี่ จำได้...
สีหน้าแบบนี้ ตอนจีบใหม่ๆ "เขิน" นี่หว่า........
เสร็จ ผม ดึงเข้ามาหอมทีนึง แล้ว.....ก็ส่งซิก...เอานี้วชี้ แตะที่แก้มตัวเอง..เป็นที่รู้กันว่า..
จุ๊บๆ ป๊าหน่อยจิ..
โอว....แม่เจ้า....ยังกับ ได้กลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง....ที่สำคัญ..
อานิสงฆ์ ...เด็กๆ รอด.....เพราะ หม่าม๊า.ยิ้มทั้งวัน....
สรุป ...ต่างคนต่างก็เขินอาย เพราะอายุที่มากขึ้น ....
ถ้า เราไม่เริ่มก่อน ..อีกฝ่ายก็ไม่รู้จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่...
foren161
7 กรกฎาคม เวลา 06:36 น.