แฟน Android เฮ! Samsung เปิดตัว Galaxy S3 แล้วมี Siri Clone ให้ใช้ด้วย

ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมายก่อนเปิดตัว ทั้งภาพหลุด, ข้อมูลหลุด ทั้งมีทั้งมั่วบ้างจริงบ้างปะปนกันไป ที่เป็นแบบนั้นก็คงจะเป็นเพราะเป็นอุปกรณ์ Successor ที่หลายๆ คนรอคน เพราะว่าความสำเร็จของ Galaxy S และ Galaxy S II นั้นทำเอาหลายคนอยากจะเห็นเจ้า Galaxy S III กันจนอดใจไว้ไม่ไหว

อย่างที่ทราบกันทาง Samsung ประกาศจัดงานเปิดตัวอุปกรณ์บางอย่างโดยให้นิยามของมันว่า TheNextGalaxy และจะเปิดตัวมันในวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งก็ตรงกับวันนี้ โดยในภาพเองก็อย่างที่เห็นก็มีการเดาไปว่าเครื่องนั้นจะใช้วัสดุเป็นเหล็กและมี 2 สี แต่มันเมื่อวันนี้มันเปิดตัวแล้วเราจะรออะไรกันอยู่ ?

ว้าวกันรึเปล่าครับ ? ผมว่ามีหลายคนอาจจะไม่ก็ได้ แต่มันเอาอารมณ์ของ Galaxy S II มาล้วนๆ ทั้งเห็นแล้วรู้สึกว่าหน้าจอมันใหญ่ เครื่องมีความชัดเจนในเรื่องความโค้ง หน้าจอขนาดใหญ่โตมโหฬาร และทาง Samsung ก็ในนิยามมันว่า “Designed for Humans” ก็จะสื่อว่าออกแบบมาในใช้กับมนุษย์ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน คงเป็นอารมณ์นั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะสมกับการรอคอยรึไม่มาดูกันที่ Spec ก่อนครับ

- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Android 4.0 Ice Cream Sandwich
- Touchwiz Nature UX
- หน้าจอขนาดใหญ่ 4.8 นิ้ว (Gorilla Glass 2) Super AMOLED HD ความละเอียดหน้าจอ 1280x720 พิกเซล
- สัดส่วน 136.6x70.6x8.6 มม. น้ำหนัก 133 กรัม
- CPU Exynos quad-Core 1.4 GHz
- RAM 1GB
- หน่วยความจำภายใน 16/32/64GB ใส่ MicroSD Card ได้
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ Auto Focus และ HDR + LED Flash
- กล้องหน้าความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- รองรับ HSPA ความเร็วสูงสุด 21 Mbps และรองรับเทคโนโลยี LTE (4G)
- Bluetooth 4.0, Wi-Fi
- GPS, GLONASS, RGB Light, Gyroscope, Barometer, NFC
- แบตเตอรี่ขนาด 2,100 mAh

ถือว่าเป็นไปตามคาดสำหรับ Spec ส่วนใหญ่ของตัวเครื่องเรียกว่าข่าวที่ออกมาแทบจะเป็นจริง และเป็นสิ่งที่หลายๆคนคาดการณ์เอาไว้แล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าทาง Samsung ต้องจัดเต็มอยู่แล้วสำหรับ Galaxy S III อย่างไรก็ตามแค่ Spec มันยังไม่ใช่ทั้งหมดของ Galaxy S III แต่ที่ทาง Samsung ต้องการนำเสนอจริงๆก็คือเรื่องของ Feature ที่มีติดมาบนเครื่องมากกว่า งานนี้เรียกว่ามีแทบนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว

- Smart Alert อันนี้ทำหน้าที่คอยเตือนคุณทั้ง Miss call, Message ต่างๆ ความสามารถอันนี้ยังไม่ได้แสดงกันเต็มๆว่ามันดีอย่างไร แต่น่าจะเกี่ยวกับระบบเตือนที่เปิดหน้าจอขึ้นมาเตือนทันทีอะไรทำนองนั้น

- Direct Call อันนี้สมมติว่ากำลังพิมพ์ข้อความให้ผู้นับอยู่แต่เปลี่ยนใจว่าโทรเลยดีกว่าไม่ต้องคิดไรมากแค่เอาโทรศัพท์มาแนบที่หูมันก็โทรออกไปหาคนนั้นทันที

- S Voice ทำหน้าที่ไม่ต่างจากน้อง Siri ของ iOS คือสามารถคุยกับเครื่องสั่งการทำงาน อยากรู้สภาพอากาศที่ไหนก็ถามมันได้มันก็ตอบหมด สั่งเปิดกล้องบราๆ แต่จะฉลาดกว่า Siri รึเปล่าอันนี้ต้องรอไปลองของจริง ส่วนภาษาก็รองรับภาษาหลักๆ ก่อนยังไม่มีภาษาไทยครับ

นอกจากนี้เองยังมี Sensor ในส่วนของการจับความเคลื่อนไหวเข้ามาด้วยเช่นทำท่านี้สื่อถึงการรับสายโทรศัพท์อะไรทำนองนี้ครับ

- Smart Stay เป็นระบบใหม่ที่ฉลาดมากสมชื่อคือมันจะรู้ว่าเราจะต้องการใช้เครื่องรึเปล่า ถ้ามันตรวจได้ว่าใช้มันก็จะไม่ดับหน้าจอให้หงุดหงิด โดยอาศัยกล้องมาเป็นตัวช่วยนั่นเอง โดยมันจะจับหน้าเราว่ามองมันอยู่รึเปล่า มองมันมันก็จะทำงานเปิดหน้าจอของมันไป ไม่ต้องมานั่งตั้ง Screen timeout เหมือนกับรุ่นอื่นๆ

- Social Tag อันนี้เป็นระบบที่จดจำใบหน้าจากรูปเพื่อนๆของเราใน Social Network และจัดการ Tag ให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งไล่ Tag กันแล้ว (แบบนี้หลายคนอาจจะไม่ชอบ มันน่าจะปิดได้อยู่นะครับ) ถ้าเราต้องการส่งทันทีก็ง่ายเพราะมันจะจำใบหน้ามาอิงกับรายชื่อพอเราถ่ายกดสั่งมันก็ส่งเลยอาจจะผ่าน E-Mail หรือ MMS ไม่ต้องนั่งพิมพ์

- S Beam อันนี้ก็ของเล่นที่มีเหมือนกับบน Galaxy Nexus แต่บวกความสามารถของ Wi-Fi Direct เข้าไปด้วย คือใช้ความสามารถของ NFC+Wi-Fi Direct เพื่อส่งส่งข้อมูลเช่น Link เว็บไซต์, รายชื่อ หรือแม้กระทั่งไฟล์

- Zero Shutter lag (เหมือนกับ HTC) สามารถถ่ายภาพได้เร็วมาก สามารถกดปุ่ม Shutter ค้างเพื่อถ่ายภาพได้แบบต่อเนื่อง 20 ภาพ (เลือก Best shot ได้) และทาง Samsung ยังบอกอีกว่าตัวเครื่องใช้เวลาเปิดกล้องแค่ 990ms (ไม่ถึง 1 วินาที) และถ่ายรูปได้ 3.3 รูปต่อวินาทีกันเลยทีเดียว

ส่วน Feature ในส่วนของกล้องอื่นๆก็คือมีทั้ง

- Face Zoom
- ถ่ายวิดีโอ HD จากกล้องหน้าได้
- Face Slide Show
- Group Tag ซึ่งมีหน้าที่จัดลำดับรูปแยกหมวดตามกลุ่ม เช่น งาน, ครอบครัว, เพื่อน
- ถ่ายภาพนิ่งในขณะถ่ายวีดีโอได้ (เหมือนกับ HTC One)
- BIS
- Video stabilization

นอกจากนี้เองทาง Samsung ยังบอกว่าหน้าจอ Super AMOLED 4.8 นิ้วนั้นมีการตอบสนองรวดเร็วมากอยู่ที่ 0.01 ms กันเลยทีเดียว ปกติหน้าจอใหญ่มักทำแบบนี้ยาก แต่น่าเสียดายที่ยังเรียง Pixel แบบ PenTile อยู่นะครับ

- Buddy Photo Share ที่สามารถเลือกแชร์ภาพให้กับเพื่อนๆได้ เป็นโปรแกรมที่อารมณ์คล้ายกับ Instagram อะไรทำนองนั้นถ่ายแล้วอัพโหลดให้เพื่อนดูทันที

- Mirroring ระบบนี้คือสามารถเล่นแสดงผลหน้าจอตัวเครื่องไปยัง TV ได้

- Pop up play สามารถเปิดดูภาพไปได้ในขณะที่เล่นเว็บอยู่ เรียกว่าสามารถทำ 2 สิ่งได้พร้อมกันในเวลาเดียว (ต้องรอดูว่ามันจะดีจริงและใช้งานแบบไหน)

- S Health เป็นส่วนของฟังก์ชันเสริมที่คอยเอาไว้บอกระดับความดัน, ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ช่วยผู้ป่วยได้

ต่อมามีการพูดถึงการออกแบบก็ออกบอกว่า เครื่องบาง 8.6 มม. (หนากว่า S II นะครับ) และบอกว่าที่ออกแบบมาให้เครื่องโค้งเพราะเป็นธรรมชาติมากกว่าเวลาจับ เวลาตั้งบนรถ สำหรับตัวเครื่องมี 2 สีด้วยกันคือสี Marble White และ Pebble Blue ครับ

ระบบการเชื่อมต่อของเครื่อง ที่มีทั้งระบบ Allshare Play เหมือนกับ AppleTV คือการแชร์ภาพไปแสดงบนอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเอาไว้ ซึ่งต้องมีตัวอุปกรณ์ Dongle นั่นเอง นอกจากนี้ Allshare play พิเศษกว่าตรงที่มีความสามารถในการ Remote access คอมพิวเตอร์ด้วย และมีการปล่อย SDK ของ Allshare ให้นักพัฒนาไปพัฒนาเพิ่มเติมได้อีก

นอกจากนี้เองทาง Samsung ยังได้ต่อยอดบุกตลาดองค์กรอย่างเต็มตัว โดยมีพวก Feature ใหม่เพิ่มมาคือ Business Messaging, Enterprise Security Solutions และ Visualization Feature เป็นต้น

ทาง Samsung เองยังได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริมของตัวเครื่องมากมายไม่ว่าจะเป็น Desktop Dock ที่เป็นเหล็กทั้งตัว , อุปกรณ์ต่อพ่วง MHL, Flip Cover, S Pebble, AllShare Cast Dongle และที่เด็ดที่สุดคือ Wireless Charger นั่นเอง

สำหรับตัวเครื่องจะเริ่มขายวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยจะมี 145 ประเทศทั่วโลกที่ได้ขาย ซึ่งจะเป็นรุ่น 3G HSPA+ ก่อน ส่วนรุ่น LTE มาช่วงฤดูร้อนของอเมริกา

สุดท้ายนี้ในงานนี้สำหรับคนที่เข้าร่วมงานทาง Samsung จะบริจาค 100$ ต่อ 1 คนที่มาร่วมงานให้กับทาง WWF เรียกว่าถ้าร่วมงานมากก็ทำบุญมากนั่นเอง มาแนว CSR และก็พูดถึงว่าทางเราเป็นผู้สนับสนน Olympic Games ที่ London นะบราๆๆ

 

เปิดตัวเป็นทางการแล้วครับสำหรับใครที่รอ Samsung Galaxy S3 อยู่ตอนนี้ได้เห็นตัวจริงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งมาพร้อมกัน Android 4.0 จุดเด่นๆ ของ S3 ตัวนี้ก็คือเรื่อง หน้าจอ 4.8 นิ้ว(มันใหญ่มากเทียบกับ iPhone แต่ 3.5 นิ้ว) ขนาดแบตเตอรีขนาดกว่า 2100 mAh กล้องหน้า 2 ล้าน กล้องหลัง 8 ล้าน, Ram 1GB

 

มาดูตางรางเปรียบเทียบให็เห็นภาพกันครับ 3 รุ่นคือ Galaxy S3, iPhone 4S และ Lumia 900 ว่าแต่ละเจ้ามีสเปคภายในอย่างไรบ้าง

 

Credit : http://www.iphonemod.net และ http://technology.impaqmsn.com