แพทย์เตือน ระวัง! “หนังศีรษะแห้ง” จุดกำเนิดรังแคเรื้อรัง
"หนังศีรษะ" ของเราก็เปรียบเหมือนกับ "แผ่นดิน" ที่ทำหน้าที่เป็นฐานยึดรากเส้นผมไว้อย่างแน่นหนา เมื่อต้องเจอกับ "สภาพอากาศแห้งและลมหนาว” ก็ย่อมสูญเสียความชุ่มชื้นจนเกิดความแห้งแล้งและแตกระแหง
นายแพทย์ พูลเกียรติ สุชนวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมจากโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า "อาการหนังศีรษะแห้งคืออาการที่ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะสูญเสียน้ำหรือความชุ่มชื่นจากการระเหยจนเกิดอาการแห้ง มีลักษณะเหมือนกับรอยแผ่นดินแตกแห้ง ส่งผลทำให้หนังศีรษะทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกได้น้อยลงหรือเสียความสมดุลจนเกิดอาการอักเสบ ค่อยๆ กลายเป็นขุยสีขาวบนหนังศีรษะ จากนั้นขุยจึงเริ่มแตกลอกออกเป็นแผ่นและกลายเป็นรังแค ดังนั้น อาการ “หนังศีรษะแห้ง” ที่คนมักมองข้ามจึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการรังแคเรื้อรัง หรืออาจเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคต่อมไขมันในหนังศีรษะอักเสบหรือ “เซ็บเดิร์ม” โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นแพ้สัมผัส หรือโรคภูมิแพ้ตนเองที่อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงอย่างรุนแรง
"อาการหนังศีรษะแห้งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจาก “กรรมพันธุ์” เช่น อาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่มีชั้นเคลือบผิวหนังและผิวบริเวณหนังศีรษะที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดปัญหารังแคได้บ่อยและง่ายกว่าคนปกติ และจาก “ความเครียด” ที่ทำให้สารสื่อประสาทบางชนิดเข้าไปกระตุ้นให้บริเวณหนังศีรษะเกิดอาการอักเสบ หรือจาก “สภาพอากาศ” โดยเฉพาะเวลานาน น้ำใต้ผิวบริเวณหนังศีรษะก็ยิ่งระเหยออกไปเร็วขึ้น ความชุ่มชื่นก็ยิ่งลดลงซึ่งส่งผลให้หนังศีรษะแห้งเร็วขึ้น รวมถึงอาจเกิดจาก “การสระผม” ที่ปราศจากการดูแลหรือเติมเต็มความชุ่มชื่นหลังสระผม เพราะทุกครั้งที่เราสระผมนั้นเท่ากับเราล้างเอาความชุ่มชื่นของหนังศีรษะออกไปด้วยเช่นกัน"
"รังแค" ที่เกิดจากอาการ “หนังศีรษะแห้ง” ยังอาจส่งผลให้เกิดการอาการคัน และกระตุ้นให้เกิดการสัมผัสและจับบริเวณหนังศีรษะบ่อยขึ้น ยิ่งสัมผัสบ่อยครั้งมากขึ้น ซ้ำๆ เรื่อยๆ ก็ยิ่งกระทบต่อบริเวณรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งหากเกิดการอักเสบมาก รูขุมขนก็จะปิดลง ทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ และทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางอย่างถาวร
หนังศีรษะ ให้ทุกคนได้นำไปใช้ดูแลหนังศีรษะของตัวเองกันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศเย็นและแห้งตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่
1.เลือกแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการขจัดรังแคและช่วยเพิ่ม
2.อย่าสัมผัส ถูหรือเกาหนังศีรษะมากเกินไป
3.รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี น้ำมันปลา และโอเมก้า 3