แฮกเกอร์เพิ่มสารพัดเล่ห์ลวงผู้ใช้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญในชีวิตอย่างมากจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นทุกด้านของชีวิต ทั้งการทำงาน หาข้อมูล ดูหนังฟังเพลง ติดตามข่าวสารบ้านเมือง หรือแม้แต่การทำธุรกรรมการเงินและบริการรูปแบบต่างๆ
ทว่า ด้วยความใกล้ชิดดังกล่าว ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพหรืออาชญากรจ้องฉกฉวยโอกาส คอยแสวงหาประโยชน์ แถมยังงัดเอาสารพัดเล่ห์กลคดโกงหลอกลวงต่างๆ จนทำให้ในแต่ละปีมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งหนึ่งในอังกฤษชี้ว่า ปีที่แล้วมีชาวผู้ดีตกเป็นเหยื่อการก่อคดีอาชญากรรมในคอมพิวเตอร์มากกว่า 56% ของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศ และ 1 ใน 5 ของเหยื่อมักจะเจอการฉ้อโกงเงินหรือการขโมยเงินจากบัญชี
ด้านหน่วยงานความมั่นคงในอังกฤษได้เผยข้อมูลที่น่าตื่นตะลึงกว่าว่า ในปีที่ผ่านมามีชาวอังกฤษตกเป็นเหยื่อมากถึง 1,000 ครั้ง ในแต่ละชั่วโมง
ต้องยอมรับว่าสารพัดเล่ห์เหลี่ยมที่กลุ่มมิจฉาชีพและเหล่าแฮกเกอร์นำมาใช้นับวันจะยิ่งซับซ้อนและยากแก่การป้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจากเดิมที่จะใช้วิธีการส่งสแปมหรือไวรัสแฝงตามเว็บไซต์ หรืออีเมล มาเป็นการส่งลิงก์ หรือไฟล์วิดีโอ ที่ผู้ใช้ต้องอัพเกรดโปรแกรมก่อนใช้มาทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้เมื่อโหลดโปรแกรมนั้นมาคอมพิวเตอร์ก็จะเจอแฮกเกอร์จู่โจมและล้วงข้อมูลทันที
รายงานระบุว่า ทันทีที่แฮกเกอร์สามารถส่งโปรแกรมจู่โจมคอมพิวเตอร์ หรือกระทั่งสมาร์ตโฟนได้ การล้วงความลับต่างๆ ของผู้ใช้งานก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก เพราะโปรแกรมเหล่านี้สามารถจดจำการคีย์ข้อมูลของผู้ใช้งาน หรือการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินทุกกระเบียดนิ้ว
ทว่า ที่ร้ายกว่านั้นคือในทุกวันนี้พวกแฮกเกอร์ที่จ้องหาประโยชน์ในโลกอินเทอร์เน็ตได้พัฒนาหน้าเว็บเพจขึ้นมาลวงผู้ใช้ที่ถูกฉกเงินไปจากบัญชีธนาคารด้วยการบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเงินยังมีอยู่เท่าเดิม แต่ในความเป็นจริงเงินได้ถูกขโมยและถ่ายโอนออกจากบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เหยื่อหลายรายตายใจจนกว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว
กระนั้นแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะรู้เท่าทันพวกกลุ่มมิจฉาชีพที่หากินในโลกออนไลน์ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็มีวิธีป้องกันเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ และก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเงินเสียทองไปลงโปรแกรมป้องกันให้ยุ่งยาก คือ
1) ใช้ยูสเซอร์เนมที่หลากหลาย
2) ไม่ใช้พาสเวิร์ดซ้ำๆ
3) ไม่ยอมรับหรือขอเป็นเพื่อนกับคนแปลกหน้า
4) อย่าใจอ่อนกับเมล์ที่ส่งมาเพื่อขอความช่วยเหลือ
5) ระวังลิงก์ที่ระบุว่าเป็นเรื่องสนุก
6) ระวังเครือข่ายไฮไฟสาธารณะ
7) อย่าเชื่อคนแปลกหน้า
8) ใช้โปรแกรมต่อต้านไวรัสบ้าง
9) ใช้พาสเวิร์ดพ่วงรหัสลับ
ทั้งนี้ แม้ไม่อาจจะพูดได้ว่าป้องกันได้ปลอดภัยเต็มร้อย แต่ก็เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่ช่วยลดเปอร์เซ็นต์การตกเป็นเหยื่อได้ชะงัดนัก
ที่มา: http://www.posttoday.com