Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตามหาเลนิน: ตอนที่ 1 ความเป็นมาของรัสเซีย

โพสท์โดย MarvelMan

สวัสดีคร้าบบบ วันนี้กระผม MarvelMan ได้เปลี่ยตัวเองมาอยู่ฝั่งคอมมิวนิสสักนิด เพื่อเอาความรู้เล็กๆน้อย (ตรงไหน) 

 

มาให้อ่านกันนะครับ มันคือความรู้เกี่ยวกับประวัติของประเทศรัสเซียและสหภาพโซเวียตนะครับ  

 

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านความรู้หรือเห็นว่ามันยาวเกินไปที่สมองของท่านจะรับได้ก็ขอให้กด x ทิ้งไปไม่ต้องอ่านก็ได้ไม่ว่ากันครับ 

 

วันนี้ความรู้ล้วนๆๆ ขอเชิญรับชมๆเล้ยยยยยยย  

 

ตามหาเลนิน: ตอนที่ 1 ความเป็นมาของรัสเซีย

ขึ้นชื่อว่าประเทศรัสเซียแล้ว เมื่อคนทั่วไปได้ยินคำนี้สิ่งแรกที่รู้สึกก่อนอื่นก็คือ กลัว ชื่อนี้น่ากลัวเพราะเป็นชื่อของ ( อดีต ) ประเทศคอมมิวนิสต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คุณเชื่อหรือไม่ว่าพอผมบอกกับใครๆว่าจะไปรัสเซีย สีหน้าตกใจของคนเหล่านั้นจะปรากฏให้เห็นก่อน ตามมาด้วยสีหน้าแปลกใจ แล้วก็ตามมาด้วยสีหน้าที่ดูกังวลห่วงใย แต่พอได้สติหน่อยก็เริ่มมีสีหน้าที่เป็

นปกติยิ้มยินดีให้เห็นบ้าง โอ ทั้ง ๆ ที่ประเทศนี้เปลี่ยนสีแปรธาตุเปลี่ยนธงชาติตัวเองมาได้ตั้ง 10 กว่าปีแล้ว (ค.ศ. 1991) แต่ยังมีผู้คนอีกมากมายหลงติดอยู่กับภาพเดิมๆไม่เสื่อมคลายเลย "ผีคอมมิวนิสต์" ที่เคยฝังหัวล้างสมองกันมานมนาน อนิจจาบางทีบัดนี้ความเกลียดและความกลัวผีตนนี้มันคงฝังรากลึกลงไปใน ดีเอ็นเอ ตอนใดตอนหนึ่งของ โครโมโซม ของเราไปเสียแล้ว
ผมฝันไว้นานมาแล้วว่าอยากจะไปเหยียบผืนแผ่นดินรัฐสังคมนิยมอย่างรัสเซียสักครั้ง รอคอยโอกาสที่ว่านั้นจนเพลินไปหน่อย กว่าจะได้ไปตามฝัน "สังคมนิยมแบบรัสเซีย" ก็ล่มสลายไปเสียแล้ว ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังรู้สึกอยากจะไปอยู่ดี แม้อาจได้เห็นเพียงซากก็ตาม แต่ความรู้สึกภายในใจยังระลึกถึงอยู่เสมอว่าอย่างน้อยประเทศนี้ก็ได้เคยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประชาชนนั้นเป็นเจ้าของแผ่นดินได้ จากที่เคยหลอกลวงกันมานานแสนนานว่าประชาชนคนธรรมดาสามัญอย่างเรา ๆ ทั้งหลายนั้นอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ด้วยคนเพียงไม่กี่คนอุปโลกน์ตัวเองว่ามาจากสวรรค์เบื้องบน แล้วก็มาชี้เป็นชี้ตายให้กับผู้คน สมอ้างว่าตนเองและครอบครัวเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ คนพวกนี้มีชีวิตอยู่อย่างเหนือขีดจำกัดทั้งปวง พวกเขาอิ่มเอมจนล้นเหลือถึงขั้นต้องล้วงคอสำรอกออกเพื่อจะได้เสพใหม่ขณะที่มีคนอดอยาก หิวโหย ตายเพราะความหนาวและขาดอาหาร คนพวกนี้เป็นกลุ่มคนพวกเดียวที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดในเรื่องความมักมากในกาม วัน ๆ มั่วกับนางสนม นายสนม กันยุ่งไปหมด คนพวกนี้บังคับเกณฑ์แรงงานคนจำนวนมากมายมหาศาลไปเป็นทาส ขนหิน ขนดิน ขนทรายเพื่อก่อสร้างปราสาทราชวังขนาดใหญ่โตชนิด
ที่ยังมีอีกหลายห้องหลายแห่งที่เขายังไม่เคยได้เดินไปเหยียบย่างเลย คนพวกนี้เสริมสร้างอำนาจบารมีของตนด้วยกองทหารติดอาวุธเที่ยวก่อสงคราม ตีชิงปล้นเอาทรัพย์สมบัติ และผู้คนในถิ่นอื่นด้วยความกระหายและด้วยความโลภที่ไม่รู้จบ เขาหลอกลวงผู้คนด้วยข้ออ้างทางเชื้อชาติ ให้รักชาติแบบคลั่งชาติ ขาดสติไร้ซึ่งเหตุผล เพื่อให้ผู้คนคิดแต่การเทิดทูนตนเองไปจนชั่วชีวิต โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้เอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าในสงครามเพียงเพื่อค้ำจุนบัลลังค์ให้กับคนพวกนี้ เท่านั้น ทั้งหมดนี้มีแบบอย่างให้ได้เห็นกันในประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซีย ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นไปจนถึงจุดจบอย่างครบถ้วนเสียด้วย
ประเทศนี้แต่เดิมเคยได้รับสมญาว่าเป็นลูกคนสุดท้องทางอารยธรรมของยุโรป เพราะเจริญช้ากว่าใคร ๆ แต่เวลาผ่านไปไม่ทันไร ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมารัสเซียกลับได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุดในโลก และมีความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดทั้งในทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ประเทศนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดรัฐสังคมนิยมแห่งแรกของโลก โดย เลนิน ( V.I.LENIN ค.ศ. 1870-1924 ) ซึ่งเป็นผู้ทำให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ประสพความสำเร็จอย่างเป็นจริงประเทศนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่มการเดินทางออกจากโลกท่องไปในอวกาศ โดยเริ่มจากยานอวกาศลำแรกของโลก ที่มีชื่อว่าสปุ๊กนิค (SPUTNIK I 4 ตุลา 1957) ตามมาด้วย สุนัขไลก้า (LAIKA 3 พ.ย. 1957) สิ่งมีชีวิตตัวแรกที่ออกไปนอกโลก แล้วก็มาถึงสหายยูริ กาการิน (Y.GAGARIN 12 เม.ย 1961) มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก ตลอดไปจนถึงสถานีอวกาศแห่งแรกของโลกที่ชื่อ เมียร์ (MIR ค.ศ. 1986-2001) ที่ใช้เป็นบ้านนอกโลกให้มนุษย์อยู่นานนับ10 ปี หากมองย้อนหลังไปอีกก็จะพบว่ากองทัพแดง (RED ARMY) ที่เต็มไปด้วยสหายหนุ่มสาวผู้กล้าหาญชาวสังคมนิยมสหภาพโซเวียตซึ่งสร้างชื่อเสียงไว้ให้โลกอย่างไม่มีวันลืม ทหาร
กองทัพแดงกว่า 25 ล้านคนเสียสละพลีชีพไปในการสงครามครั้งนี้ พวกเขาได้สร้างวีรกรรมในสมรภูมิที่ถือได้ว่าดุเดือดรุนแรงที่สุดในโลกไม่ว่าจะเป็นตำนานการสู้รบด้วยรถถัง รถกระป๋องคันเล็ก ๆ ของเหล่าสหายกองพลรถถังภายใต้การนำของจอมพลวาตูติน กับกองทัพรถถัง PANZER อันทันสมัยที่สุดแห่งยุคที่ไม่เคยแพ้ใครของนาซี ในทุ่งหญ้าเล็กแห่งหนึ่ง (THE BATTLE OF KURSK ค.ศ. 1943) ไปจนถึงการรบเพื่อพิทักษ์ปิติภูมินครเลนินกราด (LENINGRAD ค.ศ.1941-1943) มอสโคว์ ( MOSCOW ค.ศ. 1941-1942 ) และสตาลินกราด ( STALINGRAD ค.ศ. 1942-1943 ) สิ้นสุดลงด้วยการบุกเข้าเผด็จศึกที่มั่นสุดท้ายของกองทัพนาซีเยอรมัน ทหารกองทัพแดงเป็นผู้ปิดฉากสุดท้ายของฮิตเล่อร์ ที่นครเบอร์ลิน ซึ่งถือได้ว่าการเข้าร่วมสงครามของคอมมิวนิสต์รัสเซียกับสัมพันธมิตรเป็นมูลเหตุอันสำคัญที่สุดในการเอาชนะฝ่ายอักษะและสามารถยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 (WORLD WAR II ค.ศ. 1939-1945) ลงได้ แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง ในที่สุดรัฐสังคมนิยมแห่งแรกของโลกแห่งนี้ก็ได้มาถึงจุดจบอันน่าเศร้าด้วยน้ำมือของผู้นำชาวพรรคคอมมิวนิสต์เองในปี ค.ศ. 1991 สหภาพโซเวียตรัสเซียมีสิริรวมอายุได้ 74
ปี (ค.ศ.1917-1991) นับต่อจากนี้เป็นต้นไปไม่ว่าประเทศรัสเซียจะย่างก้าวไปในทิศทางใดก็จะเป็นกรณีศึกษาที่สุดแสนจะคลาสสิคที่สุดของชาวลัทธิมาร์กซ-เลนินและผู้สนใจไปอีกนานแสนนาน
บรรพบุรุษของชาวรัสเซียมาจากชนเผ่าไวกิ้งกลุ่มหนึ่งที่เดินทางเร่ร่อนมาจากยุโรปเหนือ เข้าสู้รบแย่งชิงพื้นที่และทรัพยากรกับชนเผ่าอื่น ๆ มีหัวหน้าเผ่าชื่อรูคริค (RIURIK) สามารถเข้าครอบครองเมืองนอฟโกรอฟซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของรัสเซียในปัจจุบันได้ในปี ค.ศ. 882 แล้วก็ขยายอิทธิพลลงใต้เรื่อยมา จากหัวหน้าชนเผ่าเร่ร่อนเล็ก ๆ กลายมาเป็น เจ้าผู้ครองแคว้น แล้วต่อมาก็เริ่มตั้งตนเองและครอบครัวเป็นกษัตริย์ และมีราชวงศ์เป็นของตนเอง ในเวลานั้นนครรัฐที่สำคัญที่สุดในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 10 ก็คือนครคีเอฟ หรือ เคียฟ (KIEV) ที่ปกครองโดยเจ้านครชื่อซวีอาโต สลาฟ (SVIATO SLAV ค.ศ. 962-972 ) ใช้ภาษาพูดที่เรียกว่าภาษาสลาฟตั้งแต่นั้น ชาวสลาฟเหล่านี้ได้ยอมรับเอาคริสต์ศาสนานิกายออร์ธอดอกซ์มาเป็นศาสนาประจำชาติของนครต่าง ๆ ทั้งหมดในรัสเซียโดยเจ้าผู้ครองนครคนหนึ่งที่ชื่อว่าวลาดิเมียร์ (VLADIMIR ค.ศ. 980-1015 ) มีการรบพุ่งทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันระหว่างเจ้าผู้ครองนครรัฐต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อมาอีกนับเป็นร้อยปี ประชาชนต่างต้องอพยพหนีภัยสงครามกันตลอดเวลา บ้านเมืองพังพินาศ สังคมเสื่อมถอยอ่อนแอ เป็นเหตุให้บาตูข่าน (BATU KHAN) หลานปู่ของเจงกิสข่านจากตะวันออก สามารถนำทัพมองโกลและตาตาร์เข้าครอบครองรัสเซียได้ทั้งหมด ในปีค.ศ. 1237-1240 นับเป็นเวลาเกือบ 2 ศตวรรษที่รัสเซียตกอยู่ภายใต้การครอบครองของพวกมองโกลและถูกเรียกว่าเป็นเขตปกครองตนเองชื่อว่า โกลเดนฮอร์ด (GOLDEN HORDE)
ในขณะที่พวกมองโกลปกครองอยู่นั้นก็ได้เกิดนครรัฐใหม่ขึ้นที่มอสโคว์ (MOSCOW) มีอิวานที่1 (IVAN I ค.ศ.1325-1341) เป็นเจ้าผู้ครองนครผู้เป็นที่ยอมรับในหมู่พวกมองโกลเป็นอย่างดีต่อมาเมื่อมาถึงยุคอิวานที่ 3 (IVAN III ค.ศ.1462-1505) ประชาชนต่างพร้อมใจกันลุกฮือแย่งยึดอาณาจักรรัสเซียคืนได้สำเร็จ เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง เมื่อได้ประกาศอิสรภาพจากมองโกลแล้ว รัสเซียก็เริ่มรับเอาอารยธรรมทางยุโรปเข้ามามากขึ้น บ้านเมืองเข้าสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้งจนสามารถประกาศให้รัสเซียเป็นโรมที่3 (THE THIRD ROME) คือเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาแทนโรมและคอนแสตนติโนเบิลได้ในยุคของพระเจ้าอิวานมหาราชองค์นี้ (IVAN THE GREAT) ต่อมาเมื่อถึงอิวานที่4 หลานปู่ของอิวานมหาราชก้าวขึ้นมามีอำนาจ เขาเป็นคนแรกที่ให้ตำแหน่งกษัตริย์ (KING) เรียกชื่อเสียใหม่ว่าซาร์ (CZAR or TSAR) อันมาจากคำว่าซีซาร์ (CAESAR) ตำแหน่งจักรพรรดิโรมัน อิวานที่ 4 ผู้นี้มีกองทหารที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรชื่อว่ากองทหารคอสแซค(COSSACK) เขาส่งทหารเข้าตีเมืองต่าง ๆ เพื่อขยายอาณาจักรไปทุกทิศทุกทาง ซาร์องค์นี้ได้ชื่อว่ามีใจคอโหดเหี้ยมไม่ผิดเพี้ยนไปจากปู่ของเขา ไม่เคยมีความเมตตาให้ใคร ถึงขนาดเคยสั่งฆ่าและเผาชาวเมืองนอฟโกรอฟจนหมดสิ้น เพราะเชื่อเพียงข่าวลือว่าจะมีการก่อกบฎ ยามเมื่อโกรธจัดก็เคยฆ่าลูกในไส้คนโตตายด้วยมือของตัวเองมาแล้ว ยุคนี้กรุงมอสโคว์ก็ได้เป็นเมืองหลวงของรัสเซีย ในที่สุดเมื่ออิวานจอมโหด (IVAN THE TERRIBLE ค.ศ. 1533-1584) ผู้นี้สิ้นชื่อไปแล้ว เกิดการแย่งชิงบัลลังค์กันชุลมุน รัสเซียก็เข้ามาสู่ยุคที่มีแต่การจลาจลปั่นป่วนไปทั่วอีกครั้ง ในช่วงนี้เองก็มีพวกโปแลนด์และสวีเดนเข้ามารุกรานและมีส่วนเกี่ยวข้องในทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียด้วย จนถึงปี ค.ศ. 1613 ชาวรัสเซียก็สามารถขับไล่ต่างชาติเหล่านี้ออกไปได้สำเร็จและกลับฟื้นขึ้นมาใหม่จนมีความเจริญรุ่งเรืองสูงขึ้นมาอีกครั้ง ซาร์ผู้โชคดีในยุคนี้ก็คือปีเตอร์มหาราช ( PETER THE GREAT ค.ศ. 1682-1725 )

ซาร์ผู้นี้เมื่อยังเล็ก ๆ ได้ครองอำนาจร่วมกับอิวานพี่ชาย แต่พงศาวดาร รัสเซียบอกว่าพระพี่ชายองค์นี้สุขภาพไม่ดี ปีเตอร์รอจนถึงอายุ 17 ปี แผนการยึดอำนาจไว้เพียงคนเดียวก็ประสพความสำเร็จ แน่นอนว่าภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น อิวานผู้พี่ก็ตาย ปีเตอร์ที่ยังวัยรุ่นมักทำอะไรตามใจตัวเอง มีอารมณ์ร้าย โกรธง่าย ใจคอโหดเหี้ยม ชอบแข่งขันท้าทายการกินเหล้าทน กินเหล้าเก่งกับผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ชอบความสะอาดเรียบร้อย กินเก่ง ปีเตอร์พยายามขยายอาณาจักรของตนเองมากขึ้น เขาอยากให้ชาวรัสเซียดูดีมีความเป็นชาวยุโรปอย่างแท้จริง ระหว่างปี ค.ศ. 1695-1696 รัสเซียก็รบชนะพวกเติร์ก ( ตรุกี ) เข้ายึดทางออกสู่ทะเลดำได้สำเร็จ ได้เปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ อย่างขนานใหญ่ ประชาชนต่างช่วยกันสร้างความเจริญให้ประเทศรัสเซียทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปในทุก ๆ ด้านให้เร็วที่สุด ในเวลานั้นเองรัสเซียก็ยังมีคู่อริที่สำคัญคือประเทศสวีเดนซึ่งมีกษัตริย์หนุ่มอายุ 18 ปีมีนามว่าชาลส์แห่งสวีเดน ได้ชื่อว่ามีความฉลาด ชอบทำสงคราม ในขณะนั้นสวีเดนกำลังทำสงครามเข้ายึดครองเดนมาร์ก และเข้าตีโปแลนด์ แน่นอนเป้าหมายต่อไปย่อมหนีไม่พ้นรัสเซีย แต่สงคราม 6 ปีที่ชาลส์แห่งสวีเดนทำอยู่นั้น ได้เปิดโอกาสให้รัสเซียมีเวลาตระเตรียมกองทหาร เสบียง และสร้างป้อมค่ายไว้คอยรับมือ มีการขยายเมืองป้อมเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำเนวา (NFVA) ที่เคยยึดได้จากสวีเดนสถาปนาเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ให้ชื่อว่าเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก(ST.PETERSBURG) ในปี ค.ศ. 1703 เมื่อชาลส์แห่งสวีเดนบุก รัสเซียก็ได้พบกับการสู้รบอย่างชาญฉลาดของชาวรัสเซียที่ใช้กลยุทธ์การดึงเวลา ล่อลวงกองทัพข้าศึกให้เข้าลึกเพื่อมาติดกับดักแห่งฤดูหนาวอันโหดร้ายที่สุดของรัสเซีย ความหนาวเหน็บได้ช่วยบั่นทอนกำลังทหารสวีเดนลงไปอย่างมากมาย รบกันมาจนถึงปี ค.ศ. 1709 แม้ว่าจะพ้นจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว และแม้ว่าจะสามารถรุกต่อไปได้ถึงแคว้นยูเครน (UKRAINE)ได้แล้วก็ตาม ชาลส์แห่งสวีเดนในเวลานั้นก็รู้แล้วว่าตนเองหลงกลชาวรัสเซียเข้าเสียแล้ว เมื่อต้องพบกับกองทัพขนาดใหญ่รออยู่ ในที่สุดกองทัพสวีเดนก็พ่ายแพ้ต่อ กองทัพรัสเซียอย่างยับเยิน ผลแห่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียได้ครอบครองอ่าวฟินแลนด์ไว้ได้ทั้งหมด รัสเซียมีพื้นที่ใหญ่โตขึ้นมากและก็ทำให้บัลลังก์ของปีเตอร์มั่นคงมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากนั้นนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็ถูกเนรมิตให้เป็นนครที่มีความสวยงามเป็นเลิศที่สุดในแถบทะเลบอลติก ถือกันว่านครแห่งนี้เป็นหน้าเป็นตาของรัสเซียอย่างแท้จริง แน่นอนในการนี้ประเทศรัสเซียต้องระดมลงทุนด้วยเงินทองและแรงงานผู้คนไปอย่างมากมายมหาศาลยุคหนึ่งทีเดียว การขยายตัวเติบใหญ่ของรัสเซียได้ดำเนินต่อมาจนถึงสมัยของพระนางแคทธอรีนมหาราชินี (CATHERINE THE GREAT ค.ศ. 1762-1769) ซึ่งนางเป็นชาวเยอรมันธรรมดาโดยกำเนิด เมื่อนางได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าปีเตอร์ที่ 3 แห่งรัสเซียก็กลายเป็นราชินี นางมีคุณสมบัติที่เก่งกาจ และชาญฉลาดกว่าสวามีมาก นางสามารถผูกใจให้ชาวรัสเซียมีความรักใคร่เทิดทูนในตัวนางเยี่ยงราชินีรัสเซียเป็นอย่างมาก นางพูดเก่งเพราะเชี่ยวชาญภาษารัสเซีย และได้เปลี่ยนการนับถือศาสนาจากลัทธิโปรเตสแตนท์อย่างชาวเยอรมันมาเป็นแบบรัสเซียคือ กรีกออธอร์ดอกซ์ (GREEK ORTHODOX) เชื่อกันว่านางลอบฆ่าสวามีแล้วปล่อยข่าวว่าสิ้นใจเพราะโรคประสาทกำเริบอย่างรุนแรง ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าราชินีองค์นี้มี "นายสนม" รับใช้มากยิ่งกว่า "นางสนม" ของกษัตริย์รัสเซียองค์ใด พระนางเจ้าแคธอรีนมหาราชินี (CZARINA) สามารถเสวยอำนาจในรัสเซียได้ถึง 34 ปี และก็เช่นเดียวกันอีก นางชอบสร้างปราสาทราชวัง ชอบสะสมสมบัติล้ำค่าเช่นเครื่องเพชร เครื่องเงินเครื่องทอง ภาพเขียน รูปปั้นและงานศิลปะต่าง ๆ จากยุโรป บางเวลาก็ทำสงครามเพื่อปล้นชิงเอา บางเวลาก็ใช้เงินที่ได้จากการรีดภาษีประชาชนไปซื้อเอา เหมือนอย่างที่กษัตริย์รัสเซียองค์ก่อน ๆได้เคยทำไว้
แล้วก็มาถึงสมัยของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 (ALEXANDER I ค.ศ. 1801-1825) ยุคนี้ทหารรัสเซียก็ได้สร้างชื่อเสียงอีกครั้งเมื่อสามารถรบชนะจักรพรรดิ นโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ได้ในปี ค.ศ. 1812 ด้วยกลยุทธ์เดิมเมื่อ 100 ปีมาแล้ว ในเวลานี้รัสเซียสามารถขยายดินแดนออกไปทางทิศตะวันออกจนถึงแม่น้ำอามูร์ และแย่งชิงเมืองท่าวลาดิวอสสต๊อกจากจีนได้สำเร็จ ซาร์ผู้นี้พยายามจะเข้าครอบครองเกาหลีและปอร์ตอาเธอร์ (ส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น) เขาได้ก่อให้เกิดสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซีย คราวนี้รัสเซียต้องพ่ายแพ้ย่อยยับต้องถอยกลับไป นับว่าเป็นการรุกรานชาวบ้านครั้งสุดท้ายของกษัตริย์รัสเซีย ต่อมาในสมัยของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ปี ค.ศ. 1861 ซาร์ผู้นี้โชคไม่ค่อยดีเพราะต้องมาถูกแรงกดดันของประชาชนให้ยกเลิกระบบทาสและให้มีการปฏิรูป การปกครองเสียใหม่ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และมีโอกาสในการศึกษามากขึ้น เริ่มมีนักศึกษาปัญญาชนจำนวนหนึ่งเห็นว่าระบบกษัตริย์เป็นตัวการทำลายสังคมและขัดขวางความเจริญของประเทศรัสเซียอย่างแท้จริง ในเวลาใกล้ ๆ กัน ชาวผรั่งเศสก็สามารถโค่นล้มกษัตริย์นโปเลียนที่ 3 ได้สำเร็จในปี ค.ศ.1871
ในปี ค.ศ. 1881 ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบสังหาร ข่าวว่าเป็นฝีมือของพวกกบฎหัวก้าวหน้า ดังนั้นเมื่อซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ขึ้นมามี อำนาจ ก็ได้พยายามกลับไปใช้ระบบกษัตริย์ที่เผด็จการเด็ดขาดเหมือนเดิมอีก มีการปราบปรามประชาชนผู้ไม่เห็นด้วย (กบฏ) อย่างขนานใหญ่และอย่างต่อเนื่อง มีผู้ถูกฆ่า และถูกจับขังคุกด้วยข้อหาทางการเมืองเป็นจำนวนมากจวบจนถึงสมัยของซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งราชวงศ์โรมานอฟผู้โชคร้าย เขาผู้นี้ได้ก้าวขึ้นมามีอำนาจในปี ค.ศ. 1894
จากการที่ต้องใช้ทหารเข้าปราบปรามประชาชนเพื่อค้ำจุนบัลลังก์ของตนเอง แถมต้องมาทำสงครามแย่งพื้นที่กับเยอรมัน ทำให้สังคมรัสเซียอยู่ในสภาพที่อ่อนแอทรุดโทรมมาก แรงงานภาคเกษตร และอุตสาหกรรมขาดแคลนอย่างหนักเพราะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ซาร์นิโคลัสที่ 2 และครอบครัวพร้อมด้วยสมุนบริวารต่างเสวยสุขกันภายในมหาราชวัง ในขณะที่ประชาชนต่างอดอยาก แร้นแค้น พวกเขายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยขณะที่ประชาชนแทบไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่กันหนาว ในยามคับขันนั้นเองได้มีนักบวชผู้หนึ่งชื่อกาปอน (GAPON) แห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นผู้ที่ได้รับความยอมรับนับถือจากประชาชนมาก พระรูปนี้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสมาคมอุตสาหกรรมขึ้นในปี ค.ศ. 1904 เพื่อช่วยเหลือชาวกรรมกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยเจตนาที่ดีและวิธีที่ไม่ผิดกฎหมายในปี ค.ศ. 1905 พระกาปอนนำประชาชนราว 150,000-200,000 คนเดินขบวนฝ่าลมหนาวเพื่อถวายฎีกาต่อซาร์นิโคลัสที่ 2 ให้ช่วยเหลือประชาชนที่ทุกข์ยากเดือดร้อน แต่สิ่งที่ได้รับคือความตายจากห่ากระสุนปืนที่ทหารรักษาพระองค์ระดมยิงใส่ฝูงชนอย่างไร้ความปรานี มีผู้บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์
ครั้งนั้นถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ให้จดจำเรียกกันว่า "วันอาทิตย์นองเลือด" นับจากวันนั้นเป็นต้นมาความเคียดแค้นชิงชังต่อระบอบกษัตริย์ ขุนนาง พวกเจ้าที่ดิน และนายทุน ก็ระเบิดระบาดไปทั่วประเทศรัสเซีย มีการเดินขบวน การหยุดงาน การเผาปล้นทำลายทรัพย์สินของเจ้าที่ดินเกิดขึ้นไปทั่ว แม้ทหารจะเข้าปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างหนักแต่สถานการณ์กลับดูเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ซาร์นิโคลัสที่ 2 เมื่อเห็นว่าการปราบปรามชักจะไม่ได้ผลอีกต่อไป ซาร์ก็ยอมลดตัวลงมายินยอมมอบเสรีภาพบางส่วนเช่น เสรีภาพในการพูดในที่ชุมนุม การรวมตัวกันเป็นสมาคม สัญญาว่าจะเปิดโอกาสให้ใช้กฎหมายแทนการใช้อำนาจของกษัตริย์ ยอมฟังเสียงจากสภาดูมา (DUMA) มากขึ้น แต่ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นภายหลังล้วนเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น
ครั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัสเซียก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก แถมยังมีนักบวชชื่อรัสปูติน (GREGORY RUSPUTIN) เข้ามามีอิทธิพลในการปกครองบ้านเมือง กษัตริย์และราชินีต่างเชื่อคำแนะนำของนักบวชผู้นี้มากกว่าใคร ๆ รัสปูติน บอกว่ารบชนะแน่พระย่ะค่ะ ก็ส่งทหารไปรบ ผลก็คือทหารรัสเซียต้องล้มตายไปเป็นจำนวนมาก รัสเซียพ่ายแพ้อย่างย่อยยับต่อเยอรมัน ครั้นสภาดูมาแนะนำสิ่งที่ดี ๆ ก็โกรธสั่งยุบสภาเสีย ทหารและประชาชนนับวันเริ่มเบื่อหน่ายกษัตริย์หันไปสนับสนุนความคิดปฎิวัติมากขึ้นทุกที 
แล้ววันนั้นก็มาถึงจนได้ การปฏิวัติเริ่มในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1917 ประชาชน ผู้หิวโหยก่อการจลาจล ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทหาร กรรมกรและประชาชนต่างจับมือร่วมกันตั้งสภาโซเวียต (SOVIET) เพื่อเป็นองค์กรนำไปสู้รบกับกอง ทหารคอสแซค(COSSACK) ของซาร์นิโคลัสที่ 2 เกิดการจลาจลไปทั่วรัสเซีย การปฏิวัติครั้งนี้ชาวพลพรรคบอลเชวิค (B0LSHEVIKS) ที่นำโดยเลนิน (V.I.LENIN) นำการปฎิวัติ โดยชูคำขวัญ "สันติ ที่ดิน และขนมปัง" เขาสัญญาว่าจะยุติสงครามของกษัตริย์ ถอนตัวออกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาจะยึดที่ดินที่ครอบครองโดยพวกกษัตริย์และเจ้าที่ดินมาคืนให้แก่ชาวนา เขาจะให้กรรมกรมีสิทธิ์ในโรงงานแทนการเป็นแค่ทาสแรงงานของกรรมกร และแล้วในคืนวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1917 พระราชวังฤดูหนาวที่นครเปรโตกราดอันโอ่อ่าของพระเจ้าซาร์ก็ถูกยึดโดยประชาชน ราชวงศ์โรมานอฟทั้งหมดถูกจับขัง และถูกสำเร็จโทษเรียบไม่มีเหลือในปี ค.ศ. 1918
เวลานั้นทั่วทั้งประเทศรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาลกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกต่างตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดากษัตริย์ ขุนนาง ข้าราชบริพาร เจ้าที่ดิน และนายทุน ในประเทศต่าง ๆ พวกเขาทั้งหลายต่างจดจ้องมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น พลันก็ไพล่นึกไปถึงวาระสุดท้ายของพรรคพวกตนเยี่ยงราชวงศ์โรมานอฟ โอ มันน่าสะพรึงกลัวเสียนี่กระไร เพราะการเสวยสุขเสพสมเยี่ยงเทวดาบนหลังคนที่ทำกันมานมนานจนเคยชินนั้นสำหรับประเทศรัสเซียมันได้สิ้นสุดลงแล้ว "ผีคอมมิวนิสต์" ตนนี้กำลังเริ่มออกอาละวาดหลอกหลอนพวกเขาแล้ว รัฐสังคมนิยมแห่งแรกของโลกได้สถาปนาขึ้นแล้ว รัสเซียในยุคใหม่ที่นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียและท่านเลนิน กำลังจะนำพาประเทศรัสเซียไปสู่ยุคใหม่ในระบอบใหม่ที่ไม่เคยมีใครในโลกรู้จักมาก่อน.

หมายเหตุ : ข้อมูลส่วนใหญ่คัดมาจากเอกสารประกอบการเดินทางของทัวร์ ซึ่งก็คัดมาจาก สัมผัสรัสเซีย ของ ขจัดภัย บุรุษพัฒน์ : สนพ.แพร่พิทยา 2542 และ ธนิต ธรรมสุคติ, เที่ยวรัสเซีย : บ. สี่เกลอ จก. 2525 และ ศ.ดวงเดือน พิศาลบุตร , ผช.เพิ่มจิตร สิงหเสนี , สหภาพโซเวียต : สนพ.บรรณกิจ 2523และ รูปภาพไม่มีมากมายเพราะหายากดีแท้ - -

ขอบคุณมากครับ ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะครับ :) 
MarvelMan : Facebook : Tanny Chanatip 
ฝากแฟนเพจ Soviet ของผมด้วยนะครับบบบ 
เชิญติชมและคอมเม้นได้เลยคร้าบบบบ ขอบคุณที่ให้โอกาสนะครับบบ  
ที่มา: ข้อมูลส่วนใหญ่คัดมาจากเอกสารประกอบการเดินทางของทัวร์ ซึ่งก็คัดมาจาก สัมผัสรัสเซีย ของ ขจัดภัย บุรุษพัฒน์ : สนพ.แพร่พิทยา 2542 และ ธนิต ธรรมสุคติ, เที่ยวรัสเซีย : บ. สี่เกลอ จก. 2525 และ ศ.ดวงเดือน พิศาลบุตร , ผช.เพิ่มจิตร สิงหเสนี , สหภาพโซเวียต : สนพ.บรรณกิจ 2523
Tags  soviet
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
MarvelMan's profile


โพสท์โดย: MarvelMan
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
กะเทยร่วมกับผัวหนุ่ม ฆ่ๅน้อง ไกด์ น้องชายในไส้ตัวเอง แล้วเอาไปฝังดินนาน 3 เดือนรัก 1 ปีไปไม่รอด! คู่รักดังประกาศเลิก ทำแฟนๆ ใจหายเตือนภัย! ภูเขาไฟฟูจิอาจปะทุครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นอัปเดตแผนอพยพใหม่นักบินดึงผดส.ออกมาจากห้องน้ำหลังเข้าห้องน้ำนานเกินไปจากรักสุดปัง สู่ทางตัน! นางงามดังประกาศเลิกแฟนมหาเศรษฐีเคล็ดลับความอร่อย! ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่ไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันมาตลอด 100 ปี?นายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!จำแทบไม่ได้! นักแสดงสาวปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 15 ปี ลุคใหม่ทำคนตะลึงสุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"สถิติหวย ออกเลขท้าย 2 ตัว งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปีมีผลแล้ว! กฎหมายห้ามตีลูกโหนกระแสเดือด! ทนายภูเก็ตถูกจวกยับ ปมอวดหล่อ คั่วหญิง 13 คน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นอกจากไทย มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินหมูเหมือนบ้านเรานายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!สุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"เตือนภัย! ภูเขาไฟฟูจิอาจปะทุครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นอัปเดตแผนอพยพใหม่ลูกชาย 53 เสยหน้าแม่ 73 โมโหนึ่งข้าวเหนียวไม่ได้ดั่งใจ แม่ขอไม่เอาเรื่อง ยังรักลูกเหมือนเดิม ‎"สามีผู้โชคดี! คลิปไวรัลภรรยาสาวสวยใจดี อบอุ่นจนชาวเน็ตอิจฉา"
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง