ขุดศพขึ้นมาประหาร "โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ เจ้าผู้พิทักษ์"
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell) 25 เมษายน ค.ศ. 1599 (ปฏิทินเก่า) - 3 กันยายน ค.ศ. 1658 (ปฏิทินเก่า) เป็นผู้นำทางการทหารและทางการเมืองชาวอังกฤษ
ที่เป็นที่รู้จักกันดีในการเกี่ยวข้องกับเปลี่ยนระบบการปกครองของอังกฤษเป็นแบบสาธารณรัฐในฐานะ “เจ้าผู้พิทักษ์” (Lord Protector) แห่งอังกฤษ, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์
ครอมเวลล์เป็นแม่ทัพคนหนึ่งของกองทัพตัวอย่าง (New Model Army) ผู้ได้รับชัยชนะต่อกองทัพของ ฝ่ายกษัตริย์นิยม (Cavalier) ในสงคราม กลางเมืองอังกฤษ หลังจากปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1649 แล้ว
ครอมเวลล์ก็มีอิทธิพลต่อเครือจักรภพแห่งอังกฤษ อยู่เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ในขณะเดียวกับที่ได้รับชัยชนะในการปราบปรามสกอตแลนด์และไอร์แลนด์ และปกครองในฐานะ “เจ้าผู้พิทักษ์” ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1653 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในปี ค.ศ. 1658
ครอมเวลล์เป็นบุตรของชนชั้นผู้ดีชั้นกลางและไม่ได้เป็นที่รู้จักจนเมื่ออายุได้ 40 ปี และได้ใช้ชีวิตอย่างเกษตรกรผู้มีอันจะกินจนกระทั่งมามีฐานะดีขึ้นบ้างเมื่อได้รับเงินมรดกจากลุง
ในช่วงนั้นครอมเวลล์ก็เปลี่ยนศาสนาและมายึดแนวชีวิตแบบเพียวริตันเป็นหลัก ครอมเวลล์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในแขวงเคมบริดจ์ในสมัยรัฐสภาสั้น (ค.ศ. 1640) และ รัฐสภายาว ระหว่างปี ค.ศ. 1640 ถึงปี ค.ศ. 1649 ต่อมาก็เข้าร่วมสงครามกลางเมืองอังกฤษ ทางฝ่ายรัฐสภา (Roundheads)
ครอมเวลล์เป็นนายทหารที่มีสมรรถภาพที่ได้รับสมญาว่า “Ironsides” และได้เลื่อนจากการควบคุมกองทหารกองเดียว ไปจนเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพอังกฤษ
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์
ครอมเวลล์เป็นคนที่สามที่ลงนามในการสั่งปลงพระชนม์พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1649 และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐสภารัมพ์ระหว่างปี ค.ศ. 1649 ถึงปี ค.ศ. 1653
เมื่อสำเร็จโทษกษัตริย์ชาลส์ที่ 1 ไปแล้ว อำนาจของครอมเวลล์ก็ก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุด ใช้กำลังและก่อตั้ง “รัฐสภาแบร์โบนส์” (Barebones Parliament) อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และเปลี่ยนประเทศอังกฤษเป็นสาธารณรัฐไม่มีกษัตริย์แต่ตั้งตัวเองเป็นเจ้าผู้พิทักษ์(Lord Protector) มีอำนาจเด็ดขาดเอง อังกฤษเข้าสู่ยุคแห่งการเคร่งครัดทางศีลธรรมแบบพิวริตั้น งานรื่นเริง ความบันเทิงใจต่างๆ ถูกห้าม ต้องการแต่ให้ผู้คนสวดมนต์ภาวนาเท่านั้น ครอมเวลล์กำราบไอร์แลนด์และสกอตแลนด์ได้อย่างราบคาบจนแม้แต่มหาอำนาจอย่างฝรั่งเศสหรือฮอลแลนด์ยังต้องเป็นมิตรกับอังกฤษ
ภาพฉากการประหารชีวิตพระเจ้าชาลส์ที่ 1
หลังจากเป็นท่านผู้นำอยู่เกือบสิบปี ครอมเวลล์ก็ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 1658 ส่งต่ออำนาจและตำแหน่งเจ้าผู้พิทักษ์ให้ลูกชายริชาร์ด ครอมเวลล์ วิธีการไม่ต่างจากผู้นำเผด็จการในยุคหลังๆ เลย แต่เพราะริชาร์ดเป็นคนไร้ความสามารถ เพียงเวลาไม่นานระบบกษัตริย์ก็ได้รับการฟื้นฟู พระเจ้าชาลส์ที่ 2 ได้กลับเข้ามาเป็นกษัตริย์อังกฤษอีกครั้ง ประเทศเข้าสู่ยุคเบิกบานสนุกสนานรุ่งเรืองอีกครา
เมื่อพระเจ้าชาลส์ที่ 2 กลับมาเป็นกษัตริย์อังกฤษอีกครั้ง ภารกิจแรกๆ คือจัดการล้างแค้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลงพระชนม์พระบิดาเช่นผู้พิพากษาที่ตัดสินคดี ใครที่โชคดีตายไปก่อน ก็แค่ถูกขุดศพขึ้นมาแขวนคอ ตอน ตัดหัวแล้วสับเป็นสี่ส่วน แต่ใครยังไม่ตายนี่โชคร้ายหนักเพราะจะได้รับสิทธิ์นี้แบบเป็นๆ มีคนโดนประหารทั้งแบบตายก่อนแล้วและแบบสดๆ ไปหลายคน
ภาพการประหารร่างของครอมเวลล์และหัวที่น่าจะเป็นของจริง
ร่างของครอมเวลล์ก็ไม่พ้นถูกขุดขึ้นมาจากวิหารเวสมินสเตอร์ เอามาแขวนคอ ตอน ตัดหัว สับ เช่นกัน หัวของครอมเวลล์ถูกแขวนประจานไว้ที่เวสมินสเตอร์ ฮอลล์ตั้งแต่ปี 1659 จนกระทั่งปี 1685 เกิดพายุพัดหัวของครอมเวลล์หล่นลงมา หัวของครอมเวลล์เลยกลายเป็นสมบัติของนักสะสมของที่ละลึกไป จนปัจจุบันฝังไว้ที่ Sidney Sussex College ที่ครอมเวลล์เคยเป็นศิษย์เก่า
หัวนี้ได้รับการตรวจสอบหลายครั้งด้วยเทคนิคต่างๆ คณะผู้ตรวจสอบเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นหัวของครอมเวลล์จริงๆ
รูปปั้นครอมเวลล์ในลอนดอน
คลิปตัวอย่างการประหารไม่เกี่ยวข้องกับบทความ
ฉากการประหารชีวิตนักโทษยุคนั้น จากหนังเรื่อง Braveheart (1995)
ฉากการประหารชีวิตพระเจ้าชาลส์ที่ 1 จากหนังเรื่อง Cromwell (1970)
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5463.30," rel="nofollow" target="_blank">http://th.wikipedia.org/wiki, http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5463.30, http://www.youtube.com, http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=04-2011&date=17&group=27&gblog=142
ขอบคุณทุกข้อมูล