สมุนไพรประกอบมนตร์อาลัมพายน์
ฝ่ายอาลัมพายน์ ก็ทาร่างของตนด้วยทิพยโอสถ เคี้ยวกินเล็กน้อย กับประพรมกายของตน ก็ร่ายทิพพมนต์ เข้าไปหาพระโพธิสัตว์. จับหางพระโพธิสัตว์คร่ามาจับศีรษะไว้มั่นแล้ว เปิดปากพระมหาสัตว์ เคี้ยวยาบ้วนใส่พร้อมเสมหะ เข้าในปากพระมหาสัตว์.
จาก ภูริทัตชาดก
ในกาลนั้น มาณพชาวกรุงพาราณสีคนหนึ่งไปเมื่องตักกสิลา เรียนมนต์อาลัมพายน์ คือมนต์สะกดจิต เรียนจบแล้วก็กลับบ้านของตน มาตามทางนั้นเห็นพระมหาสัตว์ คิดว่า เรื่องอะไรที่เราจะกลับบ้านมือเปล่า จับนาคนี้ไปแสดงการเล่นในหมู่บ้านนิคมและราชธานี ก็จะได้ทรัพย์แล้วจึงค่อยไป ได้หยิบโอสถทิพย์ ร่ายทิพยมนต์เข้าไปหานาคราช.
นาคราชตั้งแต่ได้ยินทิพยมนต์ ได้เป็นดุจซี่เหล็กร้อนยอนเข้าไปในหูของพระมหาสัตว์ดุจปลายหงอนถูกขยี้.
พระมหาสัตว์ยกศีรษะออกจากระหว่างขนดมองดูนั่น ใครหนอ เห็นหมองู จึงดำริว่า พิษของเราแรงกล้า หากเราโกรธจักพ่นลมออกจากจมูก ร่างกายของหมองูนี้ ก็จะกระจุยกระจายดุจแกลบ. ทีนั้นศีลของเราก็จะขาด เราจักไม่มองดูหมองูละ.
พระมหาสัตว์หลับตาสอดศีรษะ เข้าไประหว่างขนด.
พราหมณ์หมองูเคี้ยวโอสถร่ายมนต์ พ่นน้ำลายลงบนร่างของพระมหาสัตว์.
ด้วยอานุภาพของโอสถและมนต์ ได้เป็นดุจพุพองผุดขึ้นในที่ที่น้ำลายถูกต้อง.
จาก จัมเปยยกจริยา (จัมเปยชาดก)
ข้อมูลจากพระไตรปิฎกทั้ง ๒ ส่วนนี้ ระบุวิธีใช้มนตร์อาลัมพายน์ที่พวกครุฑใช้สะกดจับนาค ซึ่งสามารถจำแนกการรูปแบบสะกดออกได้เป็น ๓ ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้
๑ สะกดความคิดไม่ให้หนี
เป็นการสะกดขั้นต้น โดยร่ายมนตร์แบบเปล่งเสียงออกมาด้วยเท่านั้น เพราะเสียงของมนตร์ที่ถูกร่ายออกมาจะทำให้นาคที่ได้ยินรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกแท่งเหล็กร้อนไชเข้าไปในหู และถูกยอดเขาบดขยี้ศีรษะ จนเกิดความสับสนมึนงงไม่สามารถหนีไปไหนได้
*ข้อควรระวัง ขั้นตอนนี้สำคัญที่ระยะทาง หากว่าได้ยินเสียงร่ายมนตร์ดังมาแต่ไกล พวกนาคจะสามารถแทรกธรณีหลบหนีไปก่อนได้ ทางที่ดีควรร่ายมนตร์ในระยะใกล้ แบบเห็นตัวนาคที่ต้องการจะจับก่อนแล้วค่อยร่ายมนตร์ จึงจะสะกดได้
๒ สะกดพิษให้ไร้ผล
เป็นการสะกดโดยร่ายมนตร์ใส่โอสถสมุนไพร ที่ผู้จับนาคจะต้องใช้ชโลมให้ทั่วร่างกายของตน เพื่อป้องกันตัวผู้จับนาคจากการถูกพิษนาค ซึ่งนาคสามารถปล่อยออกมาได้ ๔ วิธี คือ ทางปาก (เขี้ยว) ทางตา (การมองเห็น) ทางผิวหนัง ทางลมหายใจ อย่างใดอย่างหนึ่งรึหลายอย่างรวมกันในตัวเดียว
ดังนั้น กลุ่มสมุนไพรที่จะใช้ในขั้นตอนนี้ ต้องเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติป้องกันและสลายพิษของพวกนาค เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงตัวพวกนาคได้โดยไม่ต้องกังวลกับบรรยากาศของไอพิษโดยรอบที่นาคปล่อยออกมาในอากาศ
*ข้อควรระวัง ขั้นตอนนี้สามารถละข้ามได้ แต่จะอันตรายมาก อย่างใน จัมเปยยกจริยา (จัมเปยชาดก) หมองูหนุ่มก็ใช้มนตร์อาลัมพายน์จับพญานาคโพธิสัตว์โดยไม่ได้ร่ายมนตร์ใส่สมุนไพรทาตัวเอง ซึ่งพญานาคโพธิสัตว์สามารถจัดการหมองูมือใหม่รายนี้ได้ง่ายมาก ด้วยการปล่อยพิษทางลมหายใจและดวงตา (และอาจปล่อยพิษทางเขี้ยวได้ด้วย) แต่เพราะไม่ต้องการศีลขาด พญานาคโพธิสัตว์จึงนิ่งเฉยเสีย
๓ สะกดร่างไม่ให้ขัดขืน
เป็นการสะกดโดยร่ายมนตร์ใส่โอสถสมุนไพรที่ผู้จับนาคจะต้องเคี้ยวให้ละเอียด แล้วพ่นออกมาพร้อมกับน้ำลายใส่ร่างของนาคที่ต้องการจะจับ ซึ่งจะทำให้ร่างของนาคในจุดที่ถูกสมุนไพรมนตร์และน้ำลายเกิดอาการบวมและแผลพุพอง และการพ่นยานี้จะต้องพยายามพ่นใส่นาคให้ทั่วทั้งตัว
ดังนั้น กลุ่มสมุนไพรที่จะใช้ในขั้นตอนนี้ ต้องเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง เป็นเหมือนการทำให้นาคบาดเจ็บทางกาย จากนั้นให้ยกหางนาคขึ้น ปล่อยหัวห้อยลงเบื้องล่าง เพื่อให้นาคสำรอกเอาอาหารออก่อน แล้วจึงลากนาคออกมาวางเหยียดยาวบนพื้น ใช้ไม้ง่าม (ไม้ตีนแพะ/ไม้กีบแพะ) กดศีรษะนาคเอาไว้ พร้อมใช้เท้าเหยียบนาคจนทั่วทั้งตัว เพื่อทำให้กระดูกบาดเจ็บ แล้วนาคจะอ่อนกำลังพร้อมถูกจับกุมโดยไร้กำลังต่อสู้ขัดขืน ไม่สามารถตอบโต้ใดๆ ได้อีก
*ข้อควรระวัง ขั้นตอนนี้ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด เพราะถึงนาคจะบาดเจ็บแล้ว แต่ยังสามารถตอบโต้ได้อยู่บ้าง ดังนั้น จึงต้องพ่นยาใส่เข้าไปในปากของนาคและถอนเขี้ยวออกด้วย เพราะถึงพิษนาคจะไร้ผล แต่การถูกฉกกัดด้วยเขี้ยวที่ไร้พิษ ก็ยังสามารถทำให้บาดเจ็บได้อยู่ จึงต้องป้องกันไว้ก่อน
การใช้มนตร์อาลัมพายน์จับนาคของพวกครุฑ
หากอิงตามข้อมูลการใช้มนตร์อาลัมพายน์ของมนุษย์ คาดว่าในขั้นตอนที่ ๑ และ ๒ พวกครุฑน่าจะทำแบบเดียวกับมนุษย์ แต่ในขั้นตอนที่ ๓ จะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ คือ
ในขั้นตอนที่ต้องใช้ไม้ง่ามกดศีรษะของนาคให้ตรึงติดกับพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบให้ทั่วร่างเพื่อให้กระดูกแตกหักเสียหายก่อนจับตัวนั้น ในกรณีของพวกครุฑที่เป็นเจ้าของมนตร์อาลัมพายน์ต้นตำรับก็น่าจะใช้วิธีที่ใกล้เคียงกัน
แต่แทนที่จะใช้ไม้ง่ามกดหัวนาคแล้วเหยียบให้กระดูกเสียหาย พวกครุฑกลับมีสิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่า นั่นคือแรงลมจากการกระพือปีกที่สามารถแหวกน้ำให้แยกออกจนถึงก้นมหาสมุทรได้ ซึ่งแรงลมอันมหาศาลนี้น่าจะรุนแรงมากพอที่จะอัดกระแทกใส่ร่างของนาคที่อยู่ก้นมหาสมุทรให้ตรึงติดแน่นอยู่กับที่จนขยับไปไหนไม่ได้ เหมือนการใช้ไม้ง่ามกดศีรษะไว้ อีกทั้งแรงอัดของลมนี้ ยังน่าจะบีบอัดบดขยี้กระดูกภายในกายนาคทั่วทั้งตัวให้แตกหักเสียหายเหมือนการใช้เท้าเหยียบ (กระทืบ?) อีกด้วย
ส่วนมนุษย์ที่ไม่ได้มีพละกำลังมากมายเท่าครุฑ เมื่อใช้มนตร์อาลัมพายน์จับนาค จึงต้องคิดวิธีดัดแปลง กลายเป็นการใช้ไม้ง่ามกดศีรษะและเหยียบนาคแทน
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เจาะเลขเด็ดปกสลาก งวด 2 ม.ค. 69 ต้อนรับปีใหม่ปีมะเมียทอง
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
"มาเฟีย" งานเข้า! หวั่น "ฮุนเซน" ตามเช็คบิล..หลังให้สัมภาษณ์สื่อไทย
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ อีกไม่นานก็วันคริสต์มาสแล้ว จะไปเที่ยวสังสรรค์ที่ไหน ก็เอาแต่พอดีเด้อครับเด้อ
กัมพูชาโอด นักท่องเที่ยวไปนครวัดลดฮวบๆ จากเหตุปะทะรายวัน ไทย-กัมพูชา มีการโจมตีกันใกล้เคียงพื้นที่เสียมเรียบ
เกาหลีใต้สุดเดือด!!!...ประชาชนหลายส่วนเริ่มประท้วงให้รัฐบาลเกาหลีใต้จัดการปัญหาสแกรมเมอร์ในกัมพูชาให้เด็ดขาดกว่านี้
เดือดข้ามคืน ทหารไทยเปิดฉากยิง ก่อนระดมปืนใหญ่ถล่มฐานทหารกัมพูชาพื้นที่ปอยเปต
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
"มาเฟีย" งานเข้า! หวั่น "ฮุนเซน" ตามเช็คบิล..หลังให้สัมภาษณ์สื่อไทย
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ อีกไม่นานก็วันคริสต์มาสแล้ว จะไปเที่ยวสังสรรค์ที่ไหน ก็เอาแต่พอดีเด้อครับเด้อ


