หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติ Camfrog ในประเทศไทย อ๊บๆ

โพสท์โดย ฮั่นแน่

 

 
โปรแกรม Camfrog เป็น โปรแกรมสนทนา ผ่านระบบ Internet ซึ่งมีความแตกต่างจาก โปรแกรมสนทนา โปรแกรมอื่น อย่าง MSN,QQ,Yahoo ในเรื่องของระบบ ภาพผ่านกล้อง webcam ที่มีความคมชัด,ระบบเสียงที่คมชัด และ ที่โปแกรมสนทนาอื่นๆไม่มีนั่นคือ ระบบห้องประชุม(conference room) หรือเรียกง่ายๆว่า ห้องสนทนา ที่ผู้ใช้งานโปรแกรมจากทั่วโลกสามารถ เลือกใช้งานห้องชื่นชอบได้ตามต้องการ ซึ่งในส่วนของห้องประชุมนี้เอง เป็นทั้งข้อดี และข้อเสีย ของตัวโปรแกรมนี้

 

 
        ถ้ากล่าวย้อนหลังไป เราอาจจะเคยได้ยินชื่อโปรแกรมนี้ในเชิง ลามกอนาจาร เนื่องจากความสมบรูณ์ ของระบบที่กล่าวมาข้างต้น บวกกับ ระบบห้องสนทนาทำให้เกิดการใช้งานในรูปแบบของโชว์ลามกอนาจาร ออนไลน์ โดยมีการเปิดห้องสนทนาขึ้น แล้วจัดให้มีการโชว์ลามกอนาจาร และมีดีเจคอยเปิดเพลงเพื่อเร้าอารมณ์ผู้ใช้งานและ ผู้โชว์ลามกอนาจารอยู่ตลอดเวลา
 
        โปรแกรมCamfrog ได้เข้ามาในเมืองไทยเมื่อไหร่นั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่ได้เริ่มก่อตัวและกระจายความนิยมขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ภายในเวลา 2 ปี โดยห้องสนทนาแรกที่เป็นของคนไทยนั้นมีผู้กล่าวอ้างว่าคือห้องชื่อ Thai_Buzz แต่ที่ทราบแน่ชัดคือ ห้องสนทนาที่จัดโชว์ลามกอนาจารอย่างอุกอาจ จนเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ห้องแรก คือห้อง Narok_Club
และห้องที่ทำให้โปรแกรมแคมฟ๊อกต้องโดนปิดกั้นสัญญาณคือ ห้อง JunRai
 
        โปรแกรม Camfrognเกิดเป็นข่าวขึ้นเมื่อ รายการถอดรหัสได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมานำเสนอเมื่อประมาณ ปลายเดือน ธันวาคม 2550 และ ทำให้สื่อเกิดกระแสตื่นตัวในการทำข่าวเรื่องนี้ขึ้น จนกระทั่งวันที่ 29 ธันวาคม 2550 กระทรวงเทคโนโลยีสาระสนเทศ ได้ประกาศปิดกั้นสัญญาณของโปรแกรมลง ซึ่งในช่วงเวลานั้นผู้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่องว่า ทางกระทรวง แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หรือที่ปลายเหตุ กันแน่
 
 
          ซึ่งถ้าพูดกันในทางความจริง สื่อในขณะนั้นที่หยิบยกประเด็นขึ้นมา หาได้พูดถึงความจริงทั้งสองด้านคือนอกจากมีกลุ่มผู้ใช้งานในเชิงลามกอนาจารแล้วยังมี กลุ่มผู้ใช้งานในด้านสร้างสรรค์ ต่างๆ ทั้งกลุ่มผู้ใช้งานที่พิการทางด้านการได้ยินและการพูด กลุ่มผู้ใช้งานในรูปบริษัทที่เปิดใช้งานห้องประชุมออนไลน์กันระหว่างสาขา กลุ่มผู้ใช้งานจากต่างประเทศที่ต้องการสนทนนากับผู้ที่อยู่ในประเทศไทย ฯลฯ
 
         หลังจากการโดนปิดกั้นสัญญาณ เพียง 3 ชม. แต่ยังมีผู้เข้าไปใช้งานได้อยู่ในบางส่วนเนื่องจาก ทางกระทรวงฯ ICT ได้ปิดกั้นเพียงแค่สัญญาณจาก กสท. โทรคมนาคม ก็ได้มีการรวมตัวกันของผู้ใช้งาน ในห้องสนทนาชื่อ Thai_Camfrog_Network ซึ่งเจ้าของเป็นนักศึกษาไทยในประเทศเบลเยี่ยม และ ผู้ให้บริการเช่าเซิฟเวอร์ เพื่อระดมผู้ที่ใช้งานโปรแกรมนี้ที่ยังสามารถเข้ามาใช้งานได้ในขณะนั้น มาปรึกษาหาทางแก้ปัญหา โดยใยวันแรกนั้น ผู้ใช้งานโปรแกรมที่เข้ามาได้ บางคนยังมีท่าทีไม่สบอารมณ์กับการกระทำดังกล่าวของทางกระทรวง ICT และด่าทอ จนทำให้การระดมความคิดในครั้งนี้ ต้องยืดเยื้อออกไป
 
 
          เช้าวันแรกแห่งการโดนปิดกั้น ได้มีผู้ใช้งานโปรแกรม Camfrog เกิดไอเดียในการนำ โปรแกรมแปลง IP Address  เข้ามาใช้เนื่องจาก การปิดกั้นช่องสัญญาณนั้น จะมีผลกับผู้ที่ใช้ IP Address  ที่อยู่ในเมืองไทย ซึ่งถ้ามีการหลอกระบบอินเตอร์เน็ตว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานนั้น มี IP Address ของเมืองนอกก็จะสามารถเขามาใช้งานได้ ซึ่งโปรแกรมที่ถูกนำมาใช้งานในช่วงเวลานั้นชื่อว่า Proxy Cap จึงส่งผลให้มีการแจกจ่ายและมีผู้ที่รู้วิธีการเข้ามา ร่วมประชุมและหาทางแก้ไขเพิ่มมากขึ้น
        
          เช้าวันที่ สองของการโดนปิดกั้น ก็ได้มีกลุ่มของผู้ใช้งานโปรแกรม Camfrog ในเชิงสร้างสรรค์ เข้าไปรวมตัวกันยัง หน้าสถานนีโทรทัศน์ ITV ที่ตึกทำการชินวัตร 3 เพื่อขอยื่นหนังสือคัดค้านการปิดกั้นช่องสัญญาณในครั้งนี้ เนื่องจากทำให้ผู้ใช้งานในทางสร้างสรรค์ เกิดความเสียหาย และถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ซึ่งเมื่อได้มีการยื่นหนังสือดังกล่าวแล้ว กลุ่มผู้ใช้งานโปรแกรม Camfrog ได้แยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อมาร่วมปรึกษาหารือกันต่อในโปรแกรม โดยในการประชุมคืนนั้น มี มติว่าให้มีการนำหนังสือไปยื่นต่อตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT โดยตรงในเช้าวันถัดมา
 
          ซึ่งในเช้าวันนั้นเอง ก็ได้มีกลุ่มตัวแทนของผู้ใช้งานโปรแกรม Camfrog ในนาม “ชมรมCamfrog สีขาว” เข้ายื่นหนังสือกับทางรองปลัดกระทรวง ICT โดยยื่นข้อเสนอ และขอประชุมหาแนวทางออกกับทางกระทรวง ICT ในวันที่ 14กุมภาพันธ์ 2550 โดยในวันนั้นเอง ทางรายการถอดรหัส มาขอทำรายการเพื่อนำไปออกอากาศในอาทิตย์ถัดไป
 
          ในช่วงเที่ยงของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ชมรม Camfrog สีขาว ได้เข้าร่วมประชุมจำนวน 7คน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นายชูชาติ ภาสบุตร ร่วมประชุมด้วย ผลสรุปที่ได้รับเป็นที่น่ายินดี คือทาง กระทรวง ICT ได้มีมติ ปลดล๊อคการปิดกั้นช่องสัญญาณ และเห็นชอบที่จะให้มีอาสาสมัครเข้ามาสอดส่องดูแลการใช้งาน โปรแกรมในรูปแบบของชมรม ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า Camfrog เป็นโปรแกรมสนทนาทางอินเตอร์เน็ตโปรแกรมแรกที่จะมีการดูแลกันเองในรูปแบบของชมรม
 
 
           แต่การได้มาซึ่งอิสรภาพของการใช้งานโปรแกรม Camfrog ในครั้งนี้ ก็นำมาซึ่งความล้มเหลวของระบบจัดการ ชมรมด้วยเช่นกัน เมื่อมีการเปิดใช้งานอีกครั้งในช่วงแรก กลุ่มผู้ใช้งานโปรแกรมรวมถึงเจ้าของห้องสนทนา ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ซักระยะหนึ่งก็เริ่มมีการโชว์ลามกอนาจารอีกครั้ง ประกอบกับการสรรหาประธานชมรมในช่วงนั้นมีการ ดิสเครดิต และ เล่นพรรคเล่นพวก จนได้มาซึ่งทีมบริหารชมรมซึ่งไม่บริสุทธิ์ ทำให้ชมรม ต้องล้มเลิกไป
 
           และแล้วการใช้งานโปรแกรมในรูปแบบโชว์ลามกอนาจารก็เริ่มก่อตัวและขยายวงกว้างอีกครั้ง ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ร้อนถึงกลุ่มคนบางกลุ่ม(ไม่สามารถเอ่ยนามผู้ร่วมงานได้เนื่องด้วยอาจไม่ปลอดภัยจึงของเอ่ยสั้นๆว่ากลุ่ม CamfrogThailand)ซึ่งเห็นความไม่โปร่งใสของชมรมและแยกตัวออกมา ได้ติดต่อกับทางกระทรวง ICT อีกครั้งเพื่อขอเสนอทางแก้คือ ให้ปิดกั้นช่องสัญญาณ เป็นบางห้องที่มีการโชว์ลามกอนาจาร ซึ่งทางกระทรวงICT นั้นก็เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาที่น่าจะดีกว่าการปิดกั้นสัญญาณทั้งหมด อีกทั้งในช่วงเวลานั้นทางกระทรวงกำลังผลักดันร่างพระราชบัญญัติผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์อยู่ด้วยเช่นกัน
 
 
           สถานการณ์การโชว์ลามกอนาจารในโปรแกรม Camfrog สงบนิ่งได้ไม่นานก็ประทุอีกครั้ง เมื่อร่างพระราชบัญญัติผู้กระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ผ่านและมีผลบังคับใช้ ทำให้ทางกระทรวงไม่สามารถปิดกั้นช่องสัญญาณให้กับทางกลุ่มผู้ให้ความร่วมมือได้เนื่องจาก ผิดพระราชบัญญัติ ทำให้ เจ้าของห้องโชว์ลามกอนาจารต่างๆจัดโชว์ลามกอนาจารอีกครั้ง ซึ่งทางกลุ่ม CamfrogThailand ได้เขียนอีเมล์ไปยัง  เจ้าของโปรแกรม Camfrog และหาทางแก้ปัญหาร่วมกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ จนได้ข้อสรุปของการช่วยเหลือจาก เจ้าของโปรแกรม ถึงสี่ข้อ คือ
 
1. จัดการแยกประเทศไทยออกมาเป็นโซนพิเศษ จากเดิมที่มี โซนอเมริกา โซนเอเชีย โซนแอฟฟริกา ฯลฯ และห้ามโชว์ลามกอนาจารในโซนนี้โดยสิ้นเชิง
2. จัดเจ้าหน้าคนไทยที่ลงมาดูแลภายใต้ รหัสผู้เล่น ThailandTOS (TOS ย่อมาจาก Term Of Service) โดยสามารถ ปิดห้องสนทนาที่ตรวจพบว่ามีการโชว์ลามกอนาจาร และลบไอดีผู้เล่นที่ทำการโชว์ลามกอนาจาร
3. มีการล๊อค IP Address ของผู้เล่นที่ลงทะเบียนจากประเทศไทย ให้ไม่สามารถไปยังโซนอื่นๆได้นอกจากโซน Thailand นอกเสียจากจะต้องเสียเงินซื้อโค๊ดพิเศษมาใช้ซึ่งลดปริมาณคนที่เข้ามาใช้งานเพียงเพื่อจะดูห้องโชว์ลามกอนาจารลงได้จำนวนหนึ่ง
4.จัดให้มีห้องสนทนาพิเศษที่ขึ้นตรงกับทาง Camfrog จำนวน 2 ห้องคือ ห้องสนทนา CamfrogThailand สำหรับผู้ที่หัดเล่นใหม่ได้เข้ามาผู้คุยและซักถามวิธีการใช้งาน และห้องสนทนา ThailandHelper สำหรับทีมปฎิบัติงานช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ ThailandTOS                ซึ่งการติดต่อกันในครั้งนี้ นำมาซึ่งการใช้งานของโปรแกรม Camfrog ในแนวทางที่ดีขึ้นจนถึงวันนี้ และ อาจเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับโปรแกรมสนทนาที่มีปัญหาในเรื่องของการโชว์ลามกอนาจารแบบโปรแกรม Camfrog
 
การทำงานและแนวทางปฏิบัติของทีม ThailandTOS
 
       หากเข้ามาใช้งานโปรแกรม Camfrog ในตอนนี้กับเมื่อ สอง ปีก่อน จะเห็นความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเนื่องจาก เมื่อสองปีก่อนอาจเห็นภาพของหลายๆห้องสนทนามีการโชว์ลามกอนาจารไปจนถึงการร่วมเพศกัน จนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ ณ เวลานี้ หากเข้ามาสิ่งที่ได้พบคือ โปรแกรม Camfrog เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงกล่าวคือ สามารถให้มีการโชว์ได้เพียงแค่วาบหวิว หรือไม่ส่อในทางลามกอนาจาร ซึ่งหากเกินกว่านั้นแล้วทางทีม ThailandTOS มีหลักฐาน ห้องสนทนานั้น จะโดนปิดตัวลงพร้อมกับ การทำลายโค๊ดในการเปิดห้องสนทนานั้นๆทิ้ง ซึ่งโค๊ดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หากไม่มีการซื้อก็จะไม่สามารถเปิดห้องสนทนาได้ (ราคาของโค๊ดอยู่ที่ 4,000-6,0000บาท) ทำให้เจ้าของห้องมีสามัญสำนึกและเกรงกลัวต่อการโชว์ลามกอนาจารเพิ่มขึ้น
 
         หากถามว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกวิธีไหม ? อาจตอบได้ว่าไม่ถูกวิธีนัก เนื่องจาก เจ้าของห้องที่ทำการเปิดห้องสนทนานั้น ส่วนใหญ่ยังเป็นนักศึกษาที่มีความคึกคะนอง และยังไม่สามารถหาเงินได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง ซึ่งการทำลายโค๊ดห้องเช่นนี้ ก็ไม่เป็นการเหมาะสมนัก แต่หากกล่าวโดยรวมแล้ว เท่าที่ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ ThailandTOS นี่คือวิธีการที่ดีที่สุด จากทุกวิธีที่เคยลองทำมาแล้วหลายๆวิธี ที่ต้องทำวิธีการนี้ ก็เพื่อคนส่วนมากที่ต้องการเข้ามาใช้งาน Camfrog ในเชิงสร้างสรรค์ และเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดกรณีการปิดกั้นสัญญาณการใช้งานโปรแกรม Camfrog เป็นครั้งที่สอง และทางเราเองก็หวังว่าจะมีคนเปลี่ยนทัศนคติ และลองเข้ามาใช้งานโปรแกรมนี้ ดูซักครั้งเพื่อพิสูจน์ ถึงศักยภาพและ ประโยชน์ของการงานใช้งานโปรแกรมนี้ได้

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ฮั่นแน่'s profile


โพสท์โดย: ฮั่นแน่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
29 VOTES (4.1/5 จาก 7 คน)
VOTED: kit
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แคปชั่นสวัสดีเดือนธันวาคม 2567 hello december ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี 2024คุณหมอนักมวยกรง ความลับแตก เพราะได้แชมป์เมื่อนักท่องเที่ยวกลับจากไทย ได้ของที่ระลึกไปคนละชิ้น ของไม่ธรรมดาซะด้วยแจ้งโอนเงิน 10,000 เข้าบัญชี 19 ธ.ค.นี้ เช็คผู้มีสิทธิ์ได้8 ผลไม้ต้านมะเร็ง กินได้ทุกวัน ผลไม้ที่มะเร็งกลัวกรุงโซลหิมะตกหนัก รถติดจนชายคนหนึ่งใช้สกีไปทำงานแอลกอฮอล์เป็นพิษ คิดสักนิดก่อนจะดื่ม อย่าสนุกจนลืมระวัง และ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดปริมาณกี่มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ?งานแสดงสุดอลังกาล!! ณ กลางสนามหลวง สักการะพระเขี้ยวแก้ว 1 ปีมีครั้งผดส.รถไฟสำลักควัน หลังชายใส่หูฟังสูบบุหรี่บน MRTมิตซู รีพับบลิค ประกาศหยุดดำเนินการเป็นดีลเลอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่! เจอแล้ว เจ้าของเสียงในบ้าน ยาว 5 เมตร ห้อยจากฝ้าเพดาน15 เรื่องแปลกประหลาดในเอเชีย ที่ชาวเอเชียบางคนยังไม่เคยรู้มาก่อน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พี่เขยหื่นลวงน้องเมียวัยสิบขวบกักขังขืนใจ-อัดคลิปขาย!กระทรวงกลาโหมเร่งดำเนินการประสานงานกับเมียนมาเพื่อนำตัวลูกเรือชาวไทย 4 คนกลับประเทศในวันนี้ทำไมการเก็บขยะรีไซเคิลถึงมีผลกระทบกับอนาคตโลก? วิจัยล่าสุดเปิดเผยข้อเท็จจริงสะพานเป่ย์ผานเจียง สะพานขึงที่สูงที่สุดในโลก ความยิ่งใหญ่แห่งวิศวกรรมจีน
ตั้งกระทู้ใหม่