ริ้วรอยป้องกันอย่างไร? เกิดจากอะไร? บริเวณไหนพบบ่อย?
ริ้วรอยป้องกันอย่างไร? เกิดจากอะไร? บริเวณไหนพบบ่อย?
แม้ริ้วรอยจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวที่เกิดขึ้นตามวัยและหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การดูแลผิวอย่างถูกวิธีสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างเห็นผล บทความนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพาไปทำความเข้าใจตั้งแต่สาเหตุของการเกิดริ้วรอย ไปจนถึงแนวทางป้องกันและวิธีฟื้นฟูผิวให้ริ้วรอยดูจางลงอย่างเหมาะสม สามารถติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ในบทความนี้
ริ้วรอยป้องกันอย่างไร?
- เลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
การบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สภาพผิว จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวและลดโอกาสเกิดริ้วรอย ควรมองหาส่วนผสมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการฟื้นฟูผิว เช่น วิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ ไนอาซินาไมด์ และไฮยาลูรอนิก แอซิด โดยเลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ - ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
ครีมกันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย ควรเลือกกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และค่า PA สูง พร้อมทาเป็นประจำทุกวัน แม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง และทาซ้ำเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อป้องกันการเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน - เสริมอาหารและวิตามินอย่างเหมาะสม
วิตามินและอาหารเสริมบางชนิดมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของผิว เช่น วิตามินซี วิตามินอี คอลลาเจน โคเอนไซม์คิวเทน แอสตาแซนธิน และซิงค์ ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำ เพื่อช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนและลดความเสียหายของเซลล์ผิว - ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ควรจิบน้ำตลอดวันประมาณ 1.5–2 ลิตร เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงซึ่งเร่งการเสื่อมของผิว - พักผ่อนให้มีคุณภาพ
การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ร่างกายซ่อมแซมเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ควรนอนให้ได้วันละ 7–8 ชั่วโมง และเข้านอนเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ - ออกกำลังกายเป็นประจำ
การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ส่งผลให้ผิวดูสดใสและแข็งแรง ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง - เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว
อาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และปลาทะเล จะช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์จากภายใน - หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว
ควรลดการเผชิญแสงแดดจัด มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนน้อย การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
ทำความรู้จักริ้วรอย
ริ้วรอย คือ การเปลี่ยนแปลงของผิวที่มองเห็นเป็นเส้นหรือร่องลึกบนผิวหนัง เกิดจากความเสื่อมของโครงสร้างผิวตามวัย เมื่อเวลาผ่านไป ผิวจะสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ส่งผลให้ผิวบางลง ความยืดหยุ่นลดลง และผิวไม่กระชับเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระตุ้นจากภายนอกและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น แสงแดด มลภาวะ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนเร่งให้ริ้วรอยเกิดขึ้นเร็วขึ้น โดยมักพบได้ชัดในบริเวณที่ขยับหรือแสดงสีหน้าบ่อย เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา รอบปาก และร่องแก้ม
ริ้วรอยเกิดจากอะไร?
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น กลไกการทำงานของผิวจะค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพลง ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ความแน่นกระชับลดลง และเริ่มเห็นเป็นเส้นริ้วหรือร่องลึกบนผิวอย่างชัดเจน - การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะเอสโตรเจน จะลดลงตามวัยหรือในช่วงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อโครงสร้างผิว ทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลง ผิวบางลง แห้งง่าย และเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น - การขยับหรือแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ
การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว หรือเลิกคิ้วบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าหดตัวซ้ำ ๆ ผิวจึงเกิดการพับในตำแหน่งเดิม เมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นริ้วรอยถาวร เช่น บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และหางตา - แสงแดดและรังสี UV
การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานทำให้ผิวถูกทำลายจากรังสี UV ซึ่งกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ และเร่งการเสื่อมของคอลลาเจนกับอีลาสติน ส่งผลให้ผิวแห้ง หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยก่อนวัย - มลภาวะในชีวิตประจำวัน
ฝุ่น ควัน และสารพิษในอากาศสามารถทำลายเกราะป้องกันผิว กระตุ้นการอักเสบ และเพิ่มการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวอ่อนแอ เสื่อมสภาพเร็ว และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น - การพักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับไม่พอหรือนอนดึกเป็นประจำ ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนลดลง ส่งผลให้การฟื้นฟูเซลล์ผิวและการสร้างคอลลาเจนลดลงตามไปด้วย - ความเครียดสะสม
เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการทำลายคอลลาเจน และกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น - การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำง่ายขึ้น ส่งผลให้ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น อีกทั้งยังกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูโทรมและแก่ก่อนวัย - การสูบบุหรี่
สารพิษในบุหรี่ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดลดลง ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ รวมถึงเร่งการทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน จึงทำให้ผิวหย่อนคล้อย หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าปกติ
ริ้วรอยพบบ่อยบริเวณไหน?
- หน้าผาก
เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นและการเลิกคิ้วหรือยกคิ้วซ้ำ ๆ ทำให้ผิวเกิดรอยพับ จนเห็นเป็นเส้นริ้วหรือร่องลึกได้ - หางตา
เป็นบริเวณผิวบาง มักเกิดริ้วรอยจากการยิ้ม หัวเราะ หรือหรี่ตา ทำให้เห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ บริเวณหางตา - ระหว่างคิ้ว
มักเกิดจากการขมวดคิ้วเป็นประจำ ร่วมกับการเสื่อมของผิวตามวัย ทำให้เกิดรอยย่นตรงกลางคิ้ว - ร่องแก้ม
เกิดจากผิวหย่อนคล้อย กระดูกยุบตัวตามอายุ และการขยับใบหน้าขณะพูดหรือยิ้ม ทำให้ร่องดูชัดขึ้น - รอบริมฝีปาก
มักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมสูบบุหรี่ หรือการเม้มปากบ่อย ๆ ทำให้เกิดเส้นริ้วรอบปาก - ลำคอ
เกิดจากผิวบาง การก้มหน้า หรือท่านอนซ้ำ ๆ ทำให้เห็นเป็นเส้นริ้วหรือรอยพับบริเวณลำคอ
ริ้วรอยลดได้อย่างไร?
การลดริ้วรอยสามารถทำได้ทั้งการดูแลด้วยตัวเอง และหัตถการทางการแพทย์ โดยสรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้
- ใช้ครีมบำรุงผิว
เลือกสกินแคร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เติมความชุ่มชื้น และต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ และไฮยาลูรอนิก แอซิด พร้อมทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อลดการเกิดริ้วรอยใหม่ - รับประทานอาหารเสริม
อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวจากภายใน เช่น คอลลาเจน วิตามินซี วิตามินอี หรือโอเมก้า 3 ช่วยชะลอริ้วรอยเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม - นวดหน้า
การนวดหน้าเบา ๆ เป็นประจำ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด คลายกล้ามเนื้อจากการแสดงสีหน้า และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น - ทำทรีตเมนต์ผิว
ทรีตเมนต์ช่วยฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอยดูจางลงเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ - ทำเลเซอร์
เลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียน และกระจ่างใส - ทำเครื่องยกกระชับ
เครื่องยกกระชับ เช่น RF หรือ Ultrasound ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นคอลลาเจน และลดริ้วรอยร่องลึก - ฉีดโบลดริ้วรอย
เหมาะกับริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ - ฉีดฟิลเลอร์
เหมาะกับริ้วรอยที่เกิดจากการยุบตัวของผิว เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ช่วยเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
การป้องกันริ้วรอยก่อนวัยควรเริ่มจากการดูแลสุขภาพผิวทั้งภายในและภายนอก ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม เช่น ใช้สกินแคร์ให้ตรงกับสภาพผิว ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอย่างแสงแดด มลภาวะ การสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยชะลอริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีในระยะยาวได้
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ไฟในอย่าน่าออก ไฟนอกอย่าน่าเข้า
วอลเลย์บอลชายไทย เฉือนชนะ อินโด คว้าทองซีเกมส์ในรอบ 8 ปี
ชาวบ้านรู้! เพจดังแฉบ่อนพนันสารคาม เปิดเล่นโจ๋งครึ่ม 3 วันแล้ว ไม่กลัวกฎหมาย
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติ
สื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซาก
หุ้น Facebook ลงเกือบ 30% ในคืนเดียว
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีให้คะแนนไทยในการจัดซีเกมส์ 100 เต็ม 10 พร้อมส่งกำลังใจถึงทีมชาติช้างศึกหลังพลาดเหรียญทอง
เลขเด็ด "คำชะโนด (ปกเขียว)" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..ส่องเลย เลขไหนมาแรง!!
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน

