ภาพเก่าวิถีไทยจากบ้านนอกสู่กรุง น่าชมจริงๆ
โพสท์โดย mata
ครอบครัวคหบดีเมืองสุรินทร์ ในปี พุทธศักราช ๒๔๔๓
๒.
ชาวมณฑลร้อยเอ็ดจำนวนมาก บริเวณคูรอบเมืองโบราณในเมืองร้อยเอ็ด
๓.
การแต่งกายของชาวภูไทเมือร้อยกว่าปีก่อน
๔.
สตรีเมืองนครพนม เกล้ามวย ห่มสไบขิด นุ่งซิ่นมัดหมี่
๕.
พิธีทรงผีของชาวเมืองร้อยเอ็ด
๖.
ช่างฟ้อนกลองตุ้มเมืองอุบล ในสมัยรัชกาลที่๕
๗.
สตรีในมณฑลอุดร สวมเสื้อปั๊ด ห่มสไบจีบ นุ่งซิ่นมัดหมี่
๘.
ทหารเมืองโคราช ในสมัยรัชกาลที่ ๕
๙.
แห่ปราสาทผึ้งและเทียนพรรษา เมืองอุบลราชธานี
๑๐.
แสกเต้นสาก ของชาวไทแสกสมัยก่อน
๑๑.
วิถีชีวิตผู้คนในอดีต
๑๒.
วิถีชีวิตผู้คนในตลาดอันครึกครึ้นในพระนคร
๑๓.
ตลาดในสมัยก่อน
๑๔.
เรือประมงที่ปากน้ำ
๑๕.
โขลงช้างและควาญช้างที่สุรินทร์
๑๖.
สิมหลวงวัดกลางมิ่งเมือง เมือง ร้อยเอ็ด
๑๗.
วิถีชีวิตริมคลองพระโขนง
๑๘.
ประตูเมือง และ ชาวเมืองสงขลา
๑๙.
พิธีโล้ชิงช้าหน้าวัดสุทัศน์
๒๐.
รูปคลองบางกอกน้อยยามน้ำลด
๒๑.
คลองบางกอกน้อยยามน้ำขึ้น
๒๒.
เจริญกรุง๑
๒๓.
เจริญกรุง๒
๒๔.
เจริญกรุง๓
๒๕.
เรือขายของที่คลองบางหลวง
๒๖.
คลองมหานาค
๒๗.
แยกสี่กั๊กพระยาศรี พระนคร
๒๘.
ถนนพาหุรัด ในสมัยก่อน
อดีตความรุ่งเรืองของชาวสยามของไทยในอดีตอีกแบบหนึ่ง เดี่ยวนี้ก็รุ่งเรืองนะ แต่ความสุขมันไม่มีดั่งคนสมัยก่อนเก่า จะพูดว่ารุ่งเรืองทางวัตถุที่มากเกินตัวก็ได้ แต่จิตใจชาวเรานั้นมันตามกิเลศหรือความอยากได้ของสิ่งในสมัยนี้ไม่ทัน คือมันพัฒนาไปไม่พร้อมกัน วัตถุมันไปเร็วมากกับการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็ว เรานี้ไม่ได้ปรับสภาพใจให้เรียนรู้พร้อมกับสิ่งสมัยใหม่ให้เท่าความพอดีและจำเป็นของเรา ตามใจกิเลศมันก็ทำให้ใจวิ่งไปตามอารมณ์ความอยากอันเหนื่อยมากเท่านั้น...สิ่งสมัยใหม่เรียนรู้และจะมีได้ตามเหตุตามผล แต่อย่าตามใจเรา สักวันคุณคงจะรู้ว่าเหนื่อยมากกับการตามหาสิ่งภายนอกที่ล่อ หูล่อตา ล่อใจ เรา มันไม่สิ้นสุดจริง...และตัณหาของเราถ้าไม่เบรคแล้ว เราจะหาความสุขที่แท้จริงแบบอิสระจากใจแท้ๆไม่ได้เลย...ฝากกลอนหน่อยครับ
ความเอ๋ย ความสุข
ใคร ใคร ทุกคน ชอบเจ้า เฝ้าวิ่งหา
แกก็สุข ฉันก็สุข ทุกเวลา
แต่ดูหน้า ตาแห้ง ยังแคลงใจ
ถ้าเราเผา ตัวตัณหา ก็น่าสุข
ถ้ามันเผา เราก็ "สุก" หรือเกรียมได้
เขาว่าสุข สุขเน้อ อย่าเห่อไป
มันสุขเย็น หรือสุขไหม้ ให้แน่เอยฯ
ท่านพุทธทาส
ใคร ใคร ทุกคน ชอบเจ้า เฝ้าวิ่งหา
แกก็สุข ฉันก็สุข ทุกเวลา
แต่ดูหน้า ตาแห้ง ยังแคลงใจ
ถ้าเราเผา ตัวตัณหา ก็น่าสุข
ถ้ามันเผา เราก็ "สุก" หรือเกรียมได้
เขาว่าสุข สุขเน้อ อย่าเห่อไป
มันสุขเย็น หรือสุขไหม้ ให้แน่เอยฯ
ท่านพุทธทาส
ขอบคุณแหล่งที่มาอย่างสูงครับ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
108 VOTES (4/5 จาก 27 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ











Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด




