หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิดตำนานรองเท้า Mary Jane ที่คุณไม่เคยรู้!

เนื้อหาโดย newvy

👠 แมรี่ เจน (Mary Jane): จากการ์ตูนสู่สัญลักษณ์แฟชั่นอมตะ

รองเท้า แมรี่ เจน (Mary Jane Shoes) คือหนึ่งในรองเท้าสไตล์คลาสสิกที่ยืนหยัดเหนือกาลเวลา มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ สายรัด (Strap) เส้นเดียวหรือหลายเส้นพาดผ่านหลังเท้า (Instep) ซึ่งสร้างความมั่นคงและเสริมลุคให้ดูอ่อนเยาว์แต่สง่างามเสมอ

ที่มาของชื่อ: ตัวละครในการ์ตูน

ชื่อ "แมรี่ เจน" ไม่ได้มาจากนักออกแบบชื่อดัง แต่มาจากตัวละครเด็กหญิงที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูนอเมริกันเรื่อง "บัสเตอร์ บราวน์" (Buster Brown) ซึ่งเริ่มตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1902 ตัวละคร แมรี่ เจน สวมใส่รองเท้าลักษณะนี้อย่างสม่ำเสมอ

ในปี ค.ศ. 1904 บริษัท Brown Shoe Company ได้ซื้อลิขสิทธิ์จากผู้สร้าง เพื่อใช้ตัวการ์ตูนในการโฆษณาและตั้งชื่อรองเท้าเด็กผู้หญิงที่ขายดีที่สุดของพวกเขาตามชื่อตัวละคร ทำให้ชื่อ "Mary Jane" กลายเป็นคำที่ใช้เรียกแทนรองเท้าทรงนี้อย่างเป็นทางการวิวัฒนาการสู่แฟชั่นผู้ใหญ่

เดิมทีเป็นรองเท้าสำหรับเด็ก แต่ในช่วง ยุค 1920s หรือ ยุคฟล็อปเปอร์ (Flapper Era) รองเท้าแมรี่เจนได้ก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นผู้ใหญ่

สัญลักษณ์แห่งการเต้นรำ: ด้วยสายรัดที่ช่วยยึดเกาะเท้าได้อย่างมั่นคง ทำให้รองเท้าแมรี่เจนได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มสาว ๆ ที่ใช้สำหรับเต้นรำที่มีชีวิตชีวาอย่าง ชาร์ลสตัน (Charleston) ในคลับ รองเท้าเริ่มมี ส้นสูง และถูกปรับวัสดุให้หรูหราขึ้น

ยุค 1960s และ Mod: รองเท้าสไตล์นี้กลับมาฮิตอีกครั้งในยุคแฟชั่น ม็อด (Mod Fashion) โดยเฉพาะในลอนดอน ซึ่งนักออกแบบอย่าง Mary Quant มักนำมาจับคู่กับ กระโปรงสั้น (Miniskirt)

ยุคปัจจุบัน: รองเท้าแมรี่เจนยังคงเป็นที่รักและถูกนำมาตีความใหม่อยู่เสมอ ทั้งในรูปแบบ ส้นหนา (Platform) ในยุค กรันจ์ (Grunge), แบบ บัลเลต์แฟลต ที่เรียบง่าย, หรือแบบที่มีสายรัดหลายเส้น กลายเป็นรองเท้าที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางสไตล์ ตั้งแต่ลุคสาวหวานย้อนยุคไปจนถึงสไตล์พังก์ที่แข็งแกร่ง

แมรี่ เจน จึงไม่ได้เป็นเพียงรองเท้า แต่เป็นชิ้นส่วนประวัติศาสตร์แฟชั่นที่ผสมผสานความน่ารักแบบเด็ก ๆ เข้ากับความทันสมัยที่มั่นใจของผู้หญิงในทุกยุคทุกสมัย ทำให้มันยังคงเป็นไอเทมที่คลาสสิกและทรงอิทธิพลมาจนถึงทุกวันนี้

เนื้อหาโดย: newvy
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
newvy's profile


โพสท์โดย: newvy
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33สูตรคำนวณงวด 2/1/69ซีรี่ส์เรื่อง "Signal" ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบ ซีรี่ย์เก่าของฮ่องกงเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจอาการนอยด์ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่ถ้ารุนแรงมากไปจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ทำอย่างไรให้หายนอยด์🏰 Bannerman Castle ปราสาทร้างกลางแม่น้ำฮัดสัน เงาอดีตคลังอาวุธที่หลอกหลอนผู้มาเยือนเด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอดเหยื่อปลอมรูปช็อกโกแลตแท่งกำลังจะวางจำหน่ายแล้วช้าง 7 เชือกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟในอินเดีย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
🏰 Bannerman Castle ปราสาทร้างกลางแม่น้ำฮัดสัน เงาอดีตคลังอาวุธที่หลอกหลอนผู้มาเยือนซีรี่ส์เรื่อง "Signal" ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบ ซีรี่ย์เก่าของฮ่องกง"3 สิ่งในห้าง" ที่ไม่ควรซื้อมากิน!!ย้อนรอย “รัชกาลที่ 6” ณ ออกซฟอร์ด ศึกษาอะไรบ้างก่อนเสด็จนิวัติสยาม เตรียมครองแผ่นดิน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ผลวิจัยชี้ว่าน้ำยาบ้วนปากอาจมีผลข้างเคียงที่กระทบสุขภาพด้านอื่นนอกเหนือจากช่องปากที่ไม่เคยมีการแจ้งเตือนมาก่อนเผยสาเหตุที่ทำให้ "จิมิ" หลวม..ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียวกระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัวการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ – เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร) กับ Critical Reasoning (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
ตั้งกระทู้ใหม่