หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โขน 2

โพสท์โดย ลูกชายนายอำเภอ

 

เศียรโขนต่างๆ

เครดิตแบบเต็มๆ : http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/11/A7211149/A7211149.html

 อสูรเทพบุตร



หิรันตยักษ์-อสูรเทพบุตร

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีทอง ปากแสยะตาโพลง บางแห่งว่าปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎกระหนก
กายสีทอง มี 1 พักตร์ 2 กร เป็นอสูรอาศัยอยู่เขาจักรวาล ทำพิธีตบะที่เขาวินันตก พระอิศวรจึงประทานพรให้มีฤทธิ์มาก หิรันตยักษ์สำแดงเดชม้วนแผ่นดินทำให้เดือดร้อนไปทั่ว พระอิศวรจึงบัญชาให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์แปลงกายเป็นหมูและฆ่าหิรันตยักษ์ตาย

 

 รามสูร-อสูรเทพบุตร

ลักษณะหัวโขน หน้ายักษ์สีเขียว หรือสีทอง ปากขบตาโพลง สวมมงกุฎกาบไผ่ มีทั้งจอนหูแบบยักษ์และจอนหูแบบมนุษย์ อีกแบบหนึ่งจะสวมชฎาดอกลำโพง แบบหัวโขนหน้าฤาษีกายสีเขียว และทำเป็นหน้าทองอีกแบบหนึ่ง มี 1 พักตร์ 2 กร มีขวานเพชรเป็นอาวุธเป็นผู้มีอุปนิสัยเกเร ในบทละครเรื่องรามเกียรติ์กล่าวถึงตอนฤดูวสันต์ เทวดานางฟ้าจับระบำเล่นนักขัตฤกษ์ รามสูรไล่จับนางเมขลาล่อแก้ว พบอรุชุนเหาะมา สู้รบกันและจับอรชุนฟาดเขาพระสุเมรุตาย อีกตอนหนึ่งรามสูรเที่ยวประพาสป่าพบขบวนพระรามซึ่งกลับจากการอภิเษกนางสีดาเพื่อไปอโยธยารบกับพระรามพ่ายแพ้ พระรามไว้ชีวิต จึงได้ถวายศรให้

 

 

 

 พิราพหรือวิราช-อสูรเทพ

ลักษณะหัวโขน ทำเป็นหน้ายักษ์ซึ่งมีลักษณะหน้าแปลกจากยักษ์อื่น คือ หน้ากางคางออก เรียกว่าหน้าจาวตาล สีม่วงแก่ หรือสีน้ำรัก หรือสีทอง ปากแสยะ ตาจระเข้ หัวโล้น สวมกะบังหน้า ตอนทรงเครื่องสวมมงกุฎยอดเดินหน นอกจากนี้ยังมีหัวโขนพระพิราพที่ประดิษฐ์ด้วยโลหะ เป็นเทพอสูรผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ซึ่งศิลปินโขนละคร และดนตรีไทยให้ความเคารพสักการะ ในฐานะเป็นบรมครูในวิชาดุริยางคศาสตร์ และนาฎศิลป์ อินเดียเรียกว่า พระไภรวะ ส่วนทางประเทศเนปาลเรียกว่า พระไภราพ ซึ่งเป็นปางที่ดุร้าย ของพระอิศวรปางหนึ่ง ทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งนาฎศิลป์และความตายอีกด้วย กายสีม่วงแก่ 1 พักตร์ 2 กร มีกายเป็นวงทักขิณาวัฎ อาศัยอยู่เชิงเขาอัศกรรณ พระอิศวรกำหนดเขตป่าให้อยู่ และสามารถจับสัตว์ที่พลัดเข้าไปในเขตนั้นกินได้ พิราพได้นำชมพู่พะวาทอง อันมีรสโอชามาปลูกไว้ในสวน กำชับพลยักษ์ให้ดูแล ทุกเจ็ดวันจะมาดู เมื่อพระรามเดินดงได้ผ่านเข้าไปในสวนเก็บผลไม้กิน พลยักษ์มาพบรุมกันจับ ถูกพระลักษณ์ฆ่าตาย เมื่อพิราพมาสวนจึงสอบถามเรื่องราวจึงตามไปและลักนางสีดา สู้รบกับพระราม พระลักษณ์ตายด้วยศรพระราม

 

 เหรันต์ หรือเหรันตทูต-อสูรเทพบุตร

ลักษณะหัวโขน ปากเสยะ ตาโพลง บางแห่งว่าปากขบตาจระเข้ สวมมงกุฎจีบ กายสีม่วงอ่อน มี 1 พักตร์ 2 กร อาศัยอยู่เขาหิมพานต์ เป็นอสูรที่มีฤทธิ์เดชมาก จับมนุษย์ และสัตว์กินเป็นอาหาร วันหนึ่งได้ออกไปเที่ยวป่า พบท้าวทศรถพาพระมเหสีทั้ง 3 ประพาสป่า เกิดการสู้รบกัน และถูกท้าวทศรถฆ่าตาย

 

ท้าวทศรถ-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว สวมชฏามนุษย์หรือมงกุกยอดชัยหรือมงกุฎยอดเดินหน กษัตริย์กรุงศรอยุธยาองค์ที่ 3 กายสีขาว 1 พักตร์ 2 กร ทรงศรเป็นอาวุธโอรสท้าวอัชบาลกับนางเทพอัปสร ท้าวทศรถมีมเหสี 3 องค์ คือ องค์ที่ 1 นางเกาสุริยา มีโอรสชื่อพระราม องค์ที่ 2 นางไกยเกษี มีโอรสชื่อพระพรต องค์ที่ 3 นางสมุทรชา หรือสมุทรเทวีหรือสมุทรมีโอรสชื่อพระลักษณ์ และพระสัตรุด

 พระราม -พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีเขียวนวลตอนครองเมืองสวมมงกุฎยอดชัยหรือพระมหามงกุฎตอนเดินดงสวมมงกุฎยอดเดินหนตอนทรงพรตสวมชฎายอดบวชหรือชฎายอดฤาษี  กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 4 กายสีเขียวนวล 1 พักตร์ 2 กร คือพระนารายณ์อวตารลงมาเกิดเป็นโอรสของท้าวทศรถกับนางเกาสุริยา
ปกติพระรามทรงศรเป็นอาวุธ เวลาสำแดงอิทธิฤทธิ์ปรากฎเป็น 4 กร ทรงเทพอาวุธเช่นเดียวกับพระนารายณ์ คือ ตรีคฑาจักร และสังข์ มีมเหสีชื่อ นางสีดา ซึ่งได้แก่ พระลักษมีเทวีแบ่งภาคมาช่วยพระรามปราบปรามเหล่าอสูรร้ายผู้คอยทำลายความสงบสุขของโลก มีโอรสชื่อพระมงกุฎ ออกเดินดงตามที่นางไกยเกษีขอพรเป็นเวลา 14 ปี ในขณะเดินดงนั้น ทศกัณฐ์มาลักนางสีดา และเป็นเหตุให้เกิดสงครามล้างพวกยักษ์ เมื่อเสร็จศึกกรุงลงกาแล้ว พระรามยังคงต้องพลัดพรากจากนางสีดาอีก ด้วยเหตุเข้าใจผิดและระแวง จนกระทั้งพระอิศวรต้องมาไกล่เกลี่ย

 

 พระพรต

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีแดงฉาด สวมชฎามนุษย์ หรือมงกุฎยอดชัย หรือมงกุฎยอดเดินหน เป็นอนุชาของพระราม กายสีแดงฉาด 1 พักตร์ 2 กร คือจักรพระนารายณ์อววตารมาเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถและนางไกยเกษีไปอยู่เมืองไกยเกษกับท้ายไกยเกษ พระกับพระศตรุด เมื่อพระรามออกเดินดง พระพรตไม่ยอมรับราชสมบัติแต่จะรักษากรุงอโยธยาไว้จนกว่าพระรามจะกลับคืนเมือง

 พระลักษณ์

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีทองสวมมงกุฎยอดเดินหน มงกุฎยอดชัย หรือพระมหามงกุฎตอนทรงพรตสวมชฎายอดบวชหรือชฎายอดฤาษี  เป็นอนุชาของพระราม กายสีทอง 1 พักตร์ 2 กร คือ บัลลังก์นาคและสังข์ของพระนารายณ์อวตารลงมาเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถกับนางสมุทรชา เมือ่พระรามออกเดินดงขอตามเสด็จด้วย

 

 พระสัตรุด

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีม่วงอ่อน สวมชฎามนุษย์หรือมงกุฎยอดชัยหรือมงกุฎยอดเดินหนเป็นอนุชาของพระราม กายสีม่วงอ่อน บางแห่งว่าสีหงดิน 1 พักตร์ 2 กร คือ คฑาพระนารายณ์อวตารมาเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถกับนางสมุทรชา ร่วมอุททรณ์กับพระลักาณ์ไปอยู่เมืองไกยเกษพร้อมทรงพรตได้ออกร่วมรบกับพระพรต ตามบัญชาของพระราม ในศึกกบฎสะกะและศึกเมืองมลิวัน ภายหลังกลับไปช่วยกำกับราชการที่เมืองไกยเกษกับพระพรต ตามเดิม

 

 พรหมพงศ์

 

 



ท้าวสหบดี-พรหม
ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว 4 หน้า ทำหัวโขนเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกมี 1 หน้า ตามปกติ ชั้นที่ 2 มี 3 หน้า สวมมงกุฎยอดชัย

จตุรพักตร์-พรหม
ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว 4 หน้า 8 กร รูปสัณฐานเป็นพรหมน้องท้าวมาลีวราช ประวัติกล่าวว่า เดิมคือ ธาดาพรหมหรือมหาอัชฎาพรหม เมือ่ท้าวสหบดีพรหมสร้างกรุงลงกาเสร็จ ตรัสให้ท้าวธาดาพรหมมาปกครอง มีนามว่า ท้าวจัตุรพักตร์ นับเป็นกษัตริย์กรุงลงกาองค์ที่ 1 ท้าวสหบดีพรหมทรงประทานอาวุธ คือ ตรีศูล คฑา และฉัตรแก้วซึ่งใช้ยกบังแสงอาทิตย์ทำให้แลเห็นศัตรูฝ่ายเดียวมีบุษบกแก้วซึ่งเป็นอากาศยานวิเศษสามารถล่องลอยได้ตามใจนึก
ท้าวจัตุรพักตร์มีมเหสีชื่อนางมลิกา มีโอรสเป็นยักษ์ 4 กร ชื่อ ลัสเตียนคอรงราชสมบัติหกหมื่นปีจึงสิ้นชีพ

มลิกา-นาง
กายสีนวล 1 พักตร์ 2 กร สวมมงกุฎกษัตรีย์เป็นมเหสีท้าวจัตุรพักตร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

มเหศวรพงศ์

 
อิศวร-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว สวมมงกุฎน้ำเต้ากาบ นอกจากนี้ยังมีการทำมงกุฎเป็นยอดต่าง ๆ อีก เช่น ยอดน้ำเต้ากาบทรงปลี ยอดน้ำเต้ากาบทัดจันทร์ และยอดน้ำเต้ากาบปลายสะบัด เป็นต้น
เทพเจ้าผู้สร้างโลก ผู้เป็นใหญ่ในเรื่องรามเกียรติ์ กายสีขาว 1 พักตร์ 4 กร เป็นมเหสักขเทวาราชองค์ที่ 1 สถิตที่ยอดเขาไกรลาส มีมเหสี 3 องค์ ทรงนามว่า อุมาภควดี   มเหศวรี และ สรัสวดี มีโอรสชื่อพระขันธกุมาร พระพิเนศ และพระพินาย พระอิศวรมีพระนามต่าง ๆ ดังนี้ พระเป็นเจ้า พระศุลี พระจอมไกรลาส พระสยมภูวญาณ พระสยมภูวนาถ เมื่อคราวถอดงาช้างขว้างไปปักอกทศกัณฐ์

 

 พิฆเณศวร-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าเป็นช้างสีสัมฤทธิ์ หรือสีแดง สวมเทริดยอดน้ำเต้า หรือมงกุฎน้ำเต้าเฟือง
เทพเจ้าแห่งศิลปะ พระพิฆเณศวร หรือ พระวิฆเนศวรนี้ ตามความนิยมแห่งไสยศาสตร์ว่า เป็นเจ้าแห่งความรู้ มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เป็นต้นว่า อขุรถ คชมุข กรีมุข เอกทันต์ ลัมพกรรณ สัมโพทร ทวิเทห คเณศ พิเนศ เป็นโอรสของพระอิศวรกับพระอุมา มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ อ้วนเตี้ยท้องพลุ้ย หูยาน มีเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว มี 4 กร ถือ บ่วง และขอช้าง ภาพเขียนบางภาพมีถือวัชระบ้าง จักร์บ้าง สังข์บ้าง คฑาบ้าง ดอกบัวบ้าง มีพาหนะเป็นหนู ในบทละเครื่องรามเกียรติ์เป็นนายกอง ปีกซ้ายทัพพระอิศวรเมื่อสงครามตรีบุรัม ต่อมาอวตารเป็นเสนาวานรชื่อนิลเอก

 

 

 

 

นารายณ์- พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีดอกตะแบก สวมมงกุฎยอดเดินหน หรือมงกุฎยอดชัยเทพเจ้าผู้รักษาความดี  พระนารายณ์อยู่ในตำแห่งพระมเหสักขเทวราชองค์ที่สองแห่งพระเป็นเจ้าทั้งสามของพราหมณ์ มีชื่อหลายชื่อตามฤทธิ์ตามเดชและเหตุการณ์ เช่น วิษณุ หรือพิษณุหิริอนันตไศยน ลักษมีบดี และจตุรภุช เป็นต้น กายเป็นสีดอกตะแบก 4 กร ทรงสังข์ คฑา จักรศร มีพญาครุฑเป็นพาหนะ มีอนันตนาคราชเป็นบัลลังค์ สถิต ณ เกษียรสมุทร มีมเหสีชื่อ พระลักษมี และพระศรี
พระนารายณ์อวตารเป็นปางใหญ่มีอยู่ 10 ปาง คือ
1. มัตสยาวตาร เป็นปลาไปปราบสังขอสูร 2. กูรมาวตาร เป็นเต่าไปปราบอสูรมัจฉา
3. วราหาวตาร เป็นหมูไปปราบเหรันตยักษ์ 4. นรสิงหาวตาร เป็นนรสิงห์ไปปราบท้าวหิรัณตาสูร
5. วามนาวตาร เป็นคนเตี้ยไปปราบท้าวตาวันตาสูร 6. ปรศุรามาวตาร เป็นรามสูรไปปราบกษัตริย์อรชุน
7. รามาวตาร เป็นพระรามไปปราบท้าวทศกัณฐ์ 8. กฤษณาวตาร เป็นพระกฤษณะไปปราบท้าวพาณาสูร
9. พุทธาวตาร เป็นพระสมณโคดมปราบท้าววัสดีมาร 10. กัลกิยาวตาร เป็นมหาบุรุษจะบันดาลให้โลกเป็นบรมสุข ในเรื่องรามเกียรติ์ พระอิศวรเชิญให้อวตารในโลกมนุษย์ เป็นโอรสท้าวทศรถพร้อมด้วยพระลักษมีพญาอนันนตนาคราช คฑาเพชร จักร สังข์ กับหมู่เทวดา แบ่งภาคไปเกิดเป็นทหารวานรพงศ์ ในกรุงชมพูและ ขีดขินและประทานพรให้พระนารายณ์ไปกำเนิดในครรภ์นางเกาสุวิยา ทรงนามว่า ราม ให้จักรเกิดในครรภ์นางไกยเกษีเป็นพระพรต พญานาคและสังข์เกิดในครรภ์นางสมุทรชาเป็นพระลักษณ์กับพระสัตรุดให้พระลักษณ์ไปเกิดในลงกา เป็นธิดาทศกัณฐ์ ชื่อ สีดา

 

 พรหมธาดา-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว 4 พักตร์ ทำหัวโขนเป็น 2 แบบ คือแบบแรกทำเป็นหน้า 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นหน้าปกติ 1 หน้า ชั้นที่ 2 ทำเป็นหน้าเล็ก 3 หน้า สวมมงกุฎชัย แบบที่สองทำเป็นหน้าชั้นเดียว มีหน้าปกติ 1 หน้า หน้าเล็ก 3 หน้า เรียงไว้ตรงท้ายทอย สวมมงกุฎน้ำเต้า 5 ยอด หัวโขนนี้อาจใช้แสดงสหบดีพรหม และท้าวมาลีวราชด้วย
เทพเจ้าแห่งพรหมวิหาร เป็นพระมเหสักขเทวราช องค์ที่ 3 ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่ในชั้นพรหม มี 4 พักตร์ 8 กร ถือธารพระกร ช้อน หม้อน้ำ คัมภีร์ มีประคำคล้องพระศอ มีธนูชื่อ ปรวีตะ มีหงส์เป็นพาหนะ พระพรหมมีกายสีขาว เป็นผู้มีน้ำพระทัยกอรปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทางพระพุทธศาสนาจึงได้เรียกว่า พรหมวิหาร

 

 อินทร์-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีเขียว สวมมงกุฎยอดเดินหน  เจ้าแห่งเทพนครอมรวดี ผู้ให้ความช่วยเหลือมนุษย์ เป็นมเหสักขเทวราชองค์ที่ 4 เป็นใหญ่อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นโอรสพระกศัยปเทพบิดร พระอทิติเป็นมารดา มีนามหลายนาม เช่น สหัสนัยน์ เมฆวาหน เพชรปาณี มรุตวาน ศักระ มเหนทร มัฆวาน อมรินทร์ เป็นต้น
มีกายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร สถิตในวิมาน ชื่อเวชยันต์ ช้างทรงชื่อไอราพต สารถีชื่อมาตุลี ช่างชื่อวิศวกรรม มีมเหสี 4 องค์ คือ สุจิตรา สุชาดา สุธรรมา และสุนันทา แบ่งภาคเป็นพาลี

 

 มาตุลี-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว สวมมงกุฎน้ำเต้ากลม อำมาตย์พระอินทร์คนที่ 1 เป็นสาถีขับรถพระอินทร์ กายสีขาว 1 พักตร์ 2 กร

 

วิศนุกรรม หรือวิศวกรรม หรือวิษณุกรรม-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีเขียว หัวโล้น ที่ผมเขียนเป็นลายดอกไม้ หัวโขนอีกแบบหนึ่งโพกผ้าหรือสวมมงกุฎน้ำเต้า หรือเทริดยอดน้ำเต้า  อำมาตย์พระอินทร์คนที่ 3 เป็นเทวดานายช่างของพระอินทร์ คู่กับวิศวพรหมซึ่งเป็นนายช่างของพระพรหมกายสีเขียวมี 1 พักตร์ 2 กร ในบทละครเรื่องรามเกยรติ์ ได้ทำหน้าที่เป็นยกกระบัตรทัพแห่งพระอินทร์ เมื่อคราวรบกับอินทรชิต

 

 ปัญจสีขร-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีขาว สวมมงกุฎน้ำเต้า 5 ยอด เป็นเทพคนธรรพ์ มีกายสีขาว 1 พักตร์ 4 กร เป็นเทพเจ้าแห่งวิชาการดนตรี ถือบัณเฑาว์ และพิณหรือกระจับปี่ รับอาสาพระอิศวรช่วยพระนารายณ์อาวตารลงไปปราบยักษ์ โดยจุติมาเป็นณาณรสคนธ์ วานรเตียวเพชร

 

 ปรคนธรรพ(ประโคนธรรพ์)-พระ

ลักษณะหัวโขน หน้าพระสีหงเสน หรือสีเขียว หรือสีเขียวใบแค หัวโขนบางหัวจะมีลายเป็นวงทักขิณาวัฎที่บริเวณใบหน้า มีลักษณะทำเป็นหน้าหนุ่ม และหน้าแก่ สวมชฎายอดบวชหรือชฎายอดฤาษี(ยอดดอกลำโพง) จอนหูมีแบบมนุษย์ และแบบฤาษี หรือสวมมงกุฎยอดน้ำเต้า ยอดของคนธรรพ์ เป็นเทพเจ้าแห่งวิชาการดนตรี ขับร้อง และดีดสีตีเป่า นัยว่าเป็นผู้คิดประดิษฐ์พิณขึ้น มีนิสัยเจ้าชู้ ถือว่าเป็นบรมครูแห่งการดนตรี กายสีหงเสน หรือสีเขียว หรือสีเขียวใบแค มี 1 พักตร์ 2 กร มีลักษณะเด่น คือ มีลายเป็นวงทักขิณาวัฎทั้งตัว มีพระขรรค์เป็นอาวุธ มักถือพิณติดตัวเป็นประจำ

 ฤาษี


พระพรตมุนี

เป็นบรมครูแห่งการนาฎศิลป์ทั้งหลาย เป็นผู้รจนา (แต่ง) คัมภีร์ภรตนาฎศาสตร์ เป็นผู้จดจำท่ารำจากพระพรหม นำไปสอนโอรสทั้ง 100 คน เพื่อให้ไปเผยแพร่ยังโลกมนุษย์ จึงถือเป็นบรมครูแห่งการนาฎศิลป์ทั้งปวง มีการประดิษฐ์หัวโขนขึ้นบูชากับใช้ครอบศีรษะในพิธีไหว้โขนครูละคร

 ฤาษีผู้สร้างกรุงอโยธยา มี 4 ตน

อจนคาวี - ฤาษี
ยุทธอักขระ - ฤาษี
ทะหะ - ฤาษี
ยาคะ - ฤาษี


ในการแสดงพระฤาษีทั้ง 4 ตน จะสวมชฎาดอกลำโพง เดิมในชมพูทวีป ณ ป่าทวารวดี ฤาษีทั้ง 4 ตน บำเพ็ญพรตอยู่เป็นเวลาแสนปี เมื่อสร้างกรุงขึ้นใหม่ในบริเวณที่อยู่ของพระฤาษี จึงเอาชื่อฤาษีทั้ง 4 ตน และชื่อป่ามาตั้งเป็นชื่อกรุงว่าทวารวดีศรีอโยธยา มีท้าวอโนมาตัน เป็นปฐมกษัตริย์

 

 ฤาษีที่ทำพิธีหุงข้าวทิพย์ในกรุงอโยธยามี 5 ตน

กไลโกฎ-ฤาษี

ลักษณะหัวโขน ทำเป็นหัวฤาษีหน้าเนื้อ สวมเทริดฤาษียอดบายศรี หัวโขนบางหัวจะทำเขาโผล่ขึ้นมาอีกด้วย พระฤาษีกไลโกฎ เป็นบุตรพระมุนี ชื่อ อิสีสิงค์ บำเพ็ญพรตอยู่ในป่าศาลวัน เมืองพัทวิสัย แห่งท้าวโรมพัตตัน บิดาเคยสั่งห้ามมิให้แตะต้องสัตว์ซึ่งมีเขาที่อก มีตบะเดชแก่กล้าจนทำให้ฝนแล้งไปสามปี ท้าวโรมพัตตันใช้ให้พระธิดาชื่อ อรุณวดี ไปทำลายตบะ ฝนก็ตกต้องทั่วแผ่นดิน เมื่อพระกไลโกฎเสียตบะ และยังติดใจในกามรสจึงเข้าไปอยู่ในกรุงพัทวิสัยกับชายา ต่อมาท้าวทศรถไปทำพิธีขอโอรส พระกไลโกฎ ได้ไปเป็นประธานในการทำพิธี

 

 

 

ส่วนนี้ดาราเกาหลี ที่คนไทยเทิดทูนกัน ตามตำนานกล่าวว่าได้ให้กำเนิดพ่อแม่ พวกบ้าเห่อเกาหลี มีบุญคุณต่อแผ่นดิน ช่วยรบทัพจับศึกมานักต่อนัก  ในวันเพ็ญเดือนยี่จะมีการทำพิธี 7 วัน 7 คืน คืนสุดท้ายจะฉลองด้วยการกินกิมจิ และเต้นเพลงทั้งหมด ทุกอัลบั้มจนเช้า ถือเป็นวันสำคัญของชาติไทย ใน พ.ศ. นี้ ใครมีไว้ไม่เชย ไม่เอ้าท์  

 

 โดย ลูกชายนายอำเภอ

 

โขน : https://board.postjung.com/576256.html
โขน 1 : https://board.postjung.com/576255.html
โขน 2 : https://board.postjung.com/576251.html

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
10อันดับตัวละครที่มีIQสูงที่สุดในโลก(อนิเมะ)!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
10อันดับตัวละครที่มีIQสูงที่สุดในโลก(อนิเมะ)!!ร้อนนัก ก็ดับร้อน ด้วยผ้าขนหนูทัชมาฮาลมีประวัติความเป็นมาอย่างไร?อื้อหือ เสื้อตัวนี้ ทำจากใยแมงมุม บอกเลยอย่างเหนียว อย่างทนทานเลยเด้อ
ตั้งกระทู้ใหม่