ยุทธการณ์ "Hailstone" ปฏิบัติการล้างแค้นให้ เพิร์ลฮาร์เบอร์
สาระในวันนี้จะเป็นเรื่องของ สุสานเรือล่ม ที่เป็นผลพวงมาจากยุทธการณ์ "Hailstone" ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับผมถือเป็นการล้างตาให้การที่ญี่ปุ่นบุกโจมตี เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) ในการโจมตีนี้สร้างความเสียหายแก่ฝ่ายกองทัพสหรัฐอเมริกามาก โดยเรือสงครามสูญเสีย 12 ลำ เครื่องบิน 188 ลำ ทหารอเมริกันเสียชีวิต 2,403 คน และ ประชาชน 68 คน ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไง ไปติดตามได้ครับ รับรองสนุกครับ
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 สงบลงพร้อมกับความพ่ายแพ้ของเยอรมัน ญี่ปุ่นได้ครอบครอง *ไมโครนีเซียตามสนธิสัญญา Anglo-Prussian War 1919 (พ.ศ. 2462) จากนั้นก็เกณฑ์แรงงานชาวเกาะ และเชลยเกาหลีมาทำงานโยธา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนเกาะโมเอ็น(Moen), เกาะดูบลอน(Dublon), เกาะเอเตน(Eten) และเกาะพาราม(Param) จน **Truk กลายเป็นคลังแสง กองทหาร สนามบิน ท่าจอดเรือทุกระวางขับน้ำได้ โดยมีเครือข่ายการส่งกำลังบำรุงทั้งทางน้ำและทางอากาศจากเกาะไซปัน ในเขตมาเรียน่าส์ โดยมี Truk เป็นศูนย์กลางสนับสนุนด้านยุทธศาสตร์ ให้กับเกาะใน "อะตอล" อื่นด้วย
ไมโครนีเซีย คือกลุ่มเกาะ หรือเรียกว่า อะตอล(Atol) ที่ประกอบไปด้วย รัฐ Chuuk หรือ Truk, รัฐยาป (Yap), รัฐโปนเป (Pohnpei) และรัฐคอสไร (Kosrae) และได้รวมกลุ่มสถาปนาเป็น "สมาพันธรัฐไมโครนีเซีย (FSM:Federated States of Micronesia)" ในปี พ.ศ. 2521 มีประชากร 120,000 คน
ชาวเกาะทรักเรียกตัวเองและกลุ่มเกาะของตนว่า “ชู๊ก (Chuuk)” แต่ฝรั่งดันไปเรียกเพี้ยนเป็น “ทรัก (Truk)” ผ่านมาร้อยกว่าปี คนก็เลยเรียกเป็น “ทรัก" แต่บางส่วนก็ยังเรียกชู๊กอยู่นะ
ตลอด 20 ปีที่ญี่ปุ่นพัฒนาโปรเจกต์ลับอันแสนยิ่งใหญ่ใน Truk ให้เป็นฐานที่มั่นของกองเรือญี่ปุ่น โลกส่วนอื่นๆแทบจะไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้ความเป็นไปนี้เลย ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า เพราะทำเลที่ตั้งของ Truk ห่างไกลจากสังคมโลก โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร ย่อมยากที่คนภายนอกจะเข้าถึงไม่ว่าทางน้ำหรือทางอากาศ แม้เมื่อสหรัฐประกาศสงครามกับญี่ปุ่นหลังจากเพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกถล่มเมื่อปลายปี 2484 Truk ก็ยังไม่อยู่ในสายตาของกองทัพเรือสหรัฐ(ซุ่มได้เนียนมาก)
จนกระทั่งอีก 2 ปี นักบินลาดตะเวณ พีบีวาย คาตาลีน่า (PBY-Catalina) 2 ลำ รายงานให้นายพลเรือ เรมอนด์ สพรูแอนซ์ (Raymond Spruance) ผู้บังคับกองเรือที่ 5 ที่เกาะมาจูโร ในเขตหมู่เกาะมาร์แชลเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2487 ว่าได้พบฐานทัพเรือใหญ่ของญี่ปุ่นใน“ทรักลากูน (Truk Lagoon)"
เครื่องบิน พีบีวาย คาตาลีน่า (PBY-Catalina)
นายพลเรือ เรมอนด์ สพรูแอนซ์ (Raymond Spruance)
นายพลเรือจัตวา มาร์ค เอ มิตส์เชอร์ (Mark A Mitscher
นายพล เรมอนด์ เลยสั่งให้นายพลเรือจัตวา มาร์ค เอ มิตส์เชอร์ (Mark A Mitscher) นำชุดปฏิบัติการทีเอฟ-58 ซึ่งประกอบด้วย
1. TBF-Avenger
2. F6F-Hellcat
3. SBC2-HellDiver
นำฝูงบินกว่า 500 ลำ พร้อมนักบินกว่า 200 นาย เข้าประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Enterprise, USS Bunker Hill, USS Intrepid, USS Essex และ USS Yorktown เสริมด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเบา Belleau Wood, Cabot, Monterey, Cowpens เรือพิฆาต 7ลำ รวมทั้งเรือดำน้ำและเรือคุ้มกันอีกจำนวนหนึ่ง กะเอาญี่ปุ่นเละไปข้างนึงกันเลย โดยแผนการครั้งนี้ อยู่ภายใต้ "Operation Hailstone" ระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2487
USS Enterprise
USS Bunker Hill
USS Intrepid
USS Essex
USS Yorktown
ส่วนรายละเอียดแผนการ Hailstone มีตามนี้คับ
1. ยิงตอร์ปีโดจาก เครื่อง Avengers ใส่เรือทุกลำในทรักลากูน และให้ เครื่อง Hellcat กับ HellDive ยิงตามเก็บส่วนต่างๆให้เ...้ยน
2. ปฏิบัติการนี้จะเริ่มเวลา 4 นาฬิกา โดยทำการต่อเนื่องตลอด 2 วัน หรือจนกว่าจะจมเรือทุกลำในทรักลากูนครบถ้วน
สรุปก็คือ ถล่มลูกเดียว !!!
2 วันของ Operation Hailstone ไม่มีการสั่งยกพลขึ้นเกาะ เพราะสหรัฐฯไม่ต้องการเอาชีวิตของทหารเข้าไปเสี่ยง เพียงแต่ต้องการทดสอบความพร้อมของการโจมตีทางอากาศ บวกกับสั่งสอนให้ญี่ปุ่นรู้ซึ้งถึงบทเรียนที่เคยฝากไว้ที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ว่า ถ้าหากคิดจะโจมตีทางอากาศ มันต้องทำแบบนี้ว้อยย ซึ่งสหรัฐฯก็จัดเต็มใส่ญี่ปุ่นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น จำนวนเที่ยวบินที่เข้าถล่ม, อำนาจการยิงและการทำลายล้าง, การทิ้งระเบิดและตอร์ปีโด
หลังจบ Operation Mailstone ญี่ปุ่นได้ใจที่อเมริกาไม่เข้ายึดทรักหลังถล่มเสร็จ อีกทั้งสนามบินของญี่ปุ่นก็ไม่เสียหายมาก จึงนำเครื่องซีโร่จากพาเลากลับมาทรักอีกกว่า 400 เครื่อง ดังนั้น ชุดปฏิบัติการทีเอฟ-58 เจ้าเก่าของสหรัฐ จึงกลับมาถล่มอีกรอบในปลายเดือนเมษายน 2487 (ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะวะ)
ผลงานของยุทธการครั้งนี้ ทรักลากูนกลายเป็นสุสานเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีซากของเรือพิฆาต, เรือบรรทุกน้ำมัน, เรือส่งกำลังบำรุง, เรือประมงของญี่ปุ่นหลายสิบลำ, รวมถึงเครื่องบิน, ปืนต่อต้านอากาศยาน, รถถัง และลูกเรือที่ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด