เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับนักรบอัศวินกับชุดเกราะอัศวิน
เวลาพูดถึง “อัศวิน” คนส่วนใหญ่ก็น่าจะนึกถึงผู้ชายใส่เกราะเหล็กเงาวับนั่งบนหลังม้า ดูเท่เหมือนหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซีใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้วกว่าจะมาเป็นภาพแบบนั้น อัศวินผ่านการพัฒนาชุดเกราะและไลฟ์สไตล์ที่โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ จุดเริ่มต้นของพวกเขาย้อนกลับไปไกลถึงศตวรรษที่ 8 ในยุคที่ทหารม้าสวมเกราะเริ่มเป็นกำลังสำคัญของกองทัพยุโรป ซึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาจากระบบกองทหารม้าในยุคโรมันนั่นเอง
ยุคแรก ๆ อัศวินไม่ได้แต่งตัวเว่อร์วังแบบที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ พวกเขาใส่เสื้อผ้าเนื้อหนา ๆ แล้วคลุมด้วยเสื้อเกราะ “โซ่ถัก” หรือ chainmail ที่ทำจากห่วงเหล็กจิ๋ว ๆ นับพันคล้องต่อกันจนเป็นทรงเสื้อยาวถึงต้นขา พอใส่คู่กับหมวกเหล็กและเสื้อคลุมอีกชั้น จะว่าเท่ก็เท่ จะว่าร้อนก็ร้อน… และแน่นอนว่าโคตรหนัก
แต่คนโบราณนี่เก่งจริงนะ พวกเขาไม่หยุดพัฒนา ช่วงศตวรรษที่ 13 ก็เริ่มมีการเพิ่ม “แผ่นเหล็ก” เข้ามาป้องกันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนถึงปลายศตวรรษที่ 14 เกราะแบบแผ่นก็กลายเป็นตัวเอกของชุดอัศวินแล้ว กลายเป็นภาพจำที่เราคุ้นเคย—เหล็กทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ข้างในยังมีเกราะโซ่อยู่ด้วยนะ ไม่ใช่แค่แผ่นเหล็กเปล่า ๆ
ทีนี้ พอพูดถึงชุดเกราะ คราวนี้น้ำหนักมาเต็ม… 20 ถึง 25 กิโลกรัมเป็นอย่างต่ำ ลองแบกน้ำหนักเท่านี้แล้วขึ้นม้าไปออกรบดูสิ ทรมานระดับเข้ายิมแบบไม่พักกันเลยล่ะ และเพราะน้ำหนักนี่แหละ อัศวินจึงต้องมีผู้ติดตามประจำตัว ส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่มที่เข้ามาฝึกเพื่อจะเป็นอัศวินในอนาคต หน้าที่หลักคือช่วยเหลือเจ้านายเรื่องทุกอย่าง ตั้งแต่ดูแลอุปกรณ์ไปจนถึงช่วยพยุงเวลาล้มจากม้า—เพราะถ้าหนักจนล้มไปแล้วลุกเองไม่ได้นี่คือเรื่องปกติมาก ไม่มีใครหัวเราะนะ เพราะพวกเขาเข้าใจกันดีว่าลุกเองแทบเป็นไปไม่ได้
แต่ยังไม่หมด… ชุดเกราะแผ่นนี่ป้องกันดีจริง แต่ก็สวมใส่ลำบากมาก ถ้าช่วงไหนมีศึกติดต่อหลายวัน อัศวินมักต้องใส่มันข้ามวันข้ามคืนจนกว่าจะจบศึก และนั่นหมายความว่า ถ้าต้องการขับถ่าย… ก็ต้องปล่อยไว้ในชุดเกราะนั่นแหละ โหดกว่าที่คิดมากใช่ไหม? พอถึงเวลาทำความสะอาด งานนี้ก็เป็นของผู้ติดตามน่าสงสารเหล่านั้นอีกเช่นกัน พวกเขาจะใช้ทรายขัดคราบทั้งหลายออก—คิดภาพแล้วก็ได้กลิ่นตามมาเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไป แม้แต่ความเท่ของชุดเกราะเหล็กยุคกลาง พอเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 17 โลกก็เริ่มเปลี่ยนไป อาวุธปืนและปืนใหญ่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย เกราะเหล็กหนัก ๆ ที่เคยป้องกันดาบและหอกได้ดี กลับไม่ช่วยอะไรเมื่อเจอกระสุน และความเงาวับของเกราะก็ทำให้อัศวินกลายเป็น “เป้า” ชั้นดีในสนามรบอีกต่างหาก สุดท้ายบทบาทของอัศวินก็ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา เหลือไว้เพียงภาพลักษณ์สุดขลังในตำนาน วรรณกรรม และจินตนาการของผู้คนรุ่นหลังอย่างเรา
ฟังดูแล้วอัศวินไม่ได้มีชีวิตโก้หรูเท่าในหนังเลยเนอะ แต่ก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความทุ่มเท ความเจ็บตัว และความเป็นมนุษย์แบบสุด ๆ จนทำให้เรามองพวกเขาด้วยความเคารพและเข้าใจมากขึ้นอีกเยอะ
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
เขมรจัดหนัก ใช้ "โดรนโจมตี" ถล่มแนวหน้า "ช่องอานม้า-ช่องบก" อย่างหนักหน่วง
"เคน" เปิดเผยด้วยน้ำตา ถูกถีบออกจาก F4 เพราะไม่รับข้อเสนอ ทำให้ตำนานวง F4 สิ้นสุดลง
7 มัจจุราชเงียบ: เปิดตำนานการวางยาพิษครั้งยิ่งใหญ่ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก
“ศาลฎีกาพลิกคำพิพากษา! ดับข้อขัดแย้ง 10 ปี ตระกูลณรงค์เดช – มอบสิทธิผู้จัดการมรดกให้ ‘กฤษณ์’ คนเดียว”
กำเนิด "ละอออุทิศ" และความหมายแห่งดอกบัวชมพู: ตำนานโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของรัฐ
5 อวัยวะภายในร่างกาย ชอบออกกำลังกายแบบไหน
ทหารเขมรพลาดท่า จรวด BM-21 ระเบิดใส่พวกตัวเอง
เจอ ระเบิดแสวงเครื่อง ที่หนองหญ้าแก้ว พร้อมหัวรบ ไดนาไมต์ครบมือ
"ฮุนเซน" จิกไม่ปล่อย ขุดภาพ "อนุทิน" พาเมีย "ไปขอพรวัดเขมร" ลั่น! เคยสนิทญาติกัน
ฮุนเซน สั่งหน่วย BHQ ยิงปืนใส่รถชาวบ้าน กล่าวหาว่าไทยเป็นคนทำ
"ฮุนเซน" จิกไม่ปล่อย ขุดภาพ "อนุทิน" พาเมีย "ไปขอพรวัดเขมร" ลั่น! เคยสนิทญาติกัน
แสงจากดาวที่เราเห็นกันทุกคืน..จริงๆ แล้วมันคือแสงที่มาจากอดีต
“ศาลฎีกาพลิกคำพิพากษา! ดับข้อขัดแย้ง 10 ปี ตระกูลณรงค์เดช – มอบสิทธิผู้จัดการมรดกให้ ‘กฤษณ์’ คนเดียว”
ฮุนเซน สั่งหน่วย BHQ ยิงปืนใส่รถชาวบ้าน กล่าวหาว่าไทยเป็นคนทำ
กำเนิด "ละอออุทิศ" และความหมายแห่งดอกบัวชมพู: ตำนานโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของรัฐ
ไซยาไนด์…พิษร้ายที่ ‘ไร้สี–ไร้กลิ่น’ แต่ฆ่าได้ในไม่กี่นาที! รู้ทันพิษร้าย…ก่อนจะสายเกินแก้
ที่เขาว่ากันว่าเนื้อนกโดโด้รสชาติแย่จริงไหม? งานวิจัยบอกว่า…อาจจะไม่ใช่หรอกนะ....
แสงจากดาวที่เราเห็นกันทุกคืน..จริงๆ แล้วมันคือแสงที่มาจากอดีต
มารู้จัก แก๊งค์ค้ายา ที่เลวที่สุดใน เม็กซิโก
เจดีย์ชินพิวเม "ทัชมาฮาลแห่งลุ่มแม่น้ำอิรวดี" สัญลักษณ์ของความรักและศรัทธาทางศาสนา สวยงามมากๆเลยเน่อ

