หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรา “เหมาะ” กับสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันไหม?

โพสท์โดย cashflows

ไม่มีที่ดิน ไม่มีตึกของตัวเองเลย แบบนี้ยังพอจะ ขอสินเชื่อธุรกิจ ได้ไหมครับ
หรือว่าต้องรอจนมีทรัพย์สินก่อน?”

นี่คือคำถามแรก ๆ จาก “คุณต้น” เจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่มาปรึกษาผมต้นปี 2568
เขาทำโรงงานเล็ก ๆ ผลิตกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์ให้ร้านค้าออนไลน์กับแบรนด์ SME
ยอดขายโตเรื่อย ๆ แต่ติดตรง “ไม่มีทรัพย์สินใหญ่” จะไปขอสินเชื่อSMEไม่ใช้หลักประกันก็ดูไกลเกินตัว

พอเล่าไปเล่ามา เขาก็พูดต่อว่า

“เห็นโฆษณา สินเชื่อsme ไม่ใช้หลักประกัน หลายแห่ง แต่ไม่แน่ใจเลยครับว่า
ธุรกิจอย่างผมเข้าข่าย ‘เหมาะ’ หรือเปล่า กลัวเสียเวลาเตรียมเอกสารแล้วไม่ผ่าน…”

คำถามแบบนี้ ผมเจอบ่อยมากในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่
สินเชื่อธุรกิจ SMEs ทั้งระบบยังหดตัว และธนาคารระวังเรื่องคุณภาพหนี้มากกว่าปีก่อน ๆ

ข่าวก็รายงานตรงกันว่า สินเชื่อแบงก์ติดลบต่อเนื่องหลายไตรมาส SME เป็นกลุ่มที่หดตัวแรงที่สุด
เพราะถูกมองว่าความเสี่ยงหนี้เสียยังสูงอยู่ 

ในบรรยากาศแบบนี้ จึงไม่แปลกที่เจ้าของกิจการหลายคนลังเลว่า
“สุดท้ายแล้ว ธุรกิจของเรานี่แหละหรือเปล่าที่ ‘เหมาะ’ กับ สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน 2568 จริง ๆ?”

บทความนี้ ผมขอเล่า 3 เคสที่เคยเข้ามาปรึกษาจริง (เปลี่ยนชื่อและรายละเอียดบางส่วน)
เพื่อลองตอบคำถามผ่านมุมมองในฐานะที่ปรึกษาด้านการจัดหาเงินทุน
และเชื่อมกับหลักคิดจากหัวข้อ “ใคร ‘เหมาะ’ กับสินเชื่อประเภทนี้” ในบทความหลักบน EasyCashflows 


เคสที่ 1: โรงงานกล่องกระดาษของคุณต้น – ยอดเดินจริง เอกสารชัด แยกบัญชีแล้ว

คุณต้นเริ่มธุรกิจมา 3 ปี โรงงานของเขารับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้า B2B หลายราย
รายได้ส่วนใหญ่เข้าบัญชีบริษัทผ่านการโอนและเช็ค โดยมีสัญญาจ้างและใบสั่งซื้อ (PO) รองรับ

ตอนผมขอดูเอกสารเบื้องต้น ภาพที่เห็นคือ

เมื่อเทียบกับเกณฑ์ในบทความหลักที่บอกว่า “ผู้เหมาะกับสินเชื่อประเภทนี้” มักเป็น
ธุรกิจที่ยอดขายสม่ำเสมอ มีหลักฐานรายได้ครบ และแยกบัญชีธุรกิจกับส่วนตัวชัดเจน 
คุณต้นจัดว่า “เข้าเงื่อนไข” ค่อนข้างดี

สิ่งที่ผมทำในฐานะที่ปรึกษา คือช่วยเขา “แพ็กเรื่องราวของตัวเลข” ให้ทีมสินเชื่ออ่านแล้วมั่นใจว่า

  1. รายได้ที่เห็นในสเตทเมนต์ไม่ได้เป็นยอดชั่วคราว
    แต่ต่อเนื่องจากสัญญาและ PO ของลูกค้ารายเดิม–รายใหม่

  2. ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงมีความผันผวน แต่ควบคุมในกรอบที่กระแสเงินสดยังรับไหว

  3. หลังหักค่าใช้จ่ายและรวมภาระหนี้เดิมแล้ว ยังมีเงินสดเหลือเพียงพอรองรับค่างวด สินเชื่อธุรกิจ

เพราะ สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน 2568 ของหลายสถาบัน
ไม่ได้ถามแค่ว่า “มียอดขายเท่าไร” แต่ถามลึกไปถึง

ในเคสคุณต้น จุดที่ทำให้ไฟเขียวคือ

ธนาคารจึงกล้าอนุมัติวงเงิน สินเชื่อsme ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เพื่อใช้ทั้งหมุนเวียนวัตถุดิบและลงทุนเครื่องจักรเพิ่ม

Insight เชิงกลยุทธ์จากเคสนี้


เคสที่ 2: เอเจนซีโฆษณาเล็ก ๆ – ไม่มีโกดัง ไม่มีเครื่องจักร แต่มีสัญญาโปรเจกต์เต็มมือ

อีกเคสที่น่าสนใจคือ “คุณแป้ง” เจ้าของเอเจนซีโฆษณาดิจิทัล ทีมเล็ก 8 คน
ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีโกดัง ไม่มีเครื่องจักรหนักใด ๆ แต่มี “สัญญาโปรเจกต์” กับลูกค้าองค์กรค่อนข้างแน่น

โจทย์ของคุณแป้งคือ ต้องการเงินทุนมาจ้างคนเพิ่มและสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
ก่อนที่ลูกค้าจะโอนเงินตามรอบเครดิตเทอม 60 วัน

ตอนมาปรึกษา เธอบอกว่า

“เราไม่มีทรัพย์สินเป็นตึก–ที่ดินเลย กลัวว่าธนาคารจะไม่มอง
ทั้งที่มีสัญญารายได้ในมืออยู่พอสมควร”

หากย้อนกลับไปดูหัวข้อ “ใคร ‘เหมาะ’ กับสินเชื่อประเภทนี้” จะพบว่า
ผู้ประกอบการ B2B ที่มีสัญญาจ้างหรือใบสั่งซื้อ สามารถพิสูจน์เงินเข้าล่วงหน้า
เป็นกลุ่มที่เหมาะมากกับสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
 

ดังนั้น สิ่งที่เราทำคือ

  1. รวบรวมสัญญาและใบสั่งซื้อของโปรเจกต์หลัก ๆ
    แล้วสรุปให้เห็นยอด “รายได้ที่คาดว่าจะเข้า” รายไตรมาส

  2. ทำตารางแสดงให้เห็นว่า
    เงินทุนที่ขอไปจะใช้จ่ายอะไรล่วงหน้า (เช่น ค่าแรง ทีมโปรดักชัน สตูดิโอ ฯลฯ)
    แล้วรายได้จากลูกค้ากลุ่มไหนจะไหลกลับมาโปะค่างวดในเดือนใด

  3. แนบสเตทเมนต์ธุรกิจ 12 เดือนที่สะท้อนว่า
    “ถึงจะเป็นธุรกิจบริการ ไม่มีสต็อก แต่เงินเข้า–ออกของจริงเดินสม่ำเสมอ”

มองจากมุมผู้พิจารณาแฟ้ม สินเชื่อsme สมัยนี้
เคสอย่างคุณแป้งมีจุดแข็งชัดเจนมาก เพราะ

ยิ่งในสถานการณ์ที่ สินเชื่อ SMEs รวมทั้งระบบยังหดตัว และธนาคารต้องระวังเรื่องหนี้เสีย 
การมี “งานในมือ + สัญญาโปรเจกต์ชัดเจน”
จึงทำให้เอเจนซีบริการอย่างคุณแป้ง อยู่ในกลุ่มที่ “เหมาะ” กับสินเชื่อแบบไม่ใช้หลักประกันมากทีเดียว

Insight เชิงกลยุทธ์จากเคสนี้


เคสที่ 3: ร้านอาหารครอบครัว – ยอดขายดี แต่บัญชีปะปน (เกือบ “เหมาะ” แล้วแต่ยังขาดนิดเดียว)

เคสนี้เป็นตัวอย่างคนที่ “เกือบใช่”
คือมีศักยภาพจะเหมาะกับ สินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ติดบางจุดที่ต้องแก้ก่อน

ร้านอาหารของ “คุณจูน” เปิดมา 5 ปี
ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่าเดือนไหนเลย ลูกค้าประจำแน่น
แต่เวลาขอดูเอกสาร ผมเจอประเด็นใหญ่ข้อเดียวคือ

บัญชีธุรกิจ–บัญชีส่วนตัวปะปนกันหมด

เงินสดหน้าร้านส่วนหนึ่งเข้าบัญชี A
ยอดขายผ่านเดลิเวอรีเข้าบัญชี B
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหลายรายการตัดจากบัญชีเดียวกับค่าของสด

ตามเกณฑ์ในบทความหลัก “ใครเหมาะกับสินเชื่อประเภทนี้”
กิจการที่ แยกบัญชีธุรกิจกับส่วนตัว และมีวินัยชำระดี
คือกลุ่มที่ธนาคารอยากเห็นมากที่สุด 

ผมจึงไม่แนะนำให้คุณจูน “รีบยื่น” ทันที
แต่เสนอ “แผน 90 วัน” ปรับโครงสร้างบัญชีให้ใกล้เคียงภาพที่เหมาะก่อน แล้วค่อยยื่น ขอสินเชื่อธุรกิจ

แผนคร่าว ๆ คือ

  1. เลือกบัญชีเดียวเป็น “บัญชีธุรกิจหลัก” แล้วให้เงินเข้าหลัก ๆ ผ่านช่องทางนี้

  2. แยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากบัญชีธุรกิจอย่างเด็ดขาด

  3. รวบรวมยอดขายจากเดลิเวอรีและหน้าร้านให้เชื่อมกับสเตทเมนต์

  4. เริ่มออกเอกสารภาษีให้สอดคล้องกับยอดในระบบให้มากที่สุด

เพียง 3 เดือนถัดมา

ตอนนี้ ร้านของคุณจูนจึงขยับจากกลุ่ม “ยังไม่เหมาะ” มาอยู่ในกลุ่มที่
พร้อมจะยื่นขอสินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน 2568 ในวงเงินที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ

Insight เชิงกลยุทธ์จากเคสนี้


สรุป: ใครกันแน่ที่ “เหมาะ” กับสินเชื่อSMEไม่ใช้หลักประกัน

จากทั้ง 3 เคส ลองสรุปแบบภาษาคนทำธุรกิจง่าย ๆ ว่า
ถ้าคุณมีลักษณะเหล่านี้ คุณอยู่ใกล้คำว่า “เหมาะ” มากทีเดียวสำหรับ สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน 2568

  1. รายได้เดินจริง เห็นในบัญชีชัดเจน
    ไม่จำเป็นต้องยอดโตแรง แต่ขอให้ “สม่ำเสมอ อธิบายได้ และมีหลักฐานรายได้รองรับ”

  2. มีสัญญา–PO–Invoice หรือหลักฐานดีมานด์จากลูกค้า
    โดยเฉพาะสาย B2B หรือธุรกิจบริการที่รายได้มาทีละโปรเจกต์
    สิ่งเหล่านี้คือ “หลักประกันด้านกระแสเงินสด” ในสายตาผู้ให้สินเชื่อ

  3. แยกบัญชีธุรกิจ–บัญชีส่วนตัวชัดเจน และมีวินัยชำระหนี้
    สถาบันการเงินยุคนี้มองวินัยและความโปร่งใสของข้อมูลสูงมาก
    ยิ่งตัวเลขในธนาคาร ภาษี และสัญญางานเล่าเรื่องเดียวกัน
    โอกาสได้วงเงินที่เหมาะกับธุรกิจยิ่งสูง

  4. เข้าใจว่าการกู้คือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่ “เงินก้อนฉุกเฉิน” ลอย ๆ
    เจ้าของกิจการที่เตรียมแผนใช้–แผนคืนชัดเจน และมองสินเชื่อเป็นเครื่องมือขยายกำลังผลิต
    ขยายสาขา หรือเสริมสภาพคล่องเชิงรุก มักเป็นกลุ่มที่ธนาคารอยากร่วมโตด้วย

เนื้อหาโดย: cashflows
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
cashflows's profile


โพสท์โดย: cashflows
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯนิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไปพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันหาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด การเงิน
5 ความเชื่อเรื่อง “กู้ SME ไม่มีหลักทรัพย์” ที่ปี 2568 ต้องหยุดเชื่อ
ตั้งกระทู้ใหม่