ยาดม...อันตรายหรือไม่?
ในปัจจุบันยาดม ซึ่งใช้บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก หน้ามืดตาลาย วิงเวียนศีรษะ กำลังเป็นที่นิยมในท้องตลาดโดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุอานามเลยวัยกลางคนขึ้นไป
อย่างไรก็ตามยาดมสมัยใหม่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยเป็นที่เตะตาของกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น จึงได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย ขนาดกะทัดรัดเหมาะมือผลิตภัณฑ์รูปแบบนี้สร้างสรรค์เพื่อคนยุคใหม่ วัยทำงาน เนื่องจากคนยุคใหม่มักมีกิจกรรมและการผ่อนคลายหลังการทำงานในเวลาที่ค่อนข้างจำกัดจึงมักผ่อนคลายด้วยกลิ่นบำบัด (Aromatic) ยาดมจึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่นำเสนอ นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการอดบุหรี่ก็นิยม ที่จะหันมาใช้ยาดมทดแทนการสูบบุหรี่ ทำให้เกิดคำถามว่า ยาดมมีอันตรายหรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ยาดม ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันหอมระเหยและอื่นๆ เช่นน้ำมันสะระแหน่น้ำมันเขียว น้ำมันกานพลู หรือน้ำมันยูคาลิปตัส และยังมีน้ำมันระเหยยากช่วยในการละลาย เช่น น้ำมันงา น้ำมันแร่หรืออาจมีสารสกัดจากสมุนไพรบ้าง องค์ประกอบหลักของเมนทอลหรือเรียกว่าเกล็ดสะระแหน่ การบูรและพิมเสนรวมถึงน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะทำให้เกิดความรู้สึกเย็น ซ่า ในโพรงจมูก รู้สึกสดชื่น ตื่นตัวได้บ้าง แต่การสูดดมสารเหล่านี้บ่อยๆ อาจทำให้เยื่อเมือกบุทางเดินจมูก ที่สัมผัสกับกลิ่นที่เข้มข้น เกิดการระคายเคืองได้
เมนทอลหรือเกล็ดสะระแหน่ มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นหอมเย็น มีอยู่ในนํ้ามันหอมระเหยที่ได้จากใบมิ้นต์หรือที่เรียกว่าใบสะระแหน่ฝรั่ง มีประโยชน์ในการขับลม มักใช้แต่งกลิ่นและรสยา เช่น ยาเคลือบกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่อย่างอ่อนๆ ลดการบวมของหลอดเลือดที่จมูก และลดอาการปวด สารนี้เมื่อสัมผัสกับผิวหนังทำให้รู้สึกเย็น แต่ในความเข้มข้นสูงและใช้ติดต่อกัน สารนี้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจเมื่อสูดดม และอาจทำให้เกิดปอดอักเสบ
การบูร มีลักษณะเป็นเกล็ดมันวาว สีขาว มีกลิ่นหอมเย็นฉุน เดิมสกัดจากต้นการบูร แต่ปัจจุบันเป็นสารสังเคราะห์เนื่องจากทำได้ง่าย ราคาถูกกว่าสกัดจากพืช การบูรถูกดูดซึมทางผิวหนังได้ดี และรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสกับผิวหนังเช่นเดียวกับเมนทอล มีฤทธิ์เป็นยาชาและต้านจุลินทรีย์อย่างอ่อนๆ ใช้ทาเฉพาะที่แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แพลงแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยและโรคผิวหนัง
พิมเสน มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ แบนๆ สีขาวขุ่นหรือแดงเรื่อๆ กลิ่นหอมเย็น พิมเสนบริสุทธิ์รูปร่างเป็นหกเหลี่ยมได้จากการนำการบูรมาหุงกับยาอื่นๆ แต่ปัจจุบัน ได้จากสารสังเคราะห์ซึ่งจะมีรสเผ็ดกัดลิ้นถ้าเป็นของแท้จากธรรมชาติจะไม่กัดลิ้นแต่จะทำให้เย็นปากคอ ประโยชน์ทางยา ใช้สูดดมแก้ลมวิงเวียน ทาภายนอกแก้เคล็ดขัดยอกแต่อาจเป็นอันตรายหากสูดดม เนื่องจากสารนี้ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจนอกจากนี้สารนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นและสงบระบบประสาทส่วนกลาง
ยาดมที่ประกอบด้วยสารหลัก 3 ตัวนี้ เมื่อสูดดมจะทำให้โล่งจมูก และทำให้เกิดความรู้สึกเย็น ซ่า สดชื่น ตื่นตัวมีประโยชน์ในขณะที่เป็นลมวิงเวียน หรือคัดจมูก แต่การใช้ยาดมที่ถูกต้อง ควรสูดดมใกล้ๆ แต่ไม่สัมผัสโดยตรงไม่ควรให้หลอดยาเข้าไปค้างไว้ในจมูก เพราะสารทุกตัวอาจทำให้ระคายเคืองเมื่อสัมผัส ควรหลีกเลี่ยงการใช้หลอดยาดมที่สัมผัสจมูกผู้อื่นแล้ว เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ อนึ่งยาดมมีฤทธิ์เพียงลดอาการเพียงชั่วคราว ถ้าเป็นมากควรไปพบแพทย์
ยาดมที่เป็นลักษณะยาน้ำ หรือ ยาขี้ผึ้ง ให้ป้ายสำลีหรือผ้าเช็ดหน้า หรือทาบางๆ ที่หน้าอก แล้วสูดไอระเหยหรืออาจทาด้านนอกของจมูกแต่ต้องใช้ยาปริมาณน้อยๆ และหากมีโรคของโพรงจมูกอยู่เช่น โพรงจมูกอักเสบจากการแพ้ติดเชื้อในโพรงจมูกหรือไซนัสอักเสบควรหลีกเลี่ยงการใช้ เนื่องจากอาการแพ้ซึ่งอาจมีเยื่อบุโพรงจมูกเสียหายอยู่แล้วหากสูดยาดมที่มีเข้มข้นมากๆ อาจระคายเคืองมากขึ้น อนึ่ง ยาสูดดมนี้อาจเกิดอันตรายกับเด็กดังนั้นควรเก็บรักษาไว้ให้ห่างมือเด็ก
จะเห็นได้ว่า ยาดมเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีประโยชน์ หากรู้จักใช้อย่างถูกวิธี ระมัดระวังและไม่สูดดมต่อกันเป็นเวลานาน เมื่อมีอาการผิดปกติควรเลิกใช้ทันทีและรีบปรึกษาแพทย์ การมีไว้สำหรับคนที่จำเป็นใช้ ก็เป็นการป้องกันโรคบางอย่างได้ ทำให้สุขภาพดี โดยไม่ต้องพึ่งยา
ขอบคุณข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง
ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล