แต่งคอนโดห้องเล็กอย่างไร ไม่ให้อึดอัด
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบันเริ่มย้ายออกจากบ้านมาอยู่คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น ความกว้างขวางและมีที่ทางในการเดินยืดเส้นยืดสายรอบ ๆ บ้านได้ถูกชดเชยด้วยความสะดวกสบายจากการย้ายมาอยู่ตึกสูง ๆ ในทำเลที่อำนวยให้คุณไปทำงานหรือใช้ชีวิตได้สะดวกกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการอยู่ในห้องที่มีพื้นที่จำกัด และดูคับแคบลงไปถนัดเมื่อเทียบกับบ้านหลังเดิม แต่เมื่อตัดสินใจเป็นเจ้าของห้องคอนโดเล็ก ๆ แล้ว ก็ต้องหาวิธีให้ให้ผู้อาศัยอย่างเรา ๆ อยู่กันได้อย่างสบายอกสบายใจไม่อุดอู้
1. ผสมผสานการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเตี้ยและสูง
หัวใจสำคัญของการอยู่ให้สบายในห้องเล็ก ๆ คือต้องทำบรรยากาศของห้องไม่ให้เหมือนกำลังอยู่ในกล่อง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสูงใหญ่ทำให้ห้องดูแคบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ เตี้ย ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในห้องผิดส่วนผิดขนาด แต่ถ้าลองนำมันมาจัดวางรวมกันอย่างพอดี ๆ ก็จะช่วยถ่วงดุลกันได้ และให้ความรู้สึกว่าห้องดูไม่คับแคบด้วย
2. ใช้สีตัดกันเพื่อสร้างความรู้สึก
ในห้องเล็ก ๆ นั้นไม่อาจจัดแต่งด้วยของประดับมากชิ้นได้เพราะจะดูหนักห้องมากเกินไป ทดแทนรายละเอียดที่ไม่สามารถใส่ลงไปได้เหล่านั้น ด้วยการเลือกใช้ลวดลายของผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ที่ตัดกับสีสันของห้อง อย่างบานประตูสีเหลืองสดกับห้องสีขาว หรือลวดลายแนวกราฟฟิกบนผนังก็ทำให้ห้องเล็ก ๆ ดูคูลขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งอื่น ๆ เพิ่มเลย
3. เลือกใช้เก้าอี้ไม่แบบไม่มีที่วางแขน
เก้าอี้แบบไม่มีที่วางแขนนั้นเหมาะกับห้องเล็ก ๆ เป็นที่สุด เพราะมันทำให้ลุกนั่งสะดวกไม่ติดขัด ดูโปร่งกว่า ไม่เกะกะสายตา และยังกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ดีเมื่อยกย้ายไปที่บริเวณต่าง ๆ ของห้องด้วย
4. เตียงคิงไซส์
ข้อนี้อ่านแล้วอาจจะนึกสงสัยว่าถ้าห้องเล็กแล้วทำไมถึงแนะนำให้ใช้เตียงคิงไซส์ นั่นก็เพราะว่าแม้จะมีห้องเล็กแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเลือกใช้แต่ของไซส์มินิเสมอไป การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นให้มีขนาดใหญ่ ก็สามารถเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นการพักผ่อนที่แสนสบายคือสิ่งที่คุณควรจะได้ไม่ว่าห้องจะเล็กแค่ไหน เลือกเตียงใหญ่ ๆ ที่นอนได้สบาย และจัดวางเว้นออกจากผนังสักนิด สร้างพื้นที่การพักผ่อนที่ใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาขึ้นมาในห้องแสนสุขของคุณ
5. สร้างพื้นที่ใช้งานที่โดดเด่น
ในห้องเล็ก ๆ โล่ง ๆ หากปล่อยให้พื้นที่ไหลมาเชื่อมกันหมดก็จะดูจืดชืดเกินไป คุณสามารถสร้างพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์เฉพาะด้านได้ด้วยใช้พรมปูพื้นเพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งาน อย่างพรมผืนโต ๆ ที่บริเวณหน้าทีวี หรือที่มุมอ่านหนังสือ นอกจากทำให้พื้นที่ใช้งานตรงนั้นโดดเด่นขึ้นมา ห้องไม่ดูจืดชืดแล้ว ยังดูเป็นสัดส่วนดี และไม่คับแคบเหมือนการแบ่งพื้นที่ด้วยตู้ หรือชั้นวางของด้วย
6. ติดผ้าม่านจากเพดานลงมา
ปกติเรามักติดรางผ้าม่านกันที่เหนือบขอบหน้าต่าง แต่หากเป็นห้องเล็ก ๆ และต้องการหลอกตาให้ดูใหญ่ขึ้นล่ะก็ ลองเปลี่ยนไปติดรางผ้าม่านที่สุดผนังชิดเพดานดู ผ้าม่านที่ทิ้งตัวเต็มผนังจากเพดานลงมา จะทำให้รู้สึกเหมือนมีหน้าต่างบานสูงใหญ่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
7. ติดตั้งชั้นวางของเหนือแพนทรีเตรียมอาหาร
ปกติพื้นที่เหนือแพนทรีมักกลายเป็นส่วนของตู้ลอยตัวเพื่อใช้เก็บจานชามและอาหารแห้งต่าง ๆ แต่หน้าบานตู้ก็ชวนให้รู้สึกอึดอัดและคับแคบได้ หากลองเปลี่ยนเป็นติดตั้งชั้นเปลือยแทน ก็จะทำให้ดูโปร่งโล่งตาขึ้น และยังใช้วางข้าวของได้เช่นเดิม
8. ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงกลมมน
เปลี่ยนจากการใช้เฟอร์นิเจอร์รูปเหลี่ยม หรือมีมุมเหลี่ยม เป็นเฟอร์นิเจอร์ทรงกลม ทรงรี หรือมีปลายโค้งมนแทน ก็จะช่วยลดทอนความรู้สึกเหมือนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมได้ และยังให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ไม่แข็งทื่อจนเกินไปอีกด้วย
9. ใช้ลายทางเพิ่มความยาว
เพิ่มความยาวให้ห้องดูยืดออกไป ด้วยการการใช้เส้นสายในแนวยาว อย่างลวดลายแนวยาวที่ฝ้าเพดานหรือบนพื้นห้อง ทำให้ห้องดูสูงโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัดมากนัก
10. ใช้ประตูและหน้าบานกระจก
อย่างที่กล่าวไว้ว่าหน้าบานมักทำให้ห้องรู้สึกทึบตัน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นหน้าบานกระจก ไม่ว่าจะเป็นหน้าบานของตู้เก็บของ หรือประตูของส่วนวอล์ค-อิน โคลเซ็ท เมื่อพื้นที่แคบ ๆ ได้แสงสว่างส่องทั่วถึง และห้องมีประกายความแวววาวจากเงาสะท้อนของกระจก ก็ช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นได้ดีทีเดียว ใครที่เป็นเจ้าของห้องเล็ก ๆ และอยากจะทำให้มันดูโปร่งโล่ง อยู่สบายขึ้น อย่าลืมนำไปใช้กันดูนะครับ