หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำความรู้จักไขมันใต้ผิวหนัง ปัจจัยลับที่ทำให้สิวขึ้น

โพสท์โดย EVEFY

ทำความรู้จักไขมันใต้ผิวหนัง 

ปัจจัยลับที่ทำให้เกิดสิวขึ้น

เมื่อพูดถึงการเกิดสิว หลายคนมักจะนึกถึงความมันบนใบหน้า การอุดตันของรูขุมขน หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่มีอีกปัจจัยหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งหลายคนอาจไม่ทันสังเกต นั่นคือ ไขมันใต้ผิวหนัง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวโดยตรง แต่ไขมันใต้ผิวหนังมีบทบาทสำคัญต่อระบบภายในของร่างกายที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวในหลายด้าน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าไขมันใต้ผิวหนังคืออะไร มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวอย่างไร และไขมันประเภทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิวมีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถดูแลผิวได้อย่างถูกต้องและลดโอกาสการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไขมันใต้ผิวหนังคืออะไร?

ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) คือไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง มีหน้าที่หลักในการเก็บพลังงาน รักษาอุณหภูมิร่างกาย และปกป้องอวัยวะจากแรงกระแทก ไขมันใต้ผิวหนังมีอยู่ทั่วร่างกาย แต่ปริมาณของไขมันจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม อายุ เพศ และวิถีชีวิต

เมื่อมีการสะสมไขมันใต้ผิวหนังมากเกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวหรือทำให้สิวมีความรุนแรงมากขึ้นได้ แม้จะไม่ใช่ปัจจัยโดยตรง แต่ไขมันใต้ผิวหนังถือว่าเป็นปัจจัยแฝงที่มีบทบาททางอ้อมในการเกิดสิว

ไขมันที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว

การเกิดสิวไม่ได้เกิดขึ้นจากไขมันใต้ผิวหนังเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับไขมันหลายประเภทที่มีบทบาทต่อการอุดตันและการอักเสบของผิว โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:

  1. ไขมันจากต่อมไขมัน (Sebum)
    ต่อมไขมันใต้ผิวหนังเป็นแหล่งผลิตน้ำมันหรือซีบัม (Sebum) ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ หากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป น้ำมันจะสะสมในรูขุมขนและทำให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes จนเกิดเป็นสิวได้
  2. กรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acids)
    เกิดจากการย่อยสลายไขมันโดยเอนไซม์จากแบคทีเรียบนผิวหนัง กรดไขมันเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบ ทำให้สิวรุนแรงขึ้น
  3. ไขมันจากเซลล์ผิวที่ตาย (Lipids from Dead Skin Cells)
    เซลล์ผิวที่ผลัดตัวตามธรรมชาติมีส่วนประกอบของไขมัน หากมีการผลัดเซลล์ที่ไม่สมดุลหรือสะสมมากเกินไป จะทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว
  4. ไขมันจากอาหาร (Dietary Fats)
    ไขมันจากอาหาร โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ สามารถกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดสิว
  5. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
    แม้ไขมันใต้ผิวหนังไม่ได้เป็นต้นเหตุของสิวโดยตรง แต่การสะสมไขมันมากเกินไปสามารถกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิว

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าการเกิดสิวไม่ได้เกี่ยวข้องกับไขมันจากต่อมไขมันเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงกรดไขมันอิสระ ไขมันจากเซลล์ผิว และไขมันจากอาหาร ซึ่งแต่ละประเภทมีบทบาทต่อการเกิดสิวทั้งทางตรงและทางอ้อม

ความแตกต่างระหว่างไขมันใต้ผิวหนังกับไขมันที่สะสมในรูขุมขน

เพื่อให้เข้าใจกลไกการเกิดสิวได้ดีขึ้น จำเป็นต้องแยกความแตกต่างระหว่าง ไขมันใต้ผิวหนัง และ ไขมันที่สะสมในรูขุมขน (Sebum in pores) ดังนี้

1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

2. ไขมันที่สะสมในรูขุมขน (Sebum in pores)

จากความแตกต่างนี้จะเห็นว่า ไขมันใต้ผิวหนังส่งผลต่อสิวทางอ้อม ผ่านกลไกฮอร์โมนและการอักเสบ ขณะที่ ไขมันในรูขุมขนเป็นปัจจัยโดยตรง ที่ทำให้เกิดสิว

ต่อมไขมันกับการผลิตน้ำมัน (Sebum)

ต่อมไขมันเป็นต่อมขนาดเล็กในชั้น Dermis ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันเพื่อเคลือบผิวและเส้นขน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ หากต่อมไขมันทำงานผิดปกติและผลิตน้ำมันมากเกินไป น้ำมันจะรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิว นอกจากนี้ต่อมไขมันยังมีหน้าที่อื่น ๆ ได้แก่:

แต่หากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น

กลไกทางอ้อมของไขมันใต้ผิวหนังต่อสิว

แม้ไขมันใต้ผิวหนังไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรง แต่มีบทบาททางอ้อมต่อการเกิดสิวผ่านกลไกต่อไปนี้:

  1. ฮอร์โมนและการผลิตน้ำมันบนผิว
    ไขมันใต้ผิวหนังมีบทบาทต่อความสมดุลของฮอร์โมน หากสะสมมากเกินไป อาจทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิว
  2. การอักเสบในร่างกาย
    ไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมมากเกินไปสามารถก่อให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้สิวอักเสบที่มีอยู่รุนแรงขึ้นหรือรักษายาก
  3. ภาวะดื้อต่ออินซูลินและการเผาผลาญ
    ไขมันสะสมมากเกินไปร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลินและความผิดปกติของระบบเผาผลาญ อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิว

ดังนั้น การควบคุมสมดุลของไขมันใต้ผิวหนังจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการลดโอกาสเกิดสิว

กลไกการเกิดสิวที่เกี่ยวข้องกับไขมัน

สิวบางประเภทโดยเฉพาะ สิวอักเสบ เกี่ยวข้องกับไขมันและต่อมไขมัน โดยมีกลไกดังนี้:

  1. การผลิตไขมันมากเกินไป
    ฮอร์โมนบางชนิดสามารถกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ ส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน
  2. การอุดตันรูขุมขน
    น้ำมันส่วนเกินรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้เกิดสิวหัวดำและสิวหัวขาว
  3. การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของไขมัน (Sebum Alteration)
    ไขมันอาจเหนียวหรือหนืด ทำให้ไหลออกจากรูขุมขนได้ยาก ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันง่าย
  4. การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium acnes
    เชื้อแบคทีเรียย่อยสลายไขมัน ทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นการอักเสบ
  5. การอักเสบ (Inflammation)
    รวมไขมันส่วนเกิน การอุดตันรูขุมขน และเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวอักเสบ บวม แดง และเจ็บ

ปัจจัยที่กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากเกินไป

  1. ฮอร์โมน (Hormones)
    การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยรุ่น ประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น
  2. พันธุกรรม (Genetics)
    หากครอบครัวมีประวัติเป็นสิวง่าย ต่อมไขมันอาจไวต่อฮอร์โมน ทำให้ผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ
  3. อาหาร (Food)
    อาหารที่มีน้ำตาลสูง นม หรือฟาสต์ฟู้ด กระตุ้นอินซูลินและฮอร์โมน ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น
  4. ความเครียด (Stress)
    ความเครียดเพิ่มการหลั่งคอร์ติซอล ซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่ม
  5. สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม (Environment & Lifestyle)
    อากาศร้อน ชื้น การใช้เครื่องสำอางอุดตันรูขุมขน และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุลและเกิดสิวง่าย

วิธีลดการเกิดสิวจากน้ำมันส่วนเกิน

  1. เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม
    ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) เพื่อลดการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรก
  2. ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี
    ล้างหน้า 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น หลีกเลี่ยงการล้างบ่อยเกินไปหรือขัดถูแรง ๆ
  3. ควบคุมอาหารและน้ำหนัก
    ลดอาหารมัน น้ำตาลสูง ดื่มน้ำเพียงพอ เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันและลดการอักเสบ
  4. จัดการความเครียดและการนอน
    พักผ่อนเพียงพอ ลดความเครียด เพื่อควบคุมฮอร์โมนและลดน้ำมันส่วนเกิน
  5. ใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะ
    ยาลดการอักเสบ ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือผลิตภัณฑ์ลดน้ำมัน ควรเลือกตามสภาพผิวและคำแนะนำแพทย์
  6. ดูแลพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม
    หลีกเลี่ยงการแกะสิว จัดการเครื่องสำอางและสิ่งของที่สัมผัสกับหน้าให้สะอาด

ไขมันใต้ผิวหนังกับสิวหัวขาว

หลายคนสงสัยว่า สีขาวในสิวหัวขาว คือไขมันใต้ผิวหนังหรือไม่? คำตอบคือไม่ใช่
สิวหัวขาวเกิดจาก ไขมัน (Sebum) จากต่อมไขมันในชั้น Dermis ผสมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และบางครั้งมีเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย สะสมในรูขุมขนอุดตันจนเกิดสิว

ไขมันในชั้นผิวหนังและความสัมพันธ์กับสิว

การเกิดสิวเป็นกระบวนการซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับหลายชั้นของผิวหนัง:

  1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
    ป้องกันการสูญเสียน้ำและเชื้อโรค หากมีเซลล์ตายสะสมมาก อุดตันรูขุมขนง่าย
  2. ชั้นหนังแท้ (Dermis)
    มีต่อมไขมันผลิตน้ำมัน หากน้ำมันมากเกินไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตาย จะเกิดการอุดตันและสิวอักเสบ
  3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat)
    อยู่ชั้นลึกสุด ช่วยรองรับโครงสร้างผิวและให้ความอบอุ่น แม้ไม่ทำให้เกิดสิวโดยตรง แต่มีบทบาททางอ้อม
เนื้อหาโดย: EVEFY
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
EVEFY's profile


โพสท์โดย: EVEFY
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำจรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกันเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ปรากฏการณ์สะเทือนวงการพุทธศิลป์ : พิธีอัญเชิญ “หัวใจพระพุทธเจ้า” รูปทรงอนาโตมี จุดคำถามศรัทธาหรือการตีความเกินขอบเขตเอกสารลับหลุดว่อน! "ฮุนเซน" ผวาหนัก ชาวเขมรแห่แชร์กฎหมาย "เด็ดหัวผู้นำ""ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ"ฟู้ดบล็อกเกอร์": กินแหลก สุขล้น ชราอย่างมีสไตล์ชาวบ้านแตกตื่น หลังเด็กชายจับได้สัตว์ประหลาดใต้น้ำ ก่อนแบกเดินทั่วหมู่บ้าน10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แฟนหนุ่มกินแครอทวันละ 3 มื้อทุกวัน เหตุผลเบื้องหลังทำให้แฟนสาวร้องไห้ปรากฏการณ์สะเทือนวงการพุทธศิลป์ : พิธีอัญเชิญ “หัวใจพระพุทธเจ้า” รูปทรงอนาโตมี จุดคำถามศรัทธาหรือการตีความเกินขอบเขต"ฟู้ดบล็อกเกอร์": กินแหลก สุขล้น ชราอย่างมีสไตล์เอกสารลับหลุดว่อน! "ฮุนเซน" ผวาหนัก ชาวเขมรแห่แชร์กฎหมาย "เด็ดหัวผู้นำ"10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตทหารกัมพูชา อาบนํ้ามนต์ ก่อนไปรบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
Code of White ช่วยลดฝ้ากระทุกระดับ ให้ผิวสว่างใสอย่างเหนือกว่ารู้จักวิธีรักษาสิวที่รมย์รวินท์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวคุณสิวก่อนมีประจำเดือน ทำไมเกิดและต้องจัดการอย่างไรรู้จักสิวฮอร์โมน ทำไมจึงจัดการยากกว่าสิวทั่วไป
ตั้งกระทู้ใหม่