ผลเสียของการดื่มมัทฉะมากเกินไป
1.อาการแพ้ มัทฉะมีสารแทนนิน (Tannins) หากดื่มขณะท้องว่าง อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้มัทฉะ อย่างเช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ท้องเสีย หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดบริโภคและปรึกษาแพทย์
2.ก่อให้เกิดนิ่วในไต ในมัทฉะมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า ออกซาเลต (oxalate) ที่สูง เป็นสารที่ยับยั้งการดูดซึมแคลเซียมส่งผลให้ระดับแคลเซียมในปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้ไตทำงานหนัก สามารถก่อให้เกิดนิ่วในไตได้
3.รบกวนการนอนหลับ มัทฉะมีปริมาณคาเฟอีนสูง การดื่มมัทฉะมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกกระวนกระวายและวิตกกังวลได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความไวต่อคาเฟอีน จึงไม่ควรดื่มมัทฉะเกิน 2 แก้วต่อวัน (474 มิลลิลิตร) และไม่ควรดื่มในช่วงเย็นและก่อนนอน เนื่องจากคาเฟอีนจะคงอยู่ในร่างกายนานถึง 5-6 ชั่วโมง อาจรบกวนการนอนหลับ ทำให้กระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว
4.ต้นเหตุของอาการท้องผูก มีหลายคนที่ดื่มมัทฉะแล้วท้องผูก สาเหตุมาจากสารแทนนินในมัทฉะ มีฤทธิ์ในการหดตัวของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง และเกิดอาการท้องผูกตามมาได้
5.อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ คาเฟอีนในมัทฉะทำหน้าที่เหมือนยาขับปัสสาวะชนิดหนึ่ง โดยลดการดูดน้ำกลับตอนผ่านเข้าไปในไต ทำให้ไตขับน้ำออกมาเยอะขึ้น จึงทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ และนำไปสู่ภาวะขาดน้ำในที่สุด
6.ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง เพราะมัทฉะมีสารแทนนิน และ EGCG ในปริมาณสูง จึงอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ผู้ที่ที่เป็นโรคโลหิตจางหรือผู้ที่มีแนวโน้มขาดธาตุเหล็ก การบริโภคมัทฉะมากเกินไปอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้
7.การปนเปื้อนของสารเคมี อย่างเช่น ตะกั่ว หรืออลูมิเนียม หากบริโภคเป็นประจำอาจสะสมในร่างกายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ควรเลือกมัทฉะคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ
8.ทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด อย่างเช่น ยาลดความดันโลหิต อาจทำให้ความดันโลหิตลดต่ำเกินไป หรือยาลดน้ำตาลในเลือด ยาที่มีผลต่อตับ มัทฉะอาจเพิ่มการทำงานของตับ ทำให้ยาออกฤทธิ์เร็วหรือแรงขึ้น
9.ไม่เหมาะสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ เนื่องจากมัทฉะมีคาเฟอีนสูง จึงไม่แนะนำให้เด็กและสตรีมีครรภ์บริโภค รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เพราะคาเฟอีนในมัทฉะอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติได้
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
แพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัว
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ไวรัลจีน! ลูกชายวัย 8 ขวบ หั่น "สร้อยทอง" แม่เป็นชิ้นๆ แจกเพื่อนยกห้อง อ้างอยากกระชับมิตร
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
บอสชายถาม "เที่ยงคืนมาห้องผมไหม" สาวจบใหม่ตอบฉลาด คว้าตำแหน่งทันที
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
ไวรัลจีน! ลูกชายวัย 8 ขวบ หั่น "สร้อยทอง" แม่เป็นชิ้นๆ แจกเพื่อนยกห้อง อ้างอยากกระชับมิตร
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
แซลม่อน ซึมซับความเป็นญี่ปุ่น ที่หลายคนต้องการเน้นสดอร่อย
จากโซเชียลสู่พลังงานอนาคต ธุรกิจทรัมป์ควบรวมบริษัทนิวเคลียร์ฟิวชัน
บอสชายถาม "เที่ยงคืนมาห้องผมไหม" สาวจบใหม่ตอบฉลาด คว้าตำแหน่งทันที
แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าควรเปลี่ยนกางเกงชั้นในบ่อยๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
วิจัยญี่ปุ่นเผยว่า ความหนาของ "แก้ว" สามารถเปลี่ยนรสชาติได้ โดยถ้าอยากกินหวานควรเลือกแก้วที่หนา.
แพทย์อธิบายความแตกต่างระหว่าง "อาการนอนไม่หลับ" กับ "การนอนยาก" และเมื่อใดควรขอคำแนะนำทางการแพทย์




