ตำนานจากเกมส์ดัง Ragnarok
โพสท์โดย NaheeIhere
เนื้อหาตกหล่นหรือผิดเพี้ยนไปจากความจริงก็ขอโทษด้วยครับ
เมดูซ่า (Medusa)
เมดูซ่า เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู และเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอ (จ้องตา) คนผุ้นั้นจะกลายเป็นหิน ที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้น เมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก ซึ่งมีชายหลายคนหมายปอง เมื่อเทพโพไซดอน (Poseidon) เห็นนางก็เกิดต้องการครอบครองเมดูซ่าเป็นของตน จึงใช้กำลังขืนใจเมดูซ่า อาเธน่า (Athena) เห็นดังนั้นจึงใส่ความเมดูซ่าว่าลบหลู่เอเทน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงสาปเมดูซ่าให้มีหน้าตาน่าเกลียดอัปลักษณ์และทำให้ผมอันสวยงามของเมดูซ่าเป็นงู ความโกรธแค้นของเมดูซ่าเมื่อเป็นเช่นนี้เมดูซ่าต้องได้รับความอับอาย โกรธแค้นจึงได้ใช้ความเกลียดชังนั้นมาเป็นพลังในการสาปคนที่มองหน้าเธอให้กลายเป็นหินไป เพื่อตอบแทนสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นเช่นนี้ เมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้ายที่สุดตนนึงในตำนานกรีก
ด๊อปเปิลเกงเกอร์ (Doppelganger) ด๊อปเปิลเกงเกอร์คือด้านมืดของคน ? ไม่ไช่ ด๊อปเปิลเกงเกอร์เป็นภูตชนิดหนึ่งซึ้งไม่มีร่างเป็นของตนเองหรือไม่มีตัวตนที่แท้จริงมันจะครอบงำเหยือไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือเพื่อนซึ่ง Doppelganger จะมีหน้าตาเหมือนทุกประการ (เลียนแบบ) คนรอบกายจะไม่มีทางรู้ใด้เลยว่า คนที่พูดด้วย คือเพื่อนของเขาจริงๆ เมื่อเหยื่อเริ่มรู้ตัว Doppelganger จะปรากฏกายให้เห็น จนเหยื่อหลอน และฆ่าตัวตายตามคำสั่งมันเพราะคิดว่า Doppelganger คือ ตัวเขา และตัวเขาเอง คือ เงา
ไคมีร่า (Chimaera)
ไคมีร่าเป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีส่วนผสมของสัตว์อีกสามชนิด ได้แก่ สิงโต แพะ และงูหรือมังกร โดยมันมีส่วนหัวปกติจนไปถึงอกเป็นสิงโต ส่วนกลางของมันเป็นแพะ และมีส่วนท้ายเป็นงู มีหัวงูอยู่ที่ตรงปลายหางสามารถศัตรูได้ ซึ่งแต่ละหัวของมันนั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง หัวมังกรของมันสามารถพ่นไฟได้ หายใจเป็นเปลวไฟ หางมันเป็นงูพิษร้ายแรง กัดแล้วถึงตายในทันที คิเมร่าเป็นลูกของอสูรกายไทฟอน และอิคิดนา มีพี่น้องหกตัวได้แก่ เซอร์บีรัส ไฮดรา นีเมียน สฟิงซ์ และเลดอน
ไคมีร่าเป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีส่วนผสมของสัตว์อีกสามชนิด ได้แก่ สิงโต แพะ และงูหรือมังกร โดยมันมีส่วนหัวปกติจนไปถึงอกเป็นสิงโต ส่วนกลางของมันเป็นแพะ และมีส่วนท้ายเป็นงู มีหัวงูอยู่ที่ตรงปลายหางสามารถศัตรูได้ ซึ่งแต่ละหัวของมันนั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง หัวมังกรของมันสามารถพ่นไฟได้ หายใจเป็นเปลวไฟ หางมันเป็นงูพิษร้ายแรง กัดแล้วถึงตายในทันที คิเมร่าเป็นลูกของอสูรกายไทฟอน และอิคิดนา มีพี่น้องหกตัวได้แก่ เซอร์บีรัส ไฮดรา นีเมียน สฟิงซ์ และเลดอน
Minorous (มิโนรัส)
กษัตริย์ Minos ใด้ขอพรจากมหาเทพแห่งห้วงสมุทร Poseidon ให้ประทานวัวกระทิงสีขาวสง่างาม ให้แก่ตน เพื่อแสดงถึงอำนาจของตน ว่าสามารถที่จะปกครองแผ่นดินได้ โดย Minos สัญญาว่าจะบูชายัญ กระทิงตัวนี้ แต่เมื่อมันปรากฏตัวขึ้น Minos กลับลุ่มหลงในความสง่างามของกระทิงตัวนี้ และเก็บมันไว้เอง เทพเจ้า Poseidon จึงสาปให้มเหสีของ Minos ตกหลุมรัก วัวกระทิงตัวนั้น และมีลูกออกมาเป็น Minorous ที่มีหัวเป็นกระทิงและ ตัวเป็นคน
Griffon (กริฟฟอน) กริฟฟอนเป็นสัตว์ในเทพนิยาย ร่างกายเป็นครึ่งอินทรีครึ่งสิงโต โดยส่วนหัว ขาคู่หน้าและปีกเป็นอินทรี ส่วนลำตัวและขาคู่หลังเป็นสิงโต และมีหางเป็นงู บางจำพวกก็มีหางของสิงโต ขนบนหลังเป็นสีดำ ขนที่อยู่ข้างหน้าเป็นสีแดง ส่วนขนปีกเป็นสีขาว กริฟฟอนอาศัยอยู่ในถ้ำ ตามภูเขา กริฟฟอนเป็นสัตว์เทพผู้พิทักษ์เหมืองทองคำของดินแดนไฮเปอร์โบเรีย (ดินแดนในตำนานกรีก ซึ่งอยู่ทางขั้วโลกเหนือ มีแสงอาทิตย์และความอุดมสมบูรณ์ตลอดการณ์) กริฟฟอนยังเป็นรูปจำแลงของเทพีเมเนซิส เทพแห่งความพยาบาท ซึ่งทำหน้าที่หมุนวงล้อแห่งโชคชะตา กริฟฟอนเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจบางคนถือว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของความหยิ่งยโส และยังเป็นผู้ลากรถม้าของพระอาทิตย์ (เทพอพอลโล) อีกด้วย ในยุคแรกกริฟฟอนถูกเปรียบเทียบให้เป็นเหมือนกับ ซาตาน ที่คอยล่อลวงวิญญาณของมนุษย์ให้ติดกับ
Mjolnir (มจอร์เนีย)
ค้อนนี้ในตำนาน ragnarok นั้นผู้ที่ถือคือ ทอร์เทพเจ้าแห่งสายฟ้า แต่เดิมทีนี้นคนที่หามาได้นั้นคือโลกิ ซึ่งมีคนแคระเป็นผู้สร้างโดยโลกินั้นได้ใช้ปัญญา ในการหลอกล่อให้คนแคระสร้างเพื่อเป็นของขวัญแด่เทพ โดยอณุภาพของค้อนนี้ชาวแอสการด์ หรือเทพทุกองค์ยกไห้เป็นอาวุธ ทรงอณุภาพที่สุดเท่าที่มีอยู่ ทำให้ทุกคนไม่กล้าหือต่อทวยเทพ รวมถึงพวกยักษ์จาก โจตันไฮมส์
Brisingamen (ไบร์/บริ ซินกาเมน) สร้อยเส้นนี้เป็นของเทพีฟรีย่าผู้ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในบรรดาเทพีทุกองค์สวยกว่าเทพีฟริก่า แถมความเก่งของเทอนั้นเข้าขั้นติดอันดับต้นๆของแอสการด์ด้วย สร้อยไบร์ซินกาเมน นั้น มีที่มาที่ทำให้ ฟรีย่านั้นถึงกลับไม่อยากคิดกลับไปว่าเทอได้มันมาได้ยังไร เพราะมันเจ็บปวดเหลือเกินตอนแรกเทอไม่เคยคิดถึพวกของสวยงามเลยด้วยซ็ำ และตอนแรกที่ได้ยินว่าคนแคระจะทำสร้อยเส้นนึงเพื่อเป็นของขวัญแด่เทพีฟริก้า เทอได้ยินข่าวว่ามันสวยมากเทอจึงแอบออกไปจากแอสการด์เพื่อที่จะดูด้วยตาตัวเองว่ามันสวยแค่ไหน แต่พอเทพีได้เห็นก็ถึงกลับคิดจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้มาซึ่งสร้อยความงามของสร้อยเส้นนี้เปรียบได้เสมือน ดาวนับล้านนำมาแขวนประดับระยิบระยับส่องแสงไว้รอบคอ เทอต้องการมันมากครับ เทอจึงขอคนแคระ แต่คนแคระไม่ยอมไห้ ฟรีย่าจึงบอกไปว่า
ต่อไห้เราต้องทำอะไรก็ตามเรายอมทีำไห้มันซึ่งที่จะทำไห้เราได้มาด้วยสร้อยเส้นนั้น คนแคระจึงคิดครับ คนแคระมีอยู่สี่คน ประชุมกันสักครู่ จึงหันมาบอกฟรีย่าว่า "เราขอร่วมเตียงกะเทพี"ฟรีย่าถึงกกับอึ่งแอบโมโหอยู่ในใจและตอบออกไปว่า"ถ้าเช่นนั้นข้า...ยอม*O*" ฟรีย่าคงคิดว่าเออวะหลับตาทำทำไปก็จบ เวียนเทียนแป๊บเดียวเองจากนั้นฟรีย่าก็ได้มาซึ่งสร้อย *O* พอราชาแห่งเทพโอดินได้ยินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยครับ โกรธที่ฟรีย่าไม่รักษาเกียติ (แอบเสียดายอะสิตัวเองไม่ได้ครอบครอง)แค่คิดก็อิจฉาคนแคระแล้วครับเทพีฟรีย่าสวยแบบไม่อาจจะจินตนาการได้ถึง>0<
ต่อไห้เราต้องทำอะไรก็ตามเรายอมทีำไห้มันซึ่งที่จะทำไห้เราได้มาด้วยสร้อยเส้นนั้น คนแคระจึงคิดครับ คนแคระมีอยู่สี่คน ประชุมกันสักครู่ จึงหันมาบอกฟรีย่าว่า "เราขอร่วมเตียงกะเทพี"ฟรีย่าถึงกกับอึ่งแอบโมโหอยู่ในใจและตอบออกไปว่า"ถ้าเช่นนั้นข้า...ยอม*O*" ฟรีย่าคงคิดว่าเออวะหลับตาทำทำไปก็จบ เวียนเทียนแป๊บเดียวเองจากนั้นฟรีย่าก็ได้มาซึ่งสร้อย *O* พอราชาแห่งเทพโอดินได้ยินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยครับ โกรธที่ฟรีย่าไม่รักษาเกียติ (แอบเสียดายอะสิตัวเองไม่ได้ครอบครอง)แค่คิดก็อิจฉาคนแคระแล้วครับเทพีฟรีย่าสวยแบบไม่อาจจะจินตนาการได้ถึง>0<
Megingjard (เม็กกิ่งจารด์) เข็มขัดเส้นนี้จริงๆเเล้ว มีที่มาและที่ไปน้อยมากครับแต่เป็นเครื่องประดับที่ถือว่ามีความวิเศษแต่ประวัติความเป็นมาในตำนานนั้นไม่ค่อยมี พอพูดได้เพียงแค่เข็มขัดนี้จะมอบพลังให้ผู้ใช้มหาศาลตามตำนานนั้นเป็นของเทพทอร์ เขาบอกกันว่าจริงๆแล้วที่ทำไห้ทอร์ถือค้อนขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงแค่คำอวยพรจากโอดินเท่านั้นแต่มาจากพลังที่ส่งมาจากเข็มขัดนี้ด้วย
Balmung (บัลมัง - บาวมัง - เบอล์มัง) ดาบพลังสายฟ้าของซิกฟรีดตัวเอกในตำนานของชาวเยอรมัน Balmung ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดย Wayland(เวย์แลน) ช่างตีดาบ และ Odin(โอดิน) ซึ่ง Odin ได้นำดาบเล่มนี้ไปปักไว้กับต้น โอ๊กในพระราชวังVolsung(โวลซัง) และ ได้เปล่งวาจาเอาไว้ว่าใครที่สามารถดึงดาบเล่มนี้ขึ้นมาได้ จะถูกดลบันดานให้ชนะในการต่อสู้ เจ้าชายแห่ง Volsung ทั้ง9 พยายามดึงมันขึ้นมา แต่คนที่ดึงขึ้นมาได้กลับเป็นเจ้าชายคนสุดท้อง ชื่อของเขาคือ Sigmund(ซิกมัล) ในการต่อสู้ Odin ได้ทำลายดาบ Balmung ลงไป แต่มันได้ถูกรวมขึ้นมาอีกครั้งโดยผู้กล้าหาญนาม Fafnir(ฟลัฟเนียร์) เครดิตจาก bbs.pramool.com , prontera.in.th ขอบคุณครับ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
68 VOTES (4/5 จาก 17 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้าโรคกลัวความสกปรก (Mysophobia) กลัวเชื้อโรค หวาดระแวงเชื้อโรค ไม่กล้าสัมผัสอะไรปลาทู คุณค่าทางโภชนาการสูง คุณประโยชน์ดี ๆ ไม่แพ้ปลาทะเลอื่น ๆสาววัย 26 เมียมหาเศรษฐี เปิดเผย 'กฎเกณฑ์' ที่สามีกำหนด ทำชาวเน็ตตะลึง!มังคุดคัด 8 ลูก 699 บาท! "พี่เอ ศุภชัย" เจอดราม่า ราคาแรงแซงโค้งHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จอนนี่ โซมาลี Youtuber คนดัง ก่อวีรกรรมป่วน! ชาวเน็ตแห่ #แบนจอนนี่โซมาลีอุ๊งอิ๊งเดินหน้าเอ็มโอยู44!ลั่นไม่เกี่ยวกับ'เกาะกูด'