ทำไมฉันต้อง ขี้เกียจ !
! ความสำเร็จ อยู่ที่การลงมือทำ !
ช่างเป็นประโยคที่สั้น เข้าใจง่าย ใครๆก็รู้ความหมาย แต่! ทำได้ยากเหลือเกิน
ถ้าหากคุณกำลังขี้เกียจ แสดงว่าคุณไม่ค่อยมีความสุขหรือคุณกำลังมีความสุขมากม๊ากกกก
สาเหตุแห่งความขี้เกียจ
ทุกอย่างย่อมมีเหตุและผลเสมอ ความขี้เกียจนี้ก็เช่นกัน ความขี้เกียจจะก่อตัวขึ้นในสองช่วงเวลา คือช่วงเวลาที่คุณไม่มีความสุข กับ ช่วงเวลาที่คุณกำลังมีความสุขมากๆ
เรามาแยกหัวข้อของสาเหตุแห่งความขี้เกียจกันดีกว่า
1. สภาพแวดล้อม ที่ไม่เอื้ออำนวย
รถก็ติด คนก็เยอะ บริการรถเมล์มันก็ช่างห่วยแตก ค่ารถไฟฟ้าก็แพง เงินเดือนน้อย เพื่อนร่วมงานชอบนินทา ราคาของขึ้น นู๊นนี้นั่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆบ่มเพาะให้เราเกิดความเครียดและความเบื่อหนาย เมื่อเราเจอมันทุกวันๆก่อเกิดเป็นความขี้เกียจ
2. ก็ฉันไม่เก่งเหมือนเค้านิ
คุณเจอคนที่เก่งๆ มีผลงานเกินหน้าเกินตา เค้าสามารถทำงานยากๆได้ออกมาดี แต่ฉันทำไม่ได้เพราะฉันไม่เก่งเหมือนเค้า หลายคนเคยเจออาการแบบนี้เลยเกิดอาการท้อแท้ตัวเองและเลี่ยงที่จะทำงานยากๆ พอจำเป็นต้องทำงานยากๆที่ตัวเองไม่เก่งเข้า ก็รู้สึกขี้เกียจทำ ทำไปก็ไม่สำเร็จ
3. มีความสุขจัง ขอเวลาอีกหน่อยสิ
มนุษย์เราชอบยืดเวลาแห่งความสุขเท่าที่จะทำได้ เช่น นอนตอนเช้าอากาศกำลังดีสบายๆ ขอนอนอีกหน่อยละกัน, เล่นเกมส์กำลังสนุกเลยเล่นอีกสักหน่อยละกัน เรื่องเล็กน้อยๆหากเราทำมันจนเคยตัว มันก็จะติดกลายเป็นนิสัยที่เรียกกันว่า ! พลัดวันประกันพรุ่ง !
4. ก็มีแต่งาน งาน งาน งาน
งานคุณล้นหัวเต็มไปหมดไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนกับเค้าบ้างเลยไหนจะงานย่อยนู๊นงานใหญ่นี้ งานเต็มไปหมด เบื่อที่จะทำก็กลายเป็นความขี้เกียจ
นี้คือ4ปัจจัยหลักๆ ที่ก่อให้เกิดความขี้เกียจ งั้นเรามาหาทางหยุดเจ้าความขี้เกียจนี้กันเถอะ
วิธีเอาชนะความขี้เกียจ
1. 24ชม ทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ (ประโยคเด็ดในหนัง in time)
ทุกๆคนเกิดมาสวยหล่อไม่เท่ากัน ร่ำรวยไม่เท่ากัน เก่งกากไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ทุกๆคนเท่าเทียมกันหมดทั้งโลกคือ 1วันมีเวลา24ชม.เท่ากัน คุณจะเป็นคนใช้เวลาได้คุ้มค่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณ
ถ้าหากคุณอยากจะใช้เวลาให้คุ้มค่าก็ต้องรู้จักการแบ่งเวลาที่ถูกต้อง รู้จักวางตารางเวลาอย่างเช่น 6โมงต้องตื่น 7.30โมงต้องอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ 9โมงถึงที่ทำงาน ถ้าหากรถติดก็ต้องออกจากบ้านเร็วกว่านี้ เป็นไปได้ศึกษาเส้นทางหลีกเลี่ยงรถติด เวลานั่งทำงานก็ควรจะทำงานให้มันเสร็จๆ อย่ามัวแต่นั่งคุยกับเพื่อน นั่งเล่นแอฟไร้สาระ แล้วก็บ่นว่างานเยอะทำไม่ทัน ไม่มีเวลาให้ตัวเอง
ทั้งที่จริงแล้ว คุณตั้งใจทำงานแป๊บเดียวมันก็เสร็จหรืออย่างน้อยก็งานคืบหน้าไปได้ไกล พองานทับถมคุณก็เมินหน้าหนีและขี้เกียจทำงาน หากคุณรู้จักการจับระเบียบเวลาของคุณได้และตั้งใจทำ คุณก็จะเหลือเวลาไปอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ
2. เลิกทำตัวกาก
ถ้าคุณเป็นคนไม่เก่งแล้วก็อ้างว่า ก็ฉันไม่เก่งนิ ผมก็เชื่อว่าคุณก็ยังคงไม่เก่งอยู่วันยังค่ำ ถ้าคุณอยากเอาตัวรอดก็ต้องลบข้อด้อยของตัวเองทิ้งไปสะ ล้มเลิกความคิดว่าฉันทำไม่ได้แล้วลองลงมือทำอย่างมีสมาธิและตั้งใจ คนพิการบางคนไม่เคยท้อแท้ที่ตัวเองร่างกายไม่ครบ แต่คุณครบ32ประการกลับท้อถอยช่างน่าอายยิ่งนัก ถ้ามันยากจริงๆก็แบ่งความยากของมันออกมาเป็นข้อย่อยๆ แล้วค่อยๆทำมันไปวันละข้อ เพียงแต่คุณต้องใจเย็นๆ ให้เวลาฝึกฝนกับมัน ความสำเร็จไม่ได้มาแค่วันเดียว เมื่อคุณเก่งเมื่อไหร ความขี้เกียจก็จะหายไปพร้อมกับความท้อแท้นั้นทันที
เมืองจำลองที่คุณเห็นอยู่พวกนี้ทำมาจากไม้จิ้มฟันอันเล็กนิดเดียว แน่นอนมันคงไม่ได้ทำเสร็จภายในวันเดียว แต่มันทำมาวันละนิดวันละหน่อยจนเกิดเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
3. งานเยอะหรอ ก็ปล่อยมันไปบ้างสิ
งานเยอะมากมายก่ายกองเต็มไปหมด ตอนนี้คุณมีงานอะไรอยู่ลองจดงานมาทั้งหมดแล้วเลือกงานที่สำคัญที่สุดมาสัก3งาน คืองานที่มีผลต่อชีวิตคุณมากที่สุด มีผลต่อหน้าที่การงานคุณ ต่อเงินเดือนคุณ แล้วใช้เวลากับ 3งานนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ส่วนงานที่เหลือที่เป็นงานย่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ก็จ้างให้คนอื่นทำสะก็สิ้นเรื่องหรือถ้าเวลาเหลือก็มาเคลียทีหลังก็ได้ เพราะ3งานที่สำคัญที่สุดที่คุณเลือกมานี้ จะเป็นตัวตัดสินชีวิตของคุณเงินเดือนของคุณ หากคุณทำตามแผนนี้แล้วคุณจะรู้ว่า มันทำให้เวลาคุณเหลือไปทำอะไรได้ตั้งเยอะโขเลยทีเดียว
4. การเอาชนะความขี้เกียจก็เหมือนกับการเอาชนะใจตัวเอง
การเอาชนะความขี้เกียจก็ไม่ต่างจากการลดน้ำหนักเลยแม้นิดเดียว นั่นคือใจล้วนๆ ใจสู้สะอย่างทำไมเราจะเอาชนะมันไม่ได้ละ ง่ายนิดเดียวเอง
เริ่มจากการตื่นตอนเช้า ใครที่เคยงัวเงียขอนอนต่อเพราะอากาศดีละก็ ลองสู้กับใจตัวเองดู ก่อนนอนลองเตรียมเครื่องดื่มเปรียวจิ๊ดๆไว้ในตู้เย็น พอตื่นขึ้นมาฝืนตัวเองเดินไปดื่มเครื่องดื่มนั้น ถ้ายังไม่ตื่นก็ไปล้างหน้า ไปเปิดไฟห้องให้สว่างๆสูดอากาศลึกๆ รับรองตื่นชัวๆ
5. วางแผนชีวิต วางแรงจูงใจ
เราลองมาเขียนสิ่งที่อยากจะได้ในปีนี้มาสัก10อย่าง อยากได้รถ อยากผอม อยากซื้อบ้าน อยากขึ้นเงินเดือนให้ได้สัก... บลาๆๆๆ แล้วให้เลือกมา 1อย่างจาก 10อย่างที่เราเขียนไป แล้วจำใส่กะโหลกจดใส่ปฏิทินไว้ทุกๆเดือนเลยว่า 1อย่างที่ฉันจะทำให้ได้นั้น ต้องทำให้ได้ภายใน 1ปีนี้ฉันต้องทำให้ได้ แล้วคุณลองมาวางแผนดูสิว่า คุณต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะได้มันมา ค่อยๆทำไปจนประสบความสำเร็จ
สรุปโดยที่ว่ามาทั้งหมดทั้งมวลนี้ เมื่อคนเราไม่มีความสุข เบื่อหน่ายเจอสิ่งที่น่าเบื่อที่ต้องเจอในทุกๆวัน มันทำให้เกิดความขี้เกียจขึ้นมาและเมื่อคุณมีความสุขประเดี๋ยวปประด๋าวเพียวชั่วคราว มันยิ่งกระตุ้นให้คุณตกหลุมพรางในความขี้เกียจเข้าไปใหญ่ พยายามตั้งเป้าหมายในชีวิตเข้าไว้แล้วพุ่งไปหามันให้ได้ เหนื่อยก็พักร่างกาย เต็มที่เมื่อไหรก็มาลุยกันต่อ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต ตัวขี้เกียจประเด็นออกไปจากชีวิตนะจะ
ไป๊ๆๆๆๆ
ก่อนจากมาโหวตความขี้เกียจกันหน่อยนะว่าแต่ละคนขี้เกียจอะไรกันมากที่สุด