"สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์" ที่ดูคล้ายกับสัตว์ในปัจจุบันแต่แปลกกว่ากันเยอะ
ยุคดึกดำบรรพ์ หรือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (Prehistoric) เต็มไปด้วยสัตว์ใหญ่ยักษ์หน้าตาแปลกๆ ที่เราคิดไม่ถึงมากมาย ในบรรดาสัตว์เหล่านี้ก็มีบางสายพันธุ์ที่ดูคล้ายๆ กับสัตว์ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน แต่มีอะไรที่แปลกประหลาดกว่ามาก และนึกไม่ออกเลยว่าถ้าสัตว์ปัจจุบันหน้าตาแบบนี้จริงๆ โลกเราจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย
Platybelodons
ที่มาภาพ Prehistoric Blog
สายพันธุ์สัตว์โบราณที่ใกล้เคียงกับช้างไม่ได้มีแต่ช้างแมมมอธเท่านั้น เมื่อประมาณ 10 ล้านปีที่แล้ว ในสมัยที่สัตว์ต่างๆ ยังอยู่ในช่วงวิวัฒนาการไม่สุด มีช้างแบบแปลกๆ อีกชนิดที่หน้าตาดูเหมือนธรรมชาติยังสร้างไม่เสร็จดีอยู่ชื่อว่า Platybelodons
ขากรรไกรล่างของ Platybelodons ที่เหมือนพลั่วไม่มีผิด
ที่มาภาพ scienceblogs
นักชีววิทยาสัตว์โบราณถกเถียงกันมานานแล้วว่า เหตุใดธรรมชาติจึงสร้างให้สัตว์ชนิดนี้มีหน้าตา(อัปลักษณ์)เช่นนี้ บางคนก็เชื่อว่าปากแบนๆ ที่เหมือนกับพลั่วนี้น่าจะใช้ในการช้อนพืชน้ำขึ้นมากิน ในขณะที่อีกหลายคนเชื่อว่าปากนี้เอาไว้คาบกิ่งไม้แล้วใช้ฟันล่างที่เหมือนกับเลื่อย เลื่อยกิ่งต้นไม้ออก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ธรรมชาติคงเห็นแล้วว่าปากแบบนี้คงไม่เหมาะกับช้างเท่าไหร่ ช้างสายพันธุ์นี้จึงสูญพันธุ์ไปและเหลือเพียงแต่ช้างแบบที่เราเห็นในปัจจุบันเท่านั้น
Meganeura
ที่มาภาพ Land of the Dead , Alien Realities
Meganeura เป็นแมลงที่คล้ายๆ กับแมลงปอแต่ตัวใหญ่กว่ากันมาก เมื่อกางปีกแล้วตัวจะกว้างถึง 2 ฟุตเลยทีเดียว มันอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 300 ล้านปีก่อน และถือเป็นแมลงนักล่าบินได้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และแน่นอน ที่ว่าเป็นสัตว์นักล่าก็เพราะนอกจากกินแมลงอื่นแล้ว มันกินเนื้อเป็นอาหารด้วย
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาเหตุที่มันสูญพันธุ์ไปก็เนื่องมาจากขนาดที่ใหญ่เกินไปทำให้ต้องใช้ออกซิเจนในการหายใจมาก และเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปมันก็เลยอาศัยอยู่ไม่ได้และสูญพันธุ์ไป ซึ่งน่าจะเป็นโชคดีของเรา เพราะถ้ามันยังอยู่จนถึงทุกวันนี้เราอาจจะมีแมลงตัวใหญ่ยักษ์ที่คอยจ้องจะกินหัวอยู่ตลอดเวลาก็เป็นได้
Odontochelys Semitestacea
ที่มาภาพ memozee
นี่เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ดูเหมือนธรรมชาติจะขี้เกียจสั่งให้วิวัฒนาการมากที่สุด เมื่อประมาณ 220 ล้านปีก่อน เต่า Odontochelys semitestacea หน้าตาเหมือนกับเต่าปัจจุบันไม่มีผิด แต่ด้วยความที่มันไม่มีกระดองทำให้มันเป็นเหยื่ออันโอชะของเหล่านักล่าใต้น้ำ เพื่อเป็นการป้องกันตัว มันจึงวิวัฒนาการบริเวณส่วนท้องให้กลายเป็นกระดองแข็งๆ เพราะสัตว์นักล่าที่อยู่ในน้ำลึกส่วนมากจะโจมตีจากด้านล่างขึ้นมา แต่ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสัตว์นักล่าเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเต่ามีกระดองแข็งตรงท้อง จึงเปลี่ยนวิธีมาโจมตีเต่าจากทางด้านบนแทน ทำให้ยังไงมันก็ถูกจับกินอยู่ดี

กระดองของเต่าปัจจุบันพัฒนามาจากกระดูกหลังที่รวมเข้ากับกระดูกซี่โครง
ที่มาภาพ all-about-reptiles , memozee
อย่างไรก็ตาม ฟอสซิลของ Odontochelys semitestacea ก็ช่วยทำให้นักชีววิทยาสัตว์โบราณรู้ได้ว่าเต่าพัฒนากระดองขึ้นมาได้อย่างไร จากตอนแรกที่เข้าใจกันว่ากระดองวิวัฒนาการมาจากผิวหนัง ตอนนี้จากหลักฐานฟอสซิลที่มีอยู่ก็ทำให้รู้ว่ากระดองน่าจะพัฒนามาจากกระดูกหลังและกระดูกซี่โครงที่รวมเข้าด้วยกันมากกว่า
Carcharocles Megalodon
ที่มาภาพ Carnivora
ฉลามใหญ่ที่สุดในปัจจุบันนี้ก็คือ ฉลามวาฬ ซึ่งชื่อฟังดูน่ากลัวแต่จริงๆ แล้วมันคือยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลที่กินแต่สัตว์เล็กๆ อย่างแพลงก์ตอนเป็นอาหารและไม่ทำอันตรายใครเท่าไหร่ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 1.5 – 3 ล้านปีที่แล้ว ฉลามใหญ่ที่สุดแห่งท้องทะเลMegalodon ไม่มีความน่ารัก ใจดีเหมือนฉลามวาฬเลยสักนิด
ที่มาภาพ Carnivora
ด้วยขนาดตัวประมาณ 70 ฟุต (20 เมตร) ทำให้ Carcharocles Megalodon เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ใหญ่ขนาดที่กลืนรถเก๋งทั้งคันได้สบายๆ และที่ทำให้มันน่ากลัวกว่าขนาดอันใหญ่โตก็คือความจริงที่ว่ามันกินเนื้อเป็นอาหาร และเป็นสัตว์นักล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในท้องทะเล และต้องขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งที่ฉลามสายพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เพราะแค่ทุกวันนี้ฉลามธรรมดาก็ทำเอามนุษย์อย่างเรากลัวหัวหดกันหมดแล้ว ถ้าตัวใหญ่ขนาดนี้อีกคงไม่มีใครกล้าลงทะเลแน่ๆ
Odobenocetops
ที่มาภาพ Wikipedia
นี่คือตัวอย่างของสัตว์โบราณที่ดูเหมือนเกิดจากการนำเอาสัตว์สองชนิดมารวมเข้าด้วยกัน Odobenocetops มีชีวิตอยู่เมื่อ 3.5 ล้านปีก่อน ถึงจะหน้าตาเป็นแบบนี้แต่ความจริงแล้วมันเป็นสัตว์จำพวกวาฬที่ดันไปมีหน้าเหมือนกับสิงโตทะเล ออกมาเป็นสัตว์ที่ดูคล้ายๆ กับพะยูนได้อย่างไรไม่รู้
Odobenocetops น่าจะเป็นสัตว์ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เพราะว่ามันมีชีวิตอยู่ในช่วงเดียวกับฉลาม Megalodon (จากในหัวข้อด้านบน) อาวุธป้องกันตัวที่มันพอจะมีก็คือเขี้ยวสองข้าง ที่อาจจะยาวได้ถึง 3 เมตร แต่กลับใช้ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเขี้ยวนี้เปราะบางมาก และอาหารของมันก็คือพวกหอยกับหนอนทะเลที่อาศัยอยู่ก้นมหาสมุทร แค่ดูหน้าเศร้าๆ ของมันก็รู้สึกสงสารแล้ว
Helicoprion
ที่มาภาพ Top Tenz
Helicoprion ก็คือฉลามเมื่อ 250 ล้านปีก่อน ซึ่งขากรรไกรล่างมีลักษณะยาว ม้วนได้ และมีฟันแหลมคมเหมือนกับใบเลื่อย จริงๆ แล้วนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าหน้าตาจริงๆ ของฉลามสายพันธุ์นี้เป็นยังไงกันแน่ เพราะเนื่องมาจากกระดูกของฉลามส่วนมากเป็นกระดูกอ่อน จึงยังไม่มีใครเจอหลักฐานที่ทำให้รู้หน้าตามันได้อย่างแน่ชัด ดังนั้นจากหลักฐานเท่าที่มีอยู่ก็เลยสร้างแบบจำลองฉลาม Helicoprion ได้ออกมาอย่างที่เห็น (ในตอนแรกนักวิทยาศาสตร์นึกว่าขากรรไกรของมันคือฟอสซิลหอยโบราณด้วยซ้ำ)
ขากรรไกรของ Helicoprion ที่ตอนแรกนักวิทยาศาสตร์เข้าใจผิดว่าเป็นฟอสซิลหอย
ที่มาภาพ Wired
จนถึงตอนนี้ นักชีววิทยาสัตว์โบราณก็ยังพยายามคิดว่าฉลามสายพันธุ์นี้กินอาหารได้อย่างไร ก็แน่ด้วยปากประหลาดๆ แบบนี้ เลยมีทฤษฎีว่า ฉลาม Helicoprion อาจจะใช้ขากรรไกรที่ยื่นได้นี้เหมือนกับเป็นแส้หนามพุ่งออกไปพันตัวเหยื่อแล้วลากมาเข้าปาก แต่ก็ยังไม่เข้าใจกันอยู่ดีว่าแล้วมันจะมีขากรรไกรแบบนี้เอาไว้ทำไมในเมื่อเอามาใช้เคี้ยวอาหารไม่ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุให้แบบจำลองฉลามพันธุ์นี้มีหลากหลายแบบตามจินตนาการของคน สร้าง

ล่าสุดเชื่อกันว่าขากรรไกรม้วนๆ ของ Helicoprion น่าจะเป็นดังรูปนี้
ที่มาภาพ Wikipedia
ในตอนแรกมีการเดากันว่า ปกติแล้วฉลามจะม้วนขากรรไกรล่างนี้เก็บไว้ข้างล่าง(แบบรูปแรกสุด) แต่ข้อสันนิษฐานล่าสุดคือ ฉลามน่าจะม้วนขากรรไกรที่มีฟันแหลมๆ นี้เก็บไว้ในปากตัวเองมากกว่า ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง ไม่รู้จะนึกภาพตามยังไงดี
Kaprosuchus saharicus
ที่มาภาพ Prehistoric Animals
จระเข้เป็นสัตว์นักล่าน่ากลัวอีกชนิดหนึ่งแต่เฉพาะเวลาที่อยู่ในน้ำเท่านั้น ถ้าขึ้นบกมาเมื่อไหร่มันก็จะกลายเป็นแค่สัตว์ตัวใหญ่ เดินเอื่อยๆ ที่มีฟันแหลมแต่วิ่งไล่ใครไม่ค่อยทันเท่านั้น (ถ้าไม่เข้าใกล้เกินไปนะ) แต่ไม่ใช่กับจระเข้ Kaprosuchus saharicus ที่อาศัยอยู่เมื่อ 100 ล้านปีก่อนแน่ๆ
Kaprosuchus saharicus น่าจะเป็นจุดสุดยอดของวิวัฒนาการจระเข้ มันเป็นสัตว์นักล่าที่ได้เปรียบเกือบทุกอย่าง ด้วยขายาวแบบไดโนเสาร์ ทำให้นอกจากมันจะว่ายน้ำได้แล้วมันยังวิ่งได้อีกด้วย ขาดแต่บินไม่ได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์นักล่าไร้เทียมทานแต่เมื่อเข้าสู่ยุคน้ำแข็งมันก็สูญพันธุ์ไป ซึ่งอาจจะเป็นโชคดีของเราก็ได้ที่ปัจจุบันเหลือแต่จระเข้ขาสั้นๆ แบบที่เรารู้จักเท่านั้น ไม่อย่างนั้นนึกไม่ออกเลยว่าเราจะวิ่งหนีจระเข้แบบนี้ยังไง
ที่มา Cracked , Cracked2
แปลและเรียบเรียงโดย
ทีมงาน everyday-readers.com
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติ
เกิดอุบัติเหตุ สะพานลอยพังถล่ม ทับรถที่ สัญจรอยู่เบื้องล่าง
ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศ
โซเชียลไทย "ไม่ทน" งัดหลักฐานซัด "โค้ชเวียดนาม" หาว่ากรรมการเข้าข้างไทย
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
วิเคราะห์หวย AI น่าจะออกรางวัลงวด 16 ธันวาคม 2568
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
รัฐเซีย หวังให้ไทย กับ กัมพูชา หยุดยิง พร้อมส่งทูตมาเจรจา
เปิดเหตุผลทำไม"เนิน 350"ใช้ "F-16 - Gripen" ไม่ได้
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
รัฐเซีย หวังให้ไทย กับ กัมพูชา หยุดยิง พร้อมส่งทูตมาเจรจา
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ถ้าคนอื่นทำงานได้ดีแล้ว ก็ให้เขาทำต่อไปเด้อครับเด้อ ขอบคุณมากครับ
"จีน" ออกมาปฏิเสธแล้ว! ไม่ได้ส่งอาวุธสมัยใหม่ให้ "กัมพูชา" มารบกับ "ไทย"







