“มหาราชโสด” แห่งกรุงศรีอยุธยา
สวัสดีครับเพื่อนๆ ระยะนี้หลายคนคงได้อ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทยและพม่าในด้านการรบกันมาพอสมควร วันนี้จึงอยากพามาศึกษาเรื่องราวอีกแง่มุมหนึ่งของพระมหากษัตริย์ไทยกับเรื่องราวของความรักกันบ้าง ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร จริงเท็จแค่ไหน ก็ขอให้ได้ศึกษาและไตร่ตรองกันตามวิจารณญาณของแต่ละบุคคล และเช่นเคย ผมเป็นเพียงคนนำเรื่องราวมาเท่านั้น เจตนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเพื่อเป็นสาธารณะ มิได้มีเจตนาเป็นอื่นใด ขอให้เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ...mata
พระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น “มหาราช” จากชาวไทยทั่วหล้า และทรงครองความเป็นโสด ตลอดพระชนมายุของพระองค์ โดยที่มิทรงอภิเษกหรือมีพระชายา จนกลายเป็นที่กังขากันว่าเพราะเหตุใด พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ มีคนเรียกพระองค์ว่า “มหาราชดำ” และเราต่างก็รู้จักพระองค์ท่านในพระนามว่า “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” นั่นเอง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพระราชบิดาแห่งกองทัพไทย เนื่องจากในรัชสมัยของพระองค์นั้น กรุงศรีอยุธยาต้องทำสงครามอยู่ตลอดเวลา พระองค์ทรงมีความรักเฉกเช่นปุถุชนธรรมดาเช่นกัน หากแต่ว่าในความรักของพระองค์นั้น ทรงเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมา เรียกว่าเป็นเป็น โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่ทรงทำให้พระหฤทัยปิดฉากเกี่ยวกับความรักลงตลอดกาล….
เมื่อครั้งที่ประเทศไทยต้องตกเป็นประเทศราชของพม่า ในครั้งนั้นพระเจ้าหงสาวดีทรงมีพระประสงค์ที่จะให้หน่อขัตติยะยุวกษัตริย์ไทยพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นพระราชโอรส“พระมหาธรรมราชา” เดินทางไปอยู่เมืองหงสาวดี เพื่อเป็นตัวประกัน
พระนเรศวรทรงเดินทางไปพำนักอยู่ในประเทศพม่าตั้งแต่มีพระชนมายุได้ ๙ พรรษา จนกระทั่งพระองค์ทรงเติบใหญ่ขึ้นมา มีพระชนมายุได้ ๑๖ ปี
ในยามนั้นทรงมีความสัมพันธ์รักมั่นอยู่กับ “เจ้าหญิงสุดาเลิศลักขณาวรกัญญา” ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงหงสาวดีนันทบุเรง เจ้าหญิงสุดาเลิศลักขณาวรกัญญาพระองค์นี้ทรงเป็นพระขนิษฐาของมังรายกะยอชวา ผู้เป็นพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี และทรงสนิทสนมกันมานับตั้งแต่สมัยที่ยังทรงพระเยาว์
โดยเจ้าหญิงเองก็หาคิดไม่ว่า พระนเรศวรนั้นเป็นลูกเชลยชาวไทย หากแต่ทรงยกย่องให้เทียบชั้นเป็นเจ้าฟ้าเมืองไทยที่ทรงผูกสมัครสมานรักใคร่ฉันท์หนุ่มสาวทั่วไป
เมื่อวันที่สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพหนีออกมาประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง จนทำให้เกิดสงครามสองแผ่นดิน
ที่เลือดนองทุกหย่อมหญ้า ทำชีวิตรักของสองยุวกษัตริย์ไทยและพม่าสองพระองค์นี้ทรงต้องแยกจากกันชั่วนิรันดร์ ยิ่งไปกว่านั้น ในราชการสงครามที่ยิ่งใหญ่ซึ่งทำให้เกิด “ยุทธหัตถี” ขึ้นที่ “หนองสาหร่าย” ที่สองหน่อกษัตริย์ขัตติยราช “สมเด็จพระนเรศวร” และ “พระมหาอุปราชา” ผู้เป็นพระเชษฐาของเจ้าหญิงสุดาเลิศลักขณาวรกัญญาต้องไสช้างพระที่นั่งเข้าทำยุทธหัตถีกัน จนทำให้พระมหาอุปราชาทรงสิ้นพระชนม์คาคอช้างนั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างก็พลันจบสิ้นลง อย่าว่าแต่เจ้าหญิงสุดาเลิศลักขณาวรกัญญาจะเสียพระทัยเพราะอาลัยรักในตัวพระเชษฐาซึ่งถูกคนรักของตนเองฆ่าตาย ในเมืองพม่านั่นเล่า พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงทรงพระพิโรธกราดเกรี้ยวอาละวาด ถึงขนาดที่ว่าทรงพระแสงเข้าไปในพระที่ของสมเด็จพระสุพรรณกัลยาและฟาดฟันพระนางรวมทั้งพระธิดาซึ่งเกิดจากพระองค์สิ้นพระชนม์ตายตามไปด้วย
แม้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะทรงตัดขาดกับพม่า หากแต่ในพระทัยของพระองค์นั้น ยังทรงรักเจ้าหญิงสุดาเลิศลักขณาวรกัญญาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแม้พระองค์จะทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ของไทย แต่ก็หาได้อภิเษกสมรสกับสตรีใดไม่ ด้วยหวังพระทัยเอาไว้ว่า สักวันหนึ่งข้างหน้าพระองค์จะทรงไปรับพระนางอันเป็นยอดดวงใจจากแผ่นดินพม่ากลับมาอภิเษกสมรสด้วย
แต่น่าเสียดาย จากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระมหาอุปราชา กับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสุพรรณกัลยาในเงื้อมพระหัตถ์ของพระเจ้าหงสาวดีนั้น กลับกลายเป็นว่าความสัมพันธ์ของไทยกับพม่าสิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง
ขอบพระคุณข้อมูล