หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โขน 1

โพสท์โดย ลูกชายนายอำเภอ

 

เศียรโขนต่างๆ

เครดิตแบบเต็มๆ : http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/11/A7211149/A7211149.html

มาดูฝ่ายยักษ์กันบ้าง (อสูรแห่งกรุงลงกา)

 

 



ทศกัณฐ์-พญายักษ์

ลัษณะหัวโขน ทำเป็นหน้ายักษ์ 3 ชั้น คือ ชั้นแรกมีหน้าปกติ 1 หน้า และมีหน้าเล็ก ๆ เรียงกัน 3 หน้า ตรงท้ายทอย ชั้นที่ 2 ทำเป็นหน้าเล็ก ๆ 4 หน้าเรียงสีด้าน ชั้นที่ 3 ทำเป็นหน้าพรหมด้านหน้า หน้ายักษ์ด้านหลัง ปากแสยะตาโพลง สวมมงกุฎยอดชัย หน้าทศกัณฐ์ มี 3 สี คือ ปกติใช้หน้าสีเขียว ตอนนั้งเมืองใช้หน้าสีทอง และมีทำหน้าสีน้ำรักซึ่งยังไม่มีปรากฎใช้ในการแสดง
นอกจากนี้ยังมีหัวโขนทศกัณฐ์แปลงเป็นพระอินทร์ในการรบครั้งสุดท้าย ลักษณะทำเป็นหน้าพระ 3 ชั้น สีเขียว มีเขี้ยว ซึ่งเป็นหัวโขนเพียงหัวเดียวในเมืองไทยที่ประดิษฐ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 และยังมีหัวโขนหน้าทศกัณฐ์ที่ทำด้วยทองแดงปิดทองประดับกระจกอีก 1 หัว
ทศกัณฐ์มีกายสีเขียว 10 พักตร์ 20 กร เป็นโอรสองค์ที่ 1 ของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎานับเป็นกษัตริย์กรุงลงกาองค์ที่ 3 มีมเหสีคือ นางมณโฑ กับนางกาลอัคคี และนางสนมอีกจำนวนมาก มีโอรส 1,015 มีธิดา 2 องค์ อุปนิสัยไม่ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม หยาบช้า สามารถถอดจิตออกจากตนได้ทำให้ประพฤติตนไม่ถูกต้องไปลักพานางสีดามเหสีของพระรามมาจึงเป็นต้นเหตุแห่งศึกกรุงลงกา ทำให้พี่น้องเผ่าพงศ์ยักษ์ล้มตายเป็นอันมาก ในที่สุดก็ตายด้วยศรของพระราม โดยหนุมานขโมยกล่องดวงใจไปได้

 
 

 

 

กุเปรัน-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีม่วงอ่อน ปากขบ ตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎกระหนกกายสีม่วงอ่อน 1 พักตร์ 2 กร โอรสท้าวลัสเตียนกับนางศรีสุนันทา เป็นพี่ชายต่างมารดากับทศกัณฐ์ ท้าวลัสเตียนให้ครอบครองเมืองกาลจักร และมองบุษบกแก้วของท้าวสหมลิวัน ซึ่งให้ไว้แก่ท้าวจัตุรพักตร์เป็นมรดก ทศกัณฐ์ต้องการแย่งชิงบุษบกไปครอบครอง กุเปรันหนีไปหาพระอิศวร ซึ่งกำลังเข้าฌานบนหลังช้าง พระอิศวรกริ้วถอดงาช้างขว้างไปปักอกทศกัณฐ์ และสาปให้ติดอยู่จนกระทั่งตาย

 

 

 

ทัพนาสูรหรือเทพาสูร-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีหงดิน ปากขบตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎสามกลีบกายสีหงดิน (อสูรพงษ์ฉบับสมุดไทยว่าสีหงเสน) มี 1 พักตร์ 2 กรเป็นโอรสท้าวลัสเตียนกับนางจิตรมาลี  พี่ชายจต่างมารดาของทศกัณฐ์ครองเมืองจักรวาล ทศกัณฐ์เชิญไปช่วยรบกับพระราม

 

 กุมภกรรณ-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน ทำเป็นหน้ายักษ์ 4 หน้า เพื่อให้ต่างกับเสนายักษา คือ เป็นหน้าปกติ 1 หน้า และเป็นหน้าเล็ก ๆ 3 หน้า เรียงกันอยู่ตรงท้ายทอย ปากแสยะตาโพลง หัวโล้น สวมกะบังหน้าไม่มีมงกุฎ หน้ามี 2 สี คือ หน้าสีเขียว กับหน้าสีทอง
กายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร เป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับทศกัณฐ์ ได้เป็นอุปราชเมืองลงกามเหสีชื่อนางจันทวดี สนมเอกชื่อนางคันธมาลี มีอุปนิสัยตั้งมั่นอยู่ในสัจธรรม แต่จำใจช่วยรบกับพระรามเพื่อสนองคุณทศกัณฐ์ มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธวิเศษ รบกับพระรามหลายครั้งและในที่สุดตายด้วยศรของพระราม

 

 พิเภก-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักาสีเขียว ปากแสยะตาจระเข้ สวมมงกุฎน้าเต้ากลมกายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร เป็นน้องร่วมบิดามารดากับทศกัณฐ์ ประวัติกล่าวว่า ชาติก่อนเป็นเวสสุญาณเทพบุตรมาจุติ มีความรอบรู้คัมภีร์ไตรเภทและโหราศาสตคร์ ด้วยความประสงค์ของพระเป็นเจ้าเพื่อให้เป็นไส้ศึก รู้เล่ห์กลของพวกยักษ์ เปิดเผยให้แก่พระราม ทศกัณฐ์ขับออกจากเมือง เพราะแนะนำให้ส่งนางสีดาคืนจึงสมัครไปอยู่กับพระรามด้วยตรวจดวงชะตาตนเองว่าพระรามจะเป็นผู้อุปถัมภ์มีบทบาทและปฎิบัติหน้าที่อันเป็นประโยชน์ในการสงคราม เช่น การหาฤกษ์ยาม การทำนายฝัน บอกวิธีการแก้กลอุบายการใช้อาวุธและความลับต่าง ๆ เพื่อชัยชนะ เสร็จศึกลงกาได้เป็นเจ้าลงการ มีนามว่าท้าวทศคิริวงศ์ ต่อมาเกิดกบฎในกรุงลงกา ถูกจองจำได้รับความช่วยเหลือจากพระรามและหนุมาน

 

 ตรีเศียร-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว ๓ หน้า ทำเป็นหน้าปกติ ๑ หน้า หน้าเล็กอยู่ตรงท้ายทอย ๒ หน้า ปากขบตาจระเข้ บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎชัยหรือมงกุฎยอดน้ำเต้า ๓ ยอดกายสีขาว ๓ พักตร์ ๖ กร เป็นน้องชายร่วมครรภ์มารดาของทศกัณฐ์ครองเมืองมัชวารี   รบกับพระรามด้วยความโกรธแค้นที่พญาขร พญาทูษณ์พี่ชายถูกพระรามฆ่าตายและตนเองก็ตายด้วยศรพระราม

 

 อินทรชิต หรือ รณพักตร์-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ปากขบ ตาโพลงเขี้ยวคุด (ดอกมะลิ) สวมชฎามนุษย์หรือชฎายอดกาบไผ่เดินหนแบบพระอินทร์ จอนหูมี ๒ แบบ คือจอนหูแบบมนุษย์และจอนหูแบบยักษ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าสีทองอีกแบบหนึ่ง และในตอนเป็นเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก(ชฎาเด็กหรือหัวกุมารไว้จุก)กายสีเขียว ๑ พักตร์ ๒ กร เป็นโอรสทศกัณฐ์กับนางมณโฑ มีมเหสีชื่อนางสุวรรณกันยุมา มีบุตรชื่อยามลิวันและกันยุเวก อินทรชิตเดิมชื่อรณพักตร์เมื่อรบชนะพระอินทร์ทศกัณฐ์จึงตั้งชื่อให้ว่าอินทรชิต ได้รับพระจากพระเป็นเจ้าสามองค์คือ พระอิศวร พระพรหมและพระนารายณ์มีอิทธิฤิทธิ์มากรบกับพระรามหลายครั้งหลายหน ตายด้วยศรพระลักษณ์ที่เนินเขาจักรวาลตอนตายองคตต้องนำพานจากพระพรหมธาดามารองนับเศียรอินทรชิต เพื่อมิให้ตกถึงพื้นเพราะจะเกิดไฟไหม้ทั่วทั้งจักรวาล

 

 

แสงอาทิตย์-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีแดงชาด ปากขบ ตาจระเข้ บางแห่งว่าปากแสยะ ตาโพลง สวมมงกุฎกระหนกกายสีแดงชาด มี ๑ พักตร์ ๒กร เป็นโอรสองค์ที่ ๒ ของพญาขรกับนางรัชฎาสูร อนุชามังกรกัณฐ์ มีอาวุธเป็นแว่นวิเศษ ซึ่งฉายส่องไปที่ไหนจะบังเกิดไฟไหม้ ฝากไว้ที่ท้าวธาดาพรหมแสงอาทิตย์   ตายด้วยศรพระรามในสนามรบ พร้อมกับพี่เลี้ยงชื่อจิตรไพรี

 

 ทศพิน (ไพนาสุริยวงศ์)-ยักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ปากขบตาโพลงเขี้ยวคุด(ดอกมะลิ) สวมชฎามนุษย์หรือชฎายอดกาบไผ่เดินหนแบบอินทรชิต จอนหูแบบมนุษย์และในตอนเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก (ชฎาเด็ก หรือ หัวกุมารไว้จุก)กายสีเขียว ๑ พักตร์ ๒ กร เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ   เมื่อพิเภกครองกรุงลงกาหลังจากทศกัณฐ์ตาย ได้นางมณโฑเป็นมเหสี ขณะนั้นนางมณโฑตั้งครรภ์อยู่แล้วเมื่อคลอดพิเภกเข้าใจว่าเป็นลูกของตน เมื่อไพนาสุริยวงศ์เติบโตขึ้น พี่เลี้ยงชื่อวรณีสูรเป็นผู้บอกความจริงและยุให้เป็นกบฏเกิดศึกกรุงลงกาอีกตรั้ง พระพรตเป็นผู้มาปราบกบฏและสั่งประหารไพนาสุริยวงศ์พร้อมกับพี่เลี้ยง

 

 อสูรพันธมิตรทศกัณฑ์

 

 



สัทธาสูร-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีหงเสน ปากขบตาจระเข้ บางแห่งว่าตาโพลง สวมมงกุฎจีบ
กายสีหงเสน มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นเจ้าเมืองอัสดงค์ มีฤทธิ์เรียกอาวุธมาใช้ในกองทัพได้ หนุมานจึงแปลงกายเป็นลิงป่าขอให้สัทธาสูร สำแดงฤทธิ์ ให้องคตและพลวานรซ่อนตัวในก้อนเมฆ เมื่อล่อหลอกให้สัทธาสูรเรียกอาวุธ องคตและพลวานรเหาะมารับอาวุธเก็บไว้ จนกระทั่งหนุมานเรียกจึงทิ้งอาวุธลงมา ในที่สุดหนุมานก็ฆ่าสัทธาสูรและตัดเศียรไปถวายพระรามได้

 

 มูลพลัม-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ทำเป็น 4 หน้า โดยมีหน้าใหญ่ 1 หน้า หน้าเล็ก ๆ อยู่ข้างหลังตรงท้ายทอย 3 หน้า หัวโล้น ปากขบตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมกะบังหน้า
กายสีเขียวมี 1 พักตร์ 2 กร บางตำราว่า 4 หน้า เป็นอุปราชเมืองปางตาล น้องชายของสหัสสเดชะ เป็นสัมพันธมิตรแห่งทศกัณฐ์อีกตนหนึ่งในจำนวน 7 ตน ยกทัพไปช่วยศึกลงกาตามคำเชิญของทศกัณฐ์พร้อมกับ สหัสสเดชะ มูลพลัมตายในที่รบด้วยศรพระลักษณ์

 

 

สหัสสเดชะ(สหัสเดชะ)-พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว ทำเป็นหน้า 4 ชั้น หรือ 5 ชั้น ชั้นแรกมีหน้าปกติ 1 หน้า และหน้าเล็ก ๆ 3 หน้าเรียงอยู่ด้านหลังตรงท้ายทอย ชั้น 2 3 และ 4 ทำเป็นหน้าเล็ก 4 หน้า เรียงลดหลั่นกันไป ชั้นบนสุดทำเป็น 2 แบบ คือเป็นหน้ายักษ์ และแบบหน้าพรหมคล้ายกับหัวโขนทศกัณฐ์ ปากแสยะตาโพลง สวมมงกุฎชัย
กายสีขาว มี 1,000 พักตร์ 2,000 กร ครองกรุงปางตาล เป็นพี่ชายของมูลพลัม มีตะบองวิศษชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น ได้พรจากพระพรหมเมื่อรบกับผู้ใดให้พลในกองทัพนั้นแตกกระจายไป เมื่อทศกัณฐ์ขอร้องให้มูลพลัมน้องชายไปช่วยศึกกรุงลงกา สหัสสเดชะได้ไปรบด้วยเมื่อมูลพลัมตายจึงได้รบแก้แค้น ตายโดยหนุมานจับตะบองวิศษและมัดด้วยหางตัดเศียรขาดกระเด็น

 

 ไวยตาล-พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีครามอ่อน บางตำราว่าสีมอคราม ปากขบตาจระเข้  สวมมงกุฎหระหนก  กายสีครามอ่อน บางตำราว่าสีมอคราม มี 1 พักตร์ 2 กรครองกรุงกุรุราษฎร์ในบาดาลเป็นสหายของท้าวจักรวรรดิแห่งกรุงมลิวัน   ท้าวจักรวรรดิขอความช่วยเหลือให้มาช่วยรบศึกกรุงมลิวัน จึงได้ทำพิธิปลุกกระบองตาลวิเศษที่บาดาลเพื่อให้มีฤทธิ์ชี้ต้นตายชี้ปลายเป็นกายจะเป็นเพชร ใครฆ่าไม่ตาย พระพรตให้นิลพัทและอสุรพัตไปทำลายพิธี สำเร็จแล้วดักรออยู่จนกระทั่งท้าวไวยตาลยกทัพมา เกิดการสู้รบกัน ท้าวไวยตาลตาย

 

 ไพจิตราสูร-พญายักษ์

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว บางตำราว่าสีเขียว ปากแสยะตาโพลง บางแห่งว่าตาจระเข้ สวมมงกุฎน้ำเต้ากลม กายสีขาว บางตำราว่าสีเขียว มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นเจ้าพิภพอสูร อยู่ระหว่างเขาตรีกูฎ ด้านใต้เขาพระสุเมรุ สัมพันธมิตรกับทศกัณฐ์

 

 ตรีบูรัม-พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีดำหมึก ปากแสยะตาโพลง บางแห่งว่าปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎน้ำเต้ากลมรูปทรงปลี
กายสีดำหมึก มี 1 พักตร์ 2 กร ครองกรุงโสพัส บำเพ็ญเพียรเพื่อขอพระอิศวรมิให้ใครฆ่าได้ แม้แต่พระนารายณ์ เมื่อได้พรแล้วกลับกระทำหยาบช้าเบียดเบียนโลกเดือดร้อนไปทั่วทั้งเทวดา ฤาษี มนุษย์ พระอิศวรจึงต้องปราบด้วยตาไฟ เผาผลาญตรีบูรัมตาย

 

 อนุราช หรืออุณาราช(กกกะหนาก)-พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีจันทร์อ่อน ปากแสยะตาจระเข้ สวมมงกุฎกระหนก  กายสีจันทร์อ่อน บางตำราว่าสีนวลจันทร์มี 1 พักตร์ 2 กร เดิมเป็นเทพบุตร ต้องโทษเพราะขาดการเข้าเฝ้าพระอิศวรจึงสาปให้ไปเกิดเป็นพญารากษสครองกรุงมหาสิงขรเมื่อพระนารายณ์อวตารมาปราบอธรรมให้เอาต้นกกแผงไปตรึงไว้กับหิน ทรมานอยู่จนถึงแสนโกฏ์ปี จึงถูกพระรามแผลงศรต้นกกดังคำสาปเมื่อครั้งที่พระรามเดินดงครั้งหลัง

 

 ตรีปักกัน-รากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎกระหนก กายสีเขียวแก่ มี 1 หน้า 2 มือเป็นโอรสท้าวกุเวรนุราชกับนางเกศินี ในบทละครเรื่องรามเกียรติ์กล่าวถึงตอนออกประพาสป่า พบพระราม พระลักษณ์และทหารวานร สั่งให้ทหารจังตัว เกิดการสู้รบกันตายด้วยศรพระลักษณ์

 

 

อสูรวายุภักษ์-พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากแสยะตาจระเข้ มีจะงอยปากเหมือนนกอินทรี สวมมงกุฎน้ำเต้ามีกาบรับบัวแวง
กายสีเขียวแก่ มี 1 หน้า 2 มือ มีกายและหน้าเป็นอสูรเท้าและหางเพียงท่อนเองเหมือนนกอินทรี ปีกแขนทั้งสองมีครีบดังพญาครุฑ บิดาเป็นยักษ์ มารดาเป็นนก อสูรวายุภัษ์ครองเมืองมหาวิเชียรธานี บินมาพบพระราม พระลักษณ์ เมื่อเดินดงครั้งหลัง จึงโฉบไปเพื่อกินเป็นอาหาร สุครีพ หนุมาน และทหารวานรพากันไล่ตาม ช่วยพระราม พระลักษณ์ได้ ฆ่าวายุภักษ์เสีย

 

 

ท้าวคนธรรพ์นุราช -พญารากษส

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากขบตาจระเข้ สวมชฎาโพกอย่างวิชาธร หรือชฦาลอมพอก หรือมงกุฎกาบไผ่ บางตำราว่าไม่มีมงกุฎ  กายสีเขียวแก่ มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นกษัตริย์เมืองดิศศรีสิน มีมเหสีชื่อนางนันทา และมีโอรสชื่อว่า วิรุณพัท คนธรรพ์นุราชมีอุปนิสัยอันธพาลหยาบช้า วันหนึ่งชวนวิรุณพัทไปประพาสป่า พบฤาษีบำเพ็ญตบะบำเพ็ญเพียรแก่กล้า เป็นอาจารย์เหล่ามนุษย์เทวา จึงทำลายล้างพิธีและสถานที่บำเพ็ญเพียร หลังจากนั้นเกิดความคิดว่าควรรุกรานพระนครใหญ่น้อยทั้งปวงให้อยี่ในอำนาจ จึงยกทัพไปตีได้เมืองไกยเกษ ท้ายไกยเกษหนีกองทัพท้าวคนธรรพ์นุราชเข้าเมืองได้ บรรดาเสนาเมืองไกยเกษจึงสร้างกลอุบายให้เที่ยวชมสวนเพื่อถ่วงเวลาให้กองทัพ อโยธยายกมาช่วย พระรามสั่งให้พระพรต พระสัตรุดพร้อมด้วยพระมงกุฎและพระลบยกทัพไป เกิดการสู้รบกัน วิรุณพัทตายด้วยศรพระลบ ท้าวคนธรรพ์นุราชตายด้วยศรพระมงกุฎ

 

  

 

ส่วนนี้ดาราเกาหลี ที่คนไทยเทิดทูนกัน ตามตำนานกล่าวว่าได้ให้กำเนิดพ่อแม่ พวกบ้าเห่อเกาหลี มีบุญคุณต่อแผ่นดิน ช่วยรบทัพจับศึกมานักต่อนัก  ในวันเพ็ญเดือนยี่จะมีการทำพิธี 7 วัน 7 คืน คืนสุดท้ายจะฉลองด้วยการกินกิมจิ และเต้นเพลงทั้งหมด ทุกอัลบั้มจนเช้า ถือเป็นวันสำคัญของชาติไทย ใน พ.ศ. นี้ ใครมีไว้ไม่เชย ไม่เอ้าท์  

 

 โดย ลูกชายนายอำเภอ

 

โขน : https://board.postjung.com/576256.html
โขน 1 : https://board.postjung.com/576255.html
โขน 2 : https://board.postjung.com/576251.html

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ถูกไล่ออกจากงาน Met Gala เหตุเพราะมีเสน่ห์มากเกินไปวัดจุฬาภรณ์วนาราม วัดน่าเที่ยว ในนครนายก กินทุเรียนซักประมาณไหน ถึงกำลังดี ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป20 แคปชั่นวันพืชมงคล กวนๆ ฮาๆ เอาไว้โพสต์ลงรูปน่ารักๆ ในวันหยุดเมื่อผู้ชายซื้อดอกไม้ให้..เขากำลังคิดอะไรอยู่ชายเก็บเหรียญใส่ขวดน้ำดื่ม 3 ปี ผ่านไปแสนภูมิใจ ดาวน์บ้านได้ทั้งหลัง!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ท่านเรวัช" กลับลำ หลังดูคลิป "โน้ส อุดม" จนจบ ลั่น! ไม่ได้ผิดกฏหมาย"เอ๋ ปารีณา" เดือด เตรียมเดินหน้าฟ้อง Netflix ลั่น ขอให้มันจบที่ศาลเรื่องราวสุดแปลก 'บันไดที่เคลื่อนย้ายไม่ได้' แห่งกรุงเยรูซาเล็ม"นิกกี้ ณฉัตร" โผล่ยอมรับ ปมปริศนาดาราหนุ่มไม่มูฟออนแต่ควงสาวเที่ยว ตปท.ฉ่ำ "ก้อย" โผล่เมนต์
ตั้งกระทู้ใหม่