ดวงจันทร์กับสายน้ำแห่งความรัก
ในทุกค่ำคืน บางคนมักแหงนมองท้องฟ้าเวลาเหงา บางคนมองดวงจันทร์ด้วยความเศร้า บางคนมองแล้วจินตนาการไปแสนไกล ส่วนบางคนอธิษฐานของบางอย่างที่หวังกับดวงจันทร์ แต่มีใครรู้หรือไม่ว่าดวงจันทร์เพื่อนที่แสนดีที่สุดของเรากำลังถอยห่างจากโลกเราไปทุกเวลา ผู้เขียนรักและขอบคุณดวงจันทร์เสมอ ที่ช่วยให้โลกเรามีสมดุลย์เช่นทุกวันนี้ จึงขอแต่งนิทานเรื่องราวของดวงจันทร์และโลกบนพื้นฐานของความจริง เพียงหวังให้ทุกคนได้ตระหนักว่า เราเคยห่วงใยดวงจันทร์เพื่อนที่แสนดีของเราหรือไม่ หากเมื่อถึงเวลาที่ดวงจันทร์ต้องจากไปไกล แล้วโลกเราจะอยู่้อย่างไร
นิทาน เรื่อง.... “ ดวงจันทร์กับสายน้ำแห่งความรัก "
กาลครั้งหนึ่ง..ณ ดินแดนอันไกลโพ้นของจักรวาล มีดาวน้อยใหญ่เต็มผืนฟ้า แต่มีอยู่หนึ่งดวง ดาวที่น่าอัศจัยรรย์ที่สุดในหมู่ดาวทั้งปวง มีชื่อว่าโลกซึ่งถือกำเนิดได้ไม่นาน และโลกยังมีดวงจันทร์อันเป็นที่รักและประสานเป็นหนึ่งเดียวด้วยความรัก มีเพื่อนเป็นหมู่ดาวรายล้อม และเป็นเช่นนั้นมาแสนนาน
แต่แล้ววันหนึ่ง มฤตยูมืดจากจักรวาลอันไกลโพ้นและมืดมิด มีชื่อว่า อุกาบาต เกิดอิจฉาในความรักของท้งสอง รอเวลาจนได้อากาสเหมาะเข้าโถมกระหน่ำทำร้ายโลกและดวงจันทร์อย่างรุนแรง ทำให้ร่างของดวงจันทร์ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หลุดลอยออกจากอ้อมกอดของโลกที่ปกป้องเธอไว้ไปไกลแสนไกล ดวงจันทร์ต้องเจ็บปวดด้วยความคิดถึง ด้วยพลังแห่งความรักที่ดวงจันทร์มีต่อโลก เธอจึงยื้อยุดฝืนร่างของเธอเอาไว้ไม่ยอมให้หลุดไปสู่ห้วงลึกของจักรวาล ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นเธอจะไม่มีวันได้พบกับโลกอีกเลย เธอรวบรวมพลังที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อรวมร่างที่กระจัดกระจายเต็มฟากฟ้าให้เป็นหนึ่งเดียว ในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จ และพยายามวนเวียนอยู่ข้างๆ โลกมิให้ห่าง
แม้นานแสนนาน ดวงจันทร์ยังคลอเคล้าโลกอยู่เช่นนั้นเรื่อยมา ไม่มีวันไหนเลยที่เธอหันหน้าหนีไปจากโลกอันเป็นที่รัก เธอเฝ้ามองอยู่อย่างนั้นตลอดมาไม่เคยเหลียวหน้าไปทิศทางใด แต่ตอนกลางวันแสงจากดวงอาทิตย์ร้อนแรงเกินกว่าที่พระจันทร์จะมาให้โลกเห็นได้ เธอรอคอยให้แสงทองแห่งพระอาทิตย์ลับลาไป หลังจากนั้นเธอก็จะรีบออกมาสู่อ้อมกอดของโลกอีกครั้ง แม้มันจะห่างไกล แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นว่าคนรักของเธอยังไม่จากไปไหน
ทุกครั้งที่มาเธอก็จะส่องแสงนวลอันน้อยนิดมายังโลก เพื่อบอกให้โลกรับรู้ว่าเธอยังรักโลกอยู่เสมอมิเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีหมู่ดาวน้อยใหญ่เรียงรายเต็มฟากฟ้าแป็นประจักษ์พยานแห่งความรัก
และด้วยรักและอาลัยทุกครั้งที่เธอมาสายน้ำแห่งความรักจากโลกจะหนุนขึ้นมาเพื่อโอบกอดเธอไว้เพื่อให้รู้เช่นกันว่าโลกก็ยังรักดวงจันทร์ดวงนี้เสมอ และจะโอบกอดเธอไว้อีกครั้งยามดวงจันทร์ต้องจากไปในรุ่งสางของทุกวัน
หากเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน คุณจะได้เห็นเสมอว่า ดวงจันทร์ไม่เคยหันหน้าไปทางไหนนอกจากมองมายังโลกอันเป็นที่รัก และยามรุ่งสางหากคุณมองไปสู่ทะเล สายน้ำแห่งความรักก็จะเอ่อล้นเพื่อโอบกอดดวงจันทร์ไปเช่นนั้นตลอดกาล
แต่ ณ เวลานี้ จะมีใครล่วงรู้หรือไม่ว่า ดวงจันทร์อันเป็นที่รักของโลกกำลังค่อยๆ ห่างออกไปทุกที ทั้งสองอ่อนล้าขึ้นทุกวันในวัยที่สูงขึ้น ดวงจันทร์มิอาจต้านทานห้วงลึกของจักรวาลได้นานนัก มฤตยูมืดแห่งจักรวาลยังคงพยามยามดึงดวงจันทร์ให้ถอยห่างออกไปทุกทีๆ
หากวันที่ดวงจันทร์และโลกต้องจากกันชั่วนิรันดร์มาถึง
.....แสงนวลจากดวงจันท์อันแสนงามคงจางหาย.....
.....สายน้ำแห่งความรักคงราบนิ่งไม่วิ่งไหล.....
แล้ววันนั้น โลกจะอยู่อย่างไรหากไร้ซึ่งพระจันทร์อันเป็นที่รัก เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายบนโลกคงสับสนวุ่นวาย ให้อาดูลย์ หรือโลกจะดับสลายหากไม่มีดวงจันทร์เคียงคู่กาย
หากคืนนี้ แหงนมองมองท้องฟ้าแล้วพบแต่ความว่างเปล่า ลองถามโลกดูสิว่า....
.....เธอจะอยู่อย่างไรหากไร้ซึ่งดวงจันทร์....
.....................................................
สงวนสิทธิ์ ห้ามนำบทความนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หากคัดลอกไปกรุณาให้เครดิตผู้ประัพันธ์ด้วย ขอบคุณ
ภาพประกอบพรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ประพันธ์โดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)