หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ล้างลำไส้คืออะไร ? ผลดี ผลเสีย มีอะไรบ้าง ?

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

ทำไมต้องล้างสารพิษออกจากร่างกาย

                    คุณเคยสังเกตก้นกระทะและรอบ ๆ เตาแก๊ส หรือท่อน้ำทิ้งที่ล้างจาน จะมีคราบเหนียวของน้ำมันเกาะอยู่ นั่นคือไขมันที่ผสมอยู่ในอาหารที่เราทำหรือคราบน้ำมันที่ติดอยู่ที่จานที่เรานำไปล้าง แล้วถ้าเรากินอาหารที่มีน้ำมันเข้าไปในร่างกายโดนอุณหภูมิร่างกาย 37 องศาตลอดเวลา น้ำมันจะเหนียวเป็นกาวยึดเกาะที่ผนังลำไส้ เป็นเวลานานเข้าก็จะหนาตัวขึ้น(เหมือนท่อน้ำทิ้งที่ล้างจาน) ไปขวางระบบดูดซึม  ระบบดูดซึมของร่างกายก็จะเสีย 

          ถ้าเป็นก้นกระทะและรอบ ๆ เตาแก๊ส หรือท่อน้ำทิ้งที่ล้างจาน เราสามารถล้างออกได้แต่ก็ยากมาก แต่ถ้าเป็นในลำไส้ของเราแล้วเราจะส่งอะไรเข้าไปล้างมันได้

 


ภาพแสดงภายในลำไส้ผ่ายการส่องกล้อง

 

รูปที่1.เป็นรูปลำไส้ของเด็ก ที่ยังไม่มีการเกาะจับของ คราบไขมัน สารพิษ 

รูปที่2.รูปลำไส้ของผู้ใหญ่(เป็นแบบนี้เกือบทุกคน ที่ทานเนื้อ ทานแป้ง ของทอด)ที่มีคราบไขมันจาก  อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ในแต่ละวัน เมื่อสะสมไปนานๆ จะทำให้กลายเป็นมะเร็งลำไส้ได้ 

รูปที่3.รูปลำไส้ผู้ใหญ่ที่ล้าง(Detox)แล้ว ทำให้ลำไส้สะอาดขึ้น ลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดเป็น มะเร็ง

 

ระบบดูดซึมเสีย

 

          เมื่อระบบดูดซึมเสีย ลำไส้จะดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไปสร้างเม็ดเลือด(สารอาหารที่ไปเลี้ยงเซลล์ส่วนต่างๆ ของร่างกาย)ไม่ได้ กินยา หรือวิตามินก็ไม่ดูดซึม เพราะผ่านชั้นไขมันที่ผนังลำไส้ไปไม่ได้ หรือผ่านไปได้น้อย ต่างกับการไห้น้ำเกลือโดยฉีดเข้าเส้นเลือด โดยไม่ต้องผ่านระบบดูดซึม แต่ใครจะให้น้ำเกลือได้ทุกวันคงไม่มี

          เมื่อระบบดูดไม่ได้ พวกสารอาหาร และโปรตีน จะถูกส่งไปให้ไตขับทิ้ง ไตก็ต้องทำงานหนัก และอ่อนล้าเป็นธรรมดา ผลที่ตามมาคือความเจ็บป่วย การเกิดโรคต่างๆ

          อาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นแบ่งเป็น 2 ชนิด ชนิดที่มีเส้นใยมาก ได้แก่ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวโพด ฯลฯ และชนิดที่มีเส้นใยน้อยหรือไม่มีเส้นใย เช่น เนื้อสัตว์ ไขมัน และแป้งขัดขาว ฯลฯ โดยอาหารที่มีเส้นใยมาก เมื่อผ่านการย่อยแล้ว จะขับถ่ายทางร่างกายโดยง่าย ในขณะที่อาหารที่มีเส้นใยน้อยเมื่อย่อยแล้วจะจับตัวกันจนเหนียว ทำให้เคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ด้วยความยากลำบาก และมักเกาะติดอยู่กับผนังลำไส้ ไม่ยอมเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบขับถ่ายแบบปกติ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อย จึงมักมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก แถมสิ่งที่เกาะอยู่ตามผนังลำไส้นี้ยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดการบูดเน่า หรือเกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ลมพิษ ผื่นแพ้ หอบหืด รูมาตอยด์ ฯลฯ นอกจากนี้ น้ำดีที่ผลิตออกมาจากตับ เช่น โคลิค แอซิด (Cholic acid), ดีอ๊อกซีโคลิค แอซิด (Deoxycholic acid) เมื่อผ่านไปที่ลำไส้ใหญ่จะถูกแบคทีเรีย เปลี่ยนเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งในร่างกายคือ แอพโคลิค แอซิด และ 3-เมทิล-โคแลนทรีน ตามลำดับ ดังนั้น ถ้าสารเหล่านี้อยู่ในร่างกายนานเท่าใด ลำไส้ใหญ่ก็จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งได้ สรุปง่าย ๆ ก็คือ ท็อกซินก็คือสารพิษ แต่ไม่ใช่ยาพิษ เป็นพิษที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายของเราเอง เรากินอะไรผิด ๆ (ส่วนมากก็จะเป็นอาหารดี ๆ อร่อย ๆ) ก็จะเกิดท็อกซินขึ้นในตัวเรา การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษมาก สารพิษก็สะสมอยู่ในตัว การกินยาหลายขนานเป็นประจำ ผลข้างเคียงจากยาเหล่านั้นก็จะกลายเป็นพิษอยู่ในตัวเรา 

          โดยเฉพาะคนที่เคยกินอาหารผัดน้ำมัน หรือของที่ทอดน้ำมันบ่อยๆ หรือทุกวัน ควรจะต้องล้างลำไส้เพื่อให้ระบบดูดซึมทำงานได้ดีขึ้น

          การไม่ล้างลำไส้ก็เปรียบเสมือนการกินข้าว แล้วไม่ล้างจานมื้อต่อไปก็ใช้จานใบเก่ามาใส่ข้าวกินใหม่นั่นเอง

 

วันนี้คุณคิดว่าถึงเวลาหรือยังที่จะต้องล้างสารพิษออกจากร่างกายของคุณ

เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง???

ล้างลำไส้คืออะไร ? ผลดี ผลเสีย มีอะไรบ้าง ? 

 

          Detox ย่อมาจากคำว่า Detoxification หมายถึง กระบวนการในการล้างสารพิษ (Toxin) ออกจากร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ การสวนทวาร การกินเจ  90%ของโรคเกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า การสะสมพิษ เช่น อุจจาระตกค้าง ตะกรัน (Chronic dunk) ที่ลำไส้ใหญ่ หรือ อาการท้องผูก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ และเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่าย โรคที่เกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่ เช่น เบาหวาน ความดัน โคเลสเตอรอล เส้นเลือดในสมองแตก หลอดเลือดตีบตัน หัวใจ หลอดเลือดหัวใจตีบ ไมเกรน ปวดหัว อัมพาต มะเร็ง ผิวหนัง ภูมิแพ้ ภูมิเพี้ยน (SLE) เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สิวเสี้ยน สิวอักเสบ ฝ้า กระ ผิวหยาบกร้าน กลิ่นกาย กลิ่นปาก ปวดหลัง ปวดคอ ปวดข้อ ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวง พุงโต น้ำหนักเกิน ฯลฯ

 

การ Detox ลำไส้

          วิธีการที่คนในปัจจุบันนิยมใช้คือ การสวนทวารล้างลำไส้ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ใช้บริการครั้งละ 700-1000 บาท ใช้กรดมะนาว หรือ กรดกาแฟ ในการสวนทวาร โดยใช้น้ำอุ่นปริมาณ 25 ลิตร ปล่อยให้น้ำไหลช้าๆ เข้าไปทางทวารหนักทีละน้อยๆ ผ่านหลอดสวนที่สอดเข้าทางทวารหนักลึกเพียง 2 นิ้ว ในขณะเดียวกันผู้ป่วยก็จะถ่ายเอาของเสีย และน้ำออกจากลำไส้ด้วยการเบ่งเหมือนกับการถ่ายอุจจาระตามปกติ ซึ่งปริมาณของน้ำที่ไหลเข้าไปในลำไส้แต่ละครั้งไม่ถึง 1 ลิตร ก็จะถูกขับออกมาพร้อมกับของเสียผ่านทางทวารหนัก และผ่านออกข้างๆ หลอดสวน โดยไม่ต้องถอดหลอดสวนออก ทำหมุนเวียนเช่นนี้จนน้ำหมด 25 ลิตร ลำไส้จะสะอาดขึ้นและรู้สึกโล่งขึ้นในทันที ข้อเสียคือทำบ่อยๆ อาจจะทำให้หูรูดเสีย (เมื่ออายุมากขึ้น จะอั้นอุจจาระไม่ได้)

ที่มา: http://www.turtlebiz.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดตัวตำรวจสาว นางฟ้าผู้พิสูจน์หลักฐาน สวยและเก่ง ช่วยคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์ผู้นำยูเครนด่ารัสเซียยับ หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธสุดเทพใส่6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์"น้องธาช่า" ลูกสาว "กิ๊ก สุวัจนี" แจ้งเกิดเต็มตัว! ประเดิมละครเรื่องแรกกับบทบาทสุดปัง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าหมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
ตั้งกระทู้ใหม่