โขน 1
เศียรโขนต่างๆ
เครดิตแบบเต็มๆ : http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/11/A7211149/A7211149.html
มาดูฝ่ายยักษ์กันบ้าง (อสูรแห่งกรุงลงกา)
ทศกัณฐ์-พญายักษ์
ลัษณะหัวโขน ทำเป็นหน้ายักษ์ 3 ชั้น คือ ชั้นแรกมีหน้าปกติ 1 หน้า และมีหน้าเล็ก ๆ เรียงกัน 3 หน้า ตรงท้ายทอย ชั้นที่ 2 ทำเป็นหน้าเล็ก ๆ 4 หน้าเรียงสีด้าน ชั้นที่ 3 ทำเป็นหน้าพรหมด้านหน้า หน้ายักษ์ด้านหลัง ปากแสยะตาโพลง สวมมงกุฎยอดชัย หน้าทศกัณฐ์ มี 3 สี คือ ปกติใช้หน้าสีเขียว ตอนนั้งเมืองใช้หน้าสีทอง และมีทำหน้าสีน้ำรักซึ่งยังไม่มีปรากฎใช้ในการแสดง
นอกจากนี้ยังมีหัวโขนทศกัณฐ์แปลงเป็นพระอินทร์ในการรบครั้งสุดท้าย ลักษณะทำเป็นหน้าพระ 3 ชั้น สีเขียว มีเขี้ยว ซึ่งเป็นหัวโขนเพียงหัวเดียวในเมืองไทยที่ประดิษฐ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 และยังมีหัวโขนหน้าทศกัณฐ์ที่ทำด้วยทองแดงปิดทองประดับกระจกอีก 1 หัว
ทศกัณฐ์มีกายสีเขียว 10 พักตร์ 20 กร เป็นโอรสองค์ที่ 1 ของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎานับเป็นกษัตริย์กรุงลงกาองค์ที่ 3 มีมเหสีคือ นางมณโฑ กับนางกาลอัคคี และนางสนมอีกจำนวนมาก มีโอรส 1,015 มีธิดา 2 องค์ อุปนิสัยไม่ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม หยาบช้า สามารถถอดจิตออกจากตนได้ทำให้ประพฤติตนไม่ถูกต้องไปลักพานางสีดามเหสีของพระรามมาจึงเป็นต้นเหตุแห่งศึกกรุงลงกา ทำให้พี่น้องเผ่าพงศ์ยักษ์ล้มตายเป็นอันมาก ในที่สุดก็ตายด้วยศรของพระราม โดยหนุมานขโมยกล่องดวงใจไปได้
|
|
||
|
|
|||
กุเปรัน-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีม่วงอ่อน ปากขบ ตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎกระหนกกายสีม่วงอ่อน 1 พักตร์ 2 กร โอรสท้าวลัสเตียนกับนางศรีสุนันทา เป็นพี่ชายต่างมารดากับทศกัณฐ์ ท้าวลัสเตียนให้ครอบครองเมืองกาลจักร และมองบุษบกแก้วของท้าวสหมลิวัน ซึ่งให้ไว้แก่ท้าวจัตุรพักตร์เป็นมรดก ทศกัณฐ์ต้องการแย่งชิงบุษบกไปครอบครอง กุเปรันหนีไปหาพระอิศวร ซึ่งกำลังเข้าฌานบนหลังช้าง พระอิศวรกริ้วถอดงาช้างขว้างไปปักอกทศกัณฐ์ และสาปให้ติดอยู่จนกระทั่งตาย
|
ทัพนาสูรหรือเทพาสูร-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีหงดิน ปากขบตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎสามกลีบกายสีหงดิน (อสูรพงษ์ฉบับสมุดไทยว่าสีหงเสน) มี 1 พักตร์ 2 กรเป็นโอรสท้าวลัสเตียนกับนางจิตรมาลี พี่ชายจต่างมารดาของทศกัณฐ์ครองเมืองจักรวาล ทศกัณฐ์เชิญไปช่วยรบกับพระราม
|
กุมภกรรณ-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน ทำเป็นหน้ายักษ์ 4 หน้า เพื่อให้ต่างกับเสนายักษา คือ เป็นหน้าปกติ 1 หน้า และเป็นหน้าเล็ก ๆ 3 หน้า เรียงกันอยู่ตรงท้ายทอย ปากแสยะตาโพลง หัวโล้น สวมกะบังหน้าไม่มีมงกุฎ หน้ามี 2 สี คือ หน้าสีเขียว กับหน้าสีทอง
กายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร เป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับทศกัณฐ์ ได้เป็นอุปราชเมืองลงกามเหสีชื่อนางจันทวดี สนมเอกชื่อนางคันธมาลี มีอุปนิสัยตั้งมั่นอยู่ในสัจธรรม แต่จำใจช่วยรบกับพระรามเพื่อสนองคุณทศกัณฐ์ มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธวิเศษ รบกับพระรามหลายครั้งและในที่สุดตายด้วยศรของพระราม
|
พิเภก-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักาสีเขียว ปากแสยะตาจระเข้ สวมมงกุฎน้าเต้ากลมกายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร เป็นน้องร่วมบิดามารดากับทศกัณฐ์ ประวัติกล่าวว่า ชาติก่อนเป็นเวสสุญาณเทพบุตรมาจุติ มีความรอบรู้คัมภีร์ไตรเภทและโหราศาสตคร์ ด้วยความประสงค์ของพระเป็นเจ้าเพื่อให้เป็นไส้ศึก รู้เล่ห์กลของพวกยักษ์ เปิดเผยให้แก่พระราม ทศกัณฐ์ขับออกจากเมือง เพราะแนะนำให้ส่งนางสีดาคืนจึงสมัครไปอยู่กับพระรามด้วยตรวจดวงชะตาตนเองว่าพระรามจะเป็นผู้อุปถัมภ์มีบทบาทและปฎิบัติหน้าที่อันเป็นประโยชน์ในการสงคราม เช่น การหาฤกษ์ยาม การทำนายฝัน บอกวิธีการแก้กลอุบายการใช้อาวุธและความลับต่าง ๆ เพื่อชัยชนะ เสร็จศึกลงกาได้เป็นเจ้าลงการ มีนามว่าท้าวทศคิริวงศ์ ต่อมาเกิดกบฎในกรุงลงกา ถูกจองจำได้รับความช่วยเหลือจากพระรามและหนุมาน
|
ตรีเศียร-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว ๓ หน้า ทำเป็นหน้าปกติ ๑ หน้า หน้าเล็กอยู่ตรงท้ายทอย ๒ หน้า ปากขบตาจระเข้ บางแห่งว่าปากแสยะ สวมมงกุฎชัยหรือมงกุฎยอดน้ำเต้า ๓ ยอดกายสีขาว ๓ พักตร์ ๖ กร เป็นน้องชายร่วมครรภ์มารดาของทศกัณฐ์ครองเมืองมัชวารี รบกับพระรามด้วยความโกรธแค้นที่พญาขร พญาทูษณ์พี่ชายถูกพระรามฆ่าตายและตนเองก็ตายด้วยศรพระราม
|
อินทรชิต หรือ รณพักตร์-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ปากขบ ตาโพลงเขี้ยวคุด (ดอกมะลิ) สวมชฎามนุษย์หรือชฎายอดกาบไผ่เดินหนแบบพระอินทร์ จอนหูมี ๒ แบบ คือจอนหูแบบมนุษย์และจอนหูแบบยักษ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าสีทองอีกแบบหนึ่ง และในตอนเป็นเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก(ชฎาเด็กหรือหัวกุมารไว้จุก)กายสีเขียว ๑ พักตร์ ๒ กร เป็นโอรสทศกัณฐ์กับนางมณโฑ มีมเหสีชื่อนางสุวรรณกันยุมา มีบุตรชื่อยามลิวันและกันยุเวก อินทรชิตเดิมชื่อรณพักตร์เมื่อรบชนะพระอินทร์ทศกัณฐ์จึงตั้งชื่อให้ว่าอินทรชิต ได้รับพระจากพระเป็นเจ้าสามองค์คือ พระอิศวร พระพรหมและพระนารายณ์มีอิทธิฤิทธิ์มากรบกับพระรามหลายครั้งหลายหน ตายด้วยศรพระลักษณ์ที่เนินเขาจักรวาลตอนตายองคตต้องนำพานจากพระพรหมธาดามารองนับเศียรอินทรชิต เพื่อมิให้ตกถึงพื้นเพราะจะเกิดไฟไหม้ทั่วทั้งจักรวาล
|
แสงอาทิตย์-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีแดงชาด ปากขบ ตาจระเข้ บางแห่งว่าปากแสยะ ตาโพลง สวมมงกุฎกระหนกกายสีแดงชาด มี ๑ พักตร์ ๒กร เป็นโอรสองค์ที่ ๒ ของพญาขรกับนางรัชฎาสูร อนุชามังกรกัณฐ์ มีอาวุธเป็นแว่นวิเศษ ซึ่งฉายส่องไปที่ไหนจะบังเกิดไฟไหม้ ฝากไว้ที่ท้าวธาดาพรหมแสงอาทิตย์ ตายด้วยศรพระรามในสนามรบ พร้อมกับพี่เลี้ยงชื่อจิตรไพรี
|
ทศพิน (ไพนาสุริยวงศ์)-ยักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ปากขบตาโพลงเขี้ยวคุด(ดอกมะลิ) สวมชฎามนุษย์หรือชฎายอดกาบไผ่เดินหนแบบอินทรชิต จอนหูแบบมนุษย์และในตอนเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก (ชฎาเด็ก หรือ หัวกุมารไว้จุก)กายสีเขียว ๑ พักตร์ ๒ กร เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เมื่อพิเภกครองกรุงลงกาหลังจากทศกัณฐ์ตาย ได้นางมณโฑเป็นมเหสี ขณะนั้นนางมณโฑตั้งครรภ์อยู่แล้วเมื่อคลอดพิเภกเข้าใจว่าเป็นลูกของตน เมื่อไพนาสุริยวงศ์เติบโตขึ้น พี่เลี้ยงชื่อวรณีสูรเป็นผู้บอกความจริงและยุให้เป็นกบฏเกิดศึกกรุงลงกาอีกตรั้ง พระพรตเป็นผู้มาปราบกบฏและสั่งประหารไพนาสุริยวงศ์พร้อมกับพี่เลี้ยง
|
อสูรพันธมิตรทศกัณฑ์
สัทธาสูร-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีหงเสน ปากขบตาจระเข้ บางแห่งว่าตาโพลง สวมมงกุฎจีบ
กายสีหงเสน มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นเจ้าเมืองอัสดงค์ มีฤทธิ์เรียกอาวุธมาใช้ในกองทัพได้ หนุมานจึงแปลงกายเป็นลิงป่าขอให้สัทธาสูร สำแดงฤทธิ์ ให้องคตและพลวานรซ่อนตัวในก้อนเมฆ เมื่อล่อหลอกให้สัทธาสูรเรียกอาวุธ องคตและพลวานรเหาะมารับอาวุธเก็บไว้ จนกระทั่งหนุมานเรียกจึงทิ้งอาวุธลงมา ในที่สุดหนุมานก็ฆ่าสัทธาสูรและตัดเศียรไปถวายพระรามได้
|
มูลพลัม-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว ทำเป็น 4 หน้า โดยมีหน้าใหญ่ 1 หน้า หน้าเล็ก ๆ อยู่ข้างหลังตรงท้ายทอย 3 หน้า หัวโล้น ปากขบตาโพลง บางแห่งว่าปากแสยะ สวมกะบังหน้า
กายสีเขียวมี 1 พักตร์ 2 กร บางตำราว่า 4 หน้า เป็นอุปราชเมืองปางตาล น้องชายของสหัสสเดชะ เป็นสัมพันธมิตรแห่งทศกัณฐ์อีกตนหนึ่งในจำนวน 7 ตน ยกทัพไปช่วยศึกลงกาตามคำเชิญของทศกัณฐ์พร้อมกับ สหัสสเดชะ มูลพลัมตายในที่รบด้วยศรพระลักษณ์
|
สหัสสเดชะ(สหัสเดชะ)-พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว ทำเป็นหน้า 4 ชั้น หรือ 5 ชั้น ชั้นแรกมีหน้าปกติ 1 หน้า และหน้าเล็ก ๆ 3 หน้าเรียงอยู่ด้านหลังตรงท้ายทอย ชั้น 2 3 และ 4 ทำเป็นหน้าเล็ก 4 หน้า เรียงลดหลั่นกันไป ชั้นบนสุดทำเป็น 2 แบบ คือเป็นหน้ายักษ์ และแบบหน้าพรหมคล้ายกับหัวโขนทศกัณฐ์ ปากแสยะตาโพลง สวมมงกุฎชัย
กายสีขาว มี 1,000 พักตร์ 2,000 กร ครองกรุงปางตาล เป็นพี่ชายของมูลพลัม มีตะบองวิศษชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น ได้พรจากพระพรหมเมื่อรบกับผู้ใดให้พลในกองทัพนั้นแตกกระจายไป เมื่อทศกัณฐ์ขอร้องให้มูลพลัมน้องชายไปช่วยศึกกรุงลงกา สหัสสเดชะได้ไปรบด้วยเมื่อมูลพลัมตายจึงได้รบแก้แค้น ตายโดยหนุมานจับตะบองวิศษและมัดด้วยหางตัดเศียรขาดกระเด็น
|
ไวยตาล-พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีครามอ่อน บางตำราว่าสีมอคราม ปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎหระหนก กายสีครามอ่อน บางตำราว่าสีมอคราม มี 1 พักตร์ 2 กรครองกรุงกุรุราษฎร์ในบาดาลเป็นสหายของท้าวจักรวรรดิแห่งกรุงมลิวัน ท้าวจักรวรรดิขอความช่วยเหลือให้มาช่วยรบศึกกรุงมลิวัน จึงได้ทำพิธิปลุกกระบองตาลวิเศษที่บาดาลเพื่อให้มีฤทธิ์ชี้ต้นตายชี้ปลายเป็นกายจะเป็นเพชร ใครฆ่าไม่ตาย พระพรตให้นิลพัทและอสุรพัตไปทำลายพิธี สำเร็จแล้วดักรออยู่จนกระทั่งท้าวไวยตาลยกทัพมา เกิดการสู้รบกัน ท้าวไวยตาลตาย
|
ไพจิตราสูร-พญายักษ์
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีขาว บางตำราว่าสีเขียว ปากแสยะตาโพลง บางแห่งว่าตาจระเข้ สวมมงกุฎน้ำเต้ากลม กายสีขาว บางตำราว่าสีเขียว มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นเจ้าพิภพอสูร อยู่ระหว่างเขาตรีกูฎ ด้านใต้เขาพระสุเมรุ สัมพันธมิตรกับทศกัณฐ์
|
ตรีบูรัม-พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีดำหมึก ปากแสยะตาโพลง บางแห่งว่าปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎน้ำเต้ากลมรูปทรงปลี
กายสีดำหมึก มี 1 พักตร์ 2 กร ครองกรุงโสพัส บำเพ็ญเพียรเพื่อขอพระอิศวรมิให้ใครฆ่าได้ แม้แต่พระนารายณ์ เมื่อได้พรแล้วกลับกระทำหยาบช้าเบียดเบียนโลกเดือดร้อนไปทั่วทั้งเทวดา ฤาษี มนุษย์ พระอิศวรจึงต้องปราบด้วยตาไฟ เผาผลาญตรีบูรัมตาย
|
อนุราช หรืออุณาราช(กกกะหนาก)-พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีจันทร์อ่อน ปากแสยะตาจระเข้ สวมมงกุฎกระหนก กายสีจันทร์อ่อน บางตำราว่าสีนวลจันทร์มี 1 พักตร์ 2 กร เดิมเป็นเทพบุตร ต้องโทษเพราะขาดการเข้าเฝ้าพระอิศวรจึงสาปให้ไปเกิดเป็นพญารากษสครองกรุงมหาสิงขรเมื่อพระนารายณ์อวตารมาปราบอธรรมให้เอาต้นกกแผงไปตรึงไว้กับหิน ทรมานอยู่จนถึงแสนโกฏ์ปี จึงถูกพระรามแผลงศรต้นกกดังคำสาปเมื่อครั้งที่พระรามเดินดงครั้งหลัง
|
ตรีปักกัน-รากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎกระหนก กายสีเขียวแก่ มี 1 หน้า 2 มือเป็นโอรสท้าวกุเวรนุราชกับนางเกศินี ในบทละครเรื่องรามเกียรติ์กล่าวถึงตอนออกประพาสป่า พบพระราม พระลักษณ์และทหารวานร สั่งให้ทหารจังตัว เกิดการสู้รบกันตายด้วยศรพระลักษณ์
|
อสูรวายุภักษ์-พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากแสยะตาจระเข้ มีจะงอยปากเหมือนนกอินทรี สวมมงกุฎน้ำเต้ามีกาบรับบัวแวง
กายสีเขียวแก่ มี 1 หน้า 2 มือ มีกายและหน้าเป็นอสูรเท้าและหางเพียงท่อนเองเหมือนนกอินทรี ปีกแขนทั้งสองมีครีบดังพญาครุฑ บิดาเป็นยักษ์ มารดาเป็นนก อสูรวายุภัษ์ครองเมืองมหาวิเชียรธานี บินมาพบพระราม พระลักษณ์ เมื่อเดินดงครั้งหลัง จึงโฉบไปเพื่อกินเป็นอาหาร สุครีพ หนุมาน และทหารวานรพากันไล่ตาม ช่วยพระราม พระลักษณ์ได้ ฆ่าวายุภักษ์เสีย
|
ท้าวคนธรรพ์นุราช -พญารากษส
ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียวแก่ ปากขบตาจระเข้ สวมชฎาโพกอย่างวิชาธร หรือชฦาลอมพอก หรือมงกุฎกาบไผ่ บางตำราว่าไม่มีมงกุฎ กายสีเขียวแก่ มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นกษัตริย์เมืองดิศศรีสิน มีมเหสีชื่อนางนันทา และมีโอรสชื่อว่า วิรุณพัท คนธรรพ์นุราชมีอุปนิสัยอันธพาลหยาบช้า วันหนึ่งชวนวิรุณพัทไปประพาสป่า พบฤาษีบำเพ็ญตบะบำเพ็ญเพียรแก่กล้า เป็นอาจารย์เหล่ามนุษย์เทวา จึงทำลายล้างพิธีและสถานที่บำเพ็ญเพียร หลังจากนั้นเกิดความคิดว่าควรรุกรานพระนครใหญ่น้อยทั้งปวงให้อยี่ในอำนาจ จึงยกทัพไปตีได้เมืองไกยเกษ ท้ายไกยเกษหนีกองทัพท้าวคนธรรพ์นุราชเข้าเมืองได้ บรรดาเสนาเมืองไกยเกษจึงสร้างกลอุบายให้เที่ยวชมสวนเพื่อถ่วงเวลาให้กองทัพ อโยธยายกมาช่วย พระรามสั่งให้พระพรต พระสัตรุดพร้อมด้วยพระมงกุฎและพระลบยกทัพไป เกิดการสู้รบกัน วิรุณพัทตายด้วยศรพระลบ ท้าวคนธรรพ์นุราชตายด้วยศรพระมงกุฎ
|
ส่วนนี้ดาราเกาหลี ที่คนไทยเทิดทูนกัน ตามตำนานกล่าวว่าได้ให้กำเนิดพ่อแม่ พวกบ้าเห่อเกาหลี มีบุญคุณต่อแผ่นดิน ช่วยรบทัพจับศึกมานักต่อนัก ในวันเพ็ญเดือนยี่จะมีการทำพิธี 7 วัน 7 คืน คืนสุดท้ายจะฉลองด้วยการกินกิมจิ และเต้นเพลงทั้งหมด ทุกอัลบั้มจนเช้า ถือเป็นวันสำคัญของชาติไทย ใน พ.ศ. นี้ ใครมีไว้ไม่เชย ไม่เอ้าท์
โดย ลูกชายนายอำเภอ
โขน : https://board.postjung.com/576256.html
โขน 1 : https://board.postjung.com/576255.html
โขน 2 : https://board.postjung.com/576251.html
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์


















