หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ย้อนรอย "มาตามนัด" ตำนานเกมโชว์ยอดนิยมในอดีต

เนื้อหาโดย ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์

หากถามว่าคุณรู้จักเกมโชว์บ้างไหม คนรุ่นใหม่อาจจะตอบรายการร้องข้ามกำแพง ฮอลี่วู้ดเกมไนท์ไทยแลนด์ แต่หากถามว่ารู้จัก มาตามนัดกันบ้างไหม อาจจะตอบว่าเคยได้ยินชื่อ เคยดูบ้าง นั่นเพราะมาตามนัด เป็นรายการที่ชื่อติดหู รายการเกมโชว์ที่ออกอากาศยาวนาน และยังคงเป็นที่จดจำของใครๆได้ 

รายการเกมโชว์ คือ เป็นรูปแบบหนึ่งของรายการโทรทัศน์ นำเสนอโดยให้แขกรับเชิญซึ่งอาจจะเป็นดารานักแสดงหรือคนจากทางบ้าน เล่นเกมหรือเปิดป้ายเพื่อรับของรางวัลหรือเงินรางวัลต่าง ๆ บางรายการอาจจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านมีส่วนร่วมด้วยการโทรศัพท์เข้ามาร่วมสนุกหรือส่งข้อความสั้นเข้ามาตอบคำถาม ปัจจุบันมีอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงรายการเกมโชว์ที่ยอดนิยมและเป็นที่จอจำของใครหลายๆคนในยุค 80-90 เพราะทุกบ้านต้องเปิดดูกันทุกหลัง พูดคุยกันเสมอถ้าในคืนนั้นมีคนทำแจ๊คพอร์ทแตก ซึ่งผู้เขียนจำได้ตอนเด็กๆ เล่นกับเพื่อนๆก็ยังแสดงบทบาทเป็นพิธีกรในเกม และเลนเกมใบ้คำกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน

ก่อนที่จะเข้าเรื่องรายการมาตามนัด เรามาทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของรายการมาตามนัดกันก่อน...

สำหรับประวัติของรายการเกมโชว์ที่เริ่มในสหรัฐอเมริกานั้น มีต้นกำเนิดมาจากรายการวิทยุ เมื่อราวทศวรรษ 1930 โดยเริ่มจากผู้จัดรายการวิทยุมักจะสอดแทรกเกมการแข่งขันต่าง ๆ ในรายการ และให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมเล่นเกมด้วยรายการประเภทนี้ได้รับความนิยมมาก ดังนั้น ในราวทศวรรษ 1940 ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ เช่น รายการ Cash and Cary หรือ Play the game และได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ในทศวรรษดังกล่าว จึงมีการขยายตัวของทั้งรายการประเภท Game show และ Quiz show มากกว่า 15 รายการ

ในช่วงทศวรรษ 1950 เมื่อมีรายการประเภท Game show มากขึ้น แต่ละรายการจึงได้พยายามหารูปแบบแปลก ๆ เนื้อหาใหม่ ๆ มาเป็นจุดขาย เช่น การเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมรายการ หรือการให้ผู้ชมมาเล่าเรื่องชีวิตอันรันทดของตนเอง แล้วให้ผู้ชมในห้องส่งเป็นคนตัดสิน เป็นต้น กลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้ต่อมาคือ การนำรางวัลมาเป็นสิ่งเร้าใจมากยิ่งขึ้น แต่ต่อมารายการเกมโชว์ประเภทแจกรางวัลมหาศาล คือ Twenty one ถูกจับได้ว่าเป็นรายการที่หลอกลวงคนดู ดังนั้น สภานิติบัญญัติของอเมริกาจึงได้ออกกฎหมายพิจารณาและควบคุมรายการชองรางวัลแบบนี้

การแสวงหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ของรายการเกมโชว์ยังคงดำเนินต่อมาพร้อมกับการขยายตัวของรายการตลอดช่วงทศวรรษ 1970 การใช้พิธีกรคู่หญิงชายที่มีการพูดจาหยอกล้อกันบ้าง เสียดสีในเรื่องเพศบ้าง หรือการนำเอาความลับของตนมาเล่า แต่แม้กระนั้นก็ไม่มีการสร้างสรรค์อะไรใหม่ขึ้นมาในช่วงทศวรรษ 1980 ผู้ชมจึงเริ่มเกิดความเบื่อหน่าย และทำให้รายการเกมโชว์จำนวนมากต้องยุบเลิกไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษ 1980 นี้ มีสถานีโทรทัศน์เกิดขึ้นมากมายและยังออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ทางสถานีต้องพยายามผลิตและสร้างสรรค์รายการที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ รายการเกมโชว์ก็คือตัวเลือกตัวหนึ่งในช่วงนี้ มีรายการเกมโชว์บางรายการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น Wheel of Fortune, Jeopardy!, The Price is Right, Let's Make A Deal, Hollywood Squares

จากประวัติที่ผ่านมาของรายการเกมโชว์ในสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่า แม้รายการประเภทนี้อาจจะได้รับความนิยมแบบขึ้น ๆ ลง ๆ จากผู้ชม แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ รายการประเภทนี้ได้คงอยู่คู่กับโทรทัศน์มาตลอดเวลานับแต่ถือกำเนิดมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนประวัติของรายการเกมโชว์ในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2500 โดยได้นำเอาแนวความคิดมาจากรายการเกมโชว์ในต่างประเทศ และมาดัดแปลงให้เข้ากับลักษณะของไทย เช่น ปัญหาผะหมี 20 คำถาม หรือนาทีทอง จนมาถึงยุคของรายการมาตามนัด เมื่อปี พ.ศ. 2527 ผลิตโดยรัชฟิล์มทีวี ซึ่งถือเป็นเกมโชว์แรกของไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และปลุกกระแสเกมโชว์ในไทยอย่างแท้จริง ต่อมาได้มีการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ เช่น ควิซโชว์ เรียลลิตี้เกมโชว์ เป็นต้น

ลักษณะของรายการก็จะเป็นการทายปัญหาในทุกรูปแบบ ทั้งปัญหาที่เป็นความรู้แบบวิชาการ เช่น รายการช่องนำโชค หรือความรู้รอบตัวเช่น รายการบะหมี่ ต่อมาได้มีรายการเสี่ยงโชคเข้ามาผสมด้วยเช่น รายการกล่องวิเศษ ประตูดวง นาทีทอง ประวัติศาสตร์ของรายการเกมโชว์ในสังคมไทยก็มีเส้นทางที่คล้ายคลึงกับต้นตำรับคือ สหรัฐอเมริกา กล่าวคือแม้จะมีกระแสความนิยมสูงบ้างต่ำบ้าง แต่ก็เป็นรายการคู่ขวัญกับโทรทัศน์มาโดยตลอด

รายการ "มาตามนัด" ได้นำตัวอย่างรูปแบบเกมโชว์ชื่อ "Pyramid" จากสหรัฐอเมริกามาดัดแปลง และมีการตั้งคำถามให้เข้ากับบรรยากาศและรสนิยมของคนไทย เพื่อการนำเสนอในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ หรือ หลังข่าวภาคค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเสนอละครหรือภาพยนตร์ แต่เนื่องจากละครของรัชฟิล์มทีวีไม่ประสบความสำเร็จในด้านการผลิตละครเท่าที่ควร จึงนำรายการเกมโชว์มาเสนอในช่วงเวลาดังกล่าวจนได้ผล

โดยออกอากาศ มาตามนัด ครั้งแรก วันที่ 5-7 มิถุนายน พ.ศ. 2527 โดยมีอภิชาติ หาลำเจียก กับอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ เป็นพิธีกร เดิมทีรายการวางตัวพิธีกรไว้เป็นอภิชาติ กับพรพรรณ เกษมมัสสุ แต่เนื่องจากถ่ายทำเทปแรกไปแล้ว พรพรรณไม่สามารถทำหน้าที่ให้ดีได้ จึงเปลี่ยนพิธีกรหญิงเป็นอัจฉราพรรณในที่สุด 

เกมการแข่งขันในยุคแรก กำหนดให้มีผู้แข่งขันสัปดาห์ละ 5 ท่าน ซึ่งมาจากความมีชื่อเสียงทางด้านการแสดง และทางบ้านที่ส่งจดหมายสมัครเข้าร่วมรายการ โดยเริ่มเกมการตอบปัญหาในวันแรก ด้วยคำถาม 15 ข้อ พิธีกรจะอ่านคำถาม ถ้าตอบถูกจะได้คะแนนหรือแย่งคะแนนจากผู้เข้าแข่งขันที่เลือกคำถาม ตอบผิดติดลบหรือโดนแย่งคะแนน วันที่สองเป็นการ "ใบ้คำ" โดยเหลือผู้เล่นเพียง 4 คน แบ่งเป็นทีมละ 2 คน โดยกำหนดให้เป็นผู้ใบ้คำและผู้ทาย ทีมใดทายคำได้คะแนนมากที่สุดจะผ่านเข้ารอบในวันสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งรถจำลอง เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวหรือ "The Winner"เข้ารอบแจ็กพอต โดยถ้าหากเปิดแผ่นป้ายต่อรูปรถเก๋งให้เต็มคันจะได้รับของรางวัลสูงสุดเป็นรถเก๋ง และผู้เข้าแข่งขันที่ร่วมรายการทุกคน จะได้รับของรางวัลปลอบใจ ซึ่งจะมีเกมรอบสะสมรางวัลโบนัส ในแต่ละวัน

มาตามนัดเป็นรายการแรกของวงการโทรทัศน์ไทย ที่ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยดำเนินรายการ ผสานกับการดำเนินรายการของคู่พิธีกร ที่อาศัยไหวพริบปฏิภาณและเป็นกันเองมาก จึงได้รับความสนใจและความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยการแข่งขันเกมในแต่ละครั้ง จะมีการถ่ายทำในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ที่สตูดิโอรัชฟิล์ม ก่อนการออกอากาศประมาณ 2 สัปดาห์ มี บุญชาย ศิริโภคทรัพย์ ผู้บริหาร 72 โปรโมชั่น เจ้าของรายการโลกดนตรี ก็เคยเป็นผู้กำกับรายการมาตามนัดในยุคแรก

โดยในรอบแจ็คพอต ในปี พ.ศ. 2528 - 2529 จะเป็นการเปิดป้าย 15 แผ่นป้าย โดยสามารถเปิดป้ายสะสมต่อไปเรื่อย ๆ โดยห้ามเจอ "ผู้สนับสนุนรายการ , รถยนต์ , มาตามนัด" เลย แต่ถ้าในกรณีเปิดเจอป้าย "ผู้สนับสนุนรายการ" โอกาสเปิดป้ายจะเหลือแค่ 2 ครั้งทันที และถ้าในกรณีเปิดเจอป้าย "รถยนต์" หรือ "มาตามนัด" โอกาสเปิดป้ายจะเหลือแค่ครั้งเดียวทันทีและจะได้เช็คของขวัญปลอบใจไปแทน 

วิธีทำแจ็คพอตแตกคือ พยายามทำให้ป้ายทั้ง 3 ป้ายดังกล่าวอยู่ในช่วงสุดท้ายให้ได้ " ผู้สนับสนุนรายการ " + " รถยนต์ " + " มาตามนัด "

ในปี พ.ศ. 2529 เศรษฐา ศิระฉายา และญาณี จงวิสุทธิ์ เข้ามาเป็นพิธีกรคู่ต่อมา ในเทปซึ่งออกอากาศระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกของคู่พิธีกรนี้ โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย โดยเฉพาะญาณีเป็นพิธีกรหน้าใหม่ของวงการ

รูปแบบการแข่งขันเกม มีการปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง ตามความนิยมและเทคนิคการนำเสนอ โดยเกมวันแรก เป็นการตอบคำถามจากพิธีกรและจากวีทีอาร์ และจากการวาดภาพโดยอู๊ดดี้ เกมวันที่สองยังคงเป็นการใบ้คำ เกมวันสุดท้าย เปลี่ยนเป็นการวาดภาพและทายภาพ โดยผู้แข่งขันกันเอง และรอบแจ็กพอต แบบแรกเป็นการเปิดป้ายคำว่า "มาตามนัด" ให้ครบ และแบบที่สองเป็นการจับคู่ตัวตั้งและตัวตามให้ตรงกัน โดยเป็นยุคที่รายการประสบความสำเร็จถึงขีดสุด สามารถครองตำแหน่งรายการยอดนิยมอันดับ 1 อยู่หลายปี[ต้องการอ้างอิง] ส่งผลให้เศรษฐาและญาณี กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำรายการไปด้วย จนยุติการดำเนินรายการร่วมกัน ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2536

อนึ่งในยุคนี้ รายการยังเคยจัดทำเทปพิเศษ โดยออกอากาศพร้อมกันทางไทยทีวีสีช่อง 3 ,ททบ.5, ช่อง 7 สี และช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในช่วงเวลากลางวันคือ 13.00-14.00 น. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนาโดยมีเหล่าดาราจากค่ายต่าง ๆ มาร่วมเล่นเกม

สำหรับยุคนี้ เริ่มมีการใช้พิธีกรภาคสนาม และวิทยากรประจำรายการ เพื่อเพิ่มเสน่ห์และสีสันให้กับรายการ อันได้แก่ นารากร ติยายน เคยเป็นพิธีกรภาคสนามช่วง ลุยตามนัด ของเกมในวันแรก ส่วน "อู๊ดดี้" หรือ บัณฑิต ทนุโวหาร เข้ามาเป็นผู้วาดภาพการ์ตูนปริศนา ในช่วงท้ายของเกมวันแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531และจักรกฤษณ์ หาญวิชัย เป็นโฆษกในช่วงวีทีอาร์ รวมทั้งบรรยายผู้สนับสนุนรายการ โดยในรอบแจ็คพอตจะมีการเปลี่ยนไปดังนี้

ในปี พ.ศ. 2529 - พ.ศ. 2530 จะเป็นการเปิดป้าย 15 แผ่นป้าย ต่อมาเพิ่มเป็น 16 แผ่นป้าย เหมือนกับยุคก่อนหน้านี้โดยจะต้องหาป้ายรถยนต์และป้ายโลโก้รายการมาตามนัดให้ครบ 2 ป้ายจึงจะแจ็คพอตแตก แต่ถ้าในกรณีเปิดเจอป้าย " ผิดนัด " โอกาสที่จะเปิดป้ายก็จะเหลือแค่ 2 ครั้งทันทีและได้เช็คของรางวัลปลอบใจ 20,000 บาททันที

ในปี พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2533 จะเป็นการเปิดป้าย " ตัวตั้ง ตัวตาม " ตัวตั้งจากผู้สนับสนุนรายการ 16 แผ่นป้าย และตัวตามจากหมายเลข 1-16 โดยกติกาคือจะต้องหาตัวตั้งและตัวตามให้ตรงกัน 4 คู่ จึงจะแจ็คพอตแตก หากตรงกัน 3 คู่รับสร้อยคอทองคำ 10,000 บาท แต่ในกรณีเปิดไม่ตรงกันทางรายการจะมีเช็คของรางวัลปลอบใจ 20,000 บาททันที แต่ในบางนัดก็จะเล่นกันแบบเป็นคู่ โดยเดอะวินเนอร์จะเลือกตัวตั้ง 3 แผ่นป้าย ตัวตาม 4 ป้าย โดยจะต้องตรงกัน 2 คู่ จึงจะแจ็คพอตแตก ส่วนรองเดอะวินเนอร์ เลือกตัวตั้ง 2 แผ่นป้าย ตัวตาม 3 ป้าย โดยจะต้องตรงกันทุกคู่ จึงจะแจ็คพอตแตก

ในปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นไปกติกาจะคล้ายกับยุคก่อน เพียงแต่ปรับกติกาคือ จะมีตัวตั้งจากผู้สนับสนุนรายการ 16 แผ่นป้าย โดยจะแบ่งเป็น 4X4 ช่อง โดยเดอะวินเนอร์จะได้ในส่วนสีแดง 2 ส่วน รองเดอะวินเนอร์จะได้ในส่วนสีน้ำเงิน 1 ส่วน และรอบนี้คนทางบ้านก็สามารถลุ้นรถยนต์ได้เช่นกันในส่วนสีเหลือง 1 ส่วน และตัวตาม 32 ป้าย โดยแบ่งเป็นเดอะวินเนอร์ 16 ป้าย ในส่วนสีแดง และรองเดอะวินเดอร์ 16 ป้ายในส่วนสีน้ำเงิน โดยการเลือกจะสลับกันคนละ 4 ครั้ง โดยถ้าเปิดป้ายตรงกับช่องไหนช่องนั้นก็จะถูกปิดทันที โดยจะต้องเปิดป้ายให้ครบ 4 ช่อง ใน 1 ส่วน จึงจะแจ็คพอตแตกทันทีแต่ถ้าเปิดได้ตรงกัน 3 ช่อง ใน 1 ส่วน เดอะวินเนอร์จะได้รับเช็คของรางวัล 20,000 บาททันที และทั้ง 8 ป้ายทั้ง ไม่ซ้ำกันเลยจะได้รับเพิ่มไปอีก 20,000 บาทเพิ่มและของรางวัลทั้งหมดที่เปิดได้ในรอบนี้

ในปี พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2536 กติกาจะเหมือนกับยุคปี พ.ศ. 2534 ทุกประการเพียงแต่จะต้องไปลุ้นรถยนต์จากผู้สนับสนุนรายการเป็นรุ่นอะไรอีกด้วย และป้ายในปี พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2536 จากที่เดิมเป็นป้ายมีรางสอดใส่เหมือนกับยุคปี พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2534 เป็นป้ายผลักอีกด้วย โดยกติกาในรอบลุ้นรถยนต์นั้นจะมีป้ายทั้งหมด 7 ป้าย โดยแต่ละป้ายนั้นจะเป็นรุ่นของรถยนต์ที่สนับสนุนรายการอีกด้วย

รายการได้เปลี่ยนชื่อเป็น มาตามนัด ฮาวมัช เริ่มออกอากาศเดือนเมษายน พ.ศ. 2536 พร้อมทั้งเปลี่ยนพิธีกรฝ่ายหญิง เป็นจริญญา หาญณรงค์ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพิธีกรเท่านั้น

โดยเกมการแข่งขันวันแรก เป็นการตอบคำถามจากเทปรายการฮาวมัช ของประเทศญี่ปุ่น จำนวน 4 ข้อ โดยให้ผู้แข่งขันทั้ง 5 คน ทายว่าสิ่งของชิ้นนั้นมีราคาเท่าไร ผู้ช่วยพิธีกร จริญญา ต่อมาคือ นนทิยา และ ณัฏฐพล ตามลำดับ จะระบุอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในขณะนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณของผู้เล่น

ผู้ที่ทายราคาใกล้เคียงกับราคาจริงในแต่ละข้อ จะได้พินสะสมไปข้อละ 1 พิน พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาทจากทางรายการ กรณีทายราคาถูกต้อง ทางรายการจะเรียกว่า Hole in One และจะได้รับทองคำหนัก 5 บาทในข้อนั้น ผู้เข้าแข่งขันที่สะสมพินได้มากที่สุด 2 ท่านในแต่ละสัปดาห์จะผ่านเข้ารอบสู่การแข่งขันวันที่สอง ซึ่งต้องแข่งกับทีมผู้ท้าชิงเพิ่มอีก 2 คน

นอกจากนั้นแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าคนยังสามารถสะสมพินต่อไปได้เรื่อย ๆ โดยที่ทางรายการจะบันทึกพินสะสมของผู้แข่งขันแต่ละท่านไว้ กรณีที่มาร่วมรายการบ่อย ๆ ผู้เข้าแข่งขันคนใดสะสมได้ครบ 12 พิน ก็จะได้รับทองคำ 5 บาท เช่นเดียวกับผู้ที่ได้ Hole in One

เกมวันที่สอง เป็นเกมใบ้คำและเกมวาดภาพ ซึ่งใช้กติกาเดียวกันกับยุคก่อน ๆ ทีมที่ทำคะแนนรวมทั้งสองเกมได้มากกว่า จะได้เข้ารอบเกมตอบคำถามปรัศนี ซึ่งมีคู่พี่น้องดาวตลก คือ เทพ และ น้อย โพธิ์งาม เป็นปรัศนีประจำเกมนี้ (บางครั้งจะมีนักแสดงตลกท่านอื่นมาทำหน้าที่แทน กรณีที่เทพหรือน้อยไม่สะดวกร่วมรายการในสัปดาห์นั้น ๆ ) โดยมีคำถาม 3 ข้อ ข้อละ 2 ตัวเลือก ให้ผู้เล่นที่ผ่านเข้ารอบมาทายว่าคำตอบที่ถูกต้องคือคำตอบของปรัศนีท่านใด หากทายถูกจะได้คะแนน 1, 2 และ 3 คะแนนตามลำดับ หากครบ 3 ข้อแล้วคะแนนเสมอกัน จะมีคำถามสำรองเกี่ยวกับข้อมูลสถิติ ใครที่ตอบได้ใกล้เคียงที่สุดจะเป็น เดอะ วินเนอร์ ประจำสัปดาห์

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2537 รายการมีอายุครบ 10 ปี และเศรษฐาขอลาออกจากพิธีกร จึงมีการเปลี่ยนพิธีกรใหม่ โดยให้อนุรักษ์ พลอยเพชร และนนทิยา จิวบางป่า อดีตนักร้องชื่อดังมาดำเนินรายการแทน

เนื่องจากการดำเนินรายการของอนุรักษ์ และ นนทิยา ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมใหม่อีกครั้ง และกลับมาใช้ชื่อ "มาตามนัด" ตามเดิม พร้อมเปลี่ยนพิธีกรจากคู่เป็นทีม ได้แก่ สันติสุข พรหมศิริ, ณัฏฐพล กรรณสูต และ ณัฐสิมา คุปตะวาทิน เดิมเป็นพิธีกรรับเชิญประจำสัปดาห์ และในปี พ.ศ. 2538 รายการลดวันออกอากาศ เหลือเพียงวันจันทร์ เวลา 22.00-23.00 น. โดยในรอบแจ็คพอตจะเป็นการเปิดป้าย 8 จาก 16 แผ่นป้าย โดยจะต้องหาล้อรถยนต์ให้ครบ 4 ป้ายจึงจะแจ็คพอตแตก แต่ถ้าเปิดเจอโจรล้อรถก็จะโดนยึดไป 1 ป้าย โดยป้ายล้อรถจะมีมูลค่าป้ายละ 10,000 บาท จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต มาตามนัดร่วมถวายความอาลัย ด้วยการประมวลภาพของรายการที่ผ่านมา หลังจากนั้นเป็นการจัดเกมโชว์นัดพิเศษ[ต้องการอ้างอิง] โดยเทปสุดท้ายของรายการ ออกอากาศในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ก่อนเปลี่ยนเป็นรายการ "น้ำใจ" รวมจำนวนครั้งที่ออกอากาศทั้งสิ้น 1,562 ตอน

จากปี 2538 เป็นต้นมา "รายการมาตามนัด" ก็หายไปจากรายการโทรทัศน์ไทยจนถึงในปี 2555 มีการปัดฝุ่นปลุกชีพรายการมาตามนัดอีกครั้ง โดยใช้พิธีกรที่ทุกคนจดจำได้ คือ เศรษฐา กับ ญาญี ในชื่อ รายการ "มาตามนัดรีเทิร์น" แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนครั้งในอดีตเพราะออกอากาศได้เพียง 10 เดือนก็ต้องยุติการออกอากาศ เหลือเพียงชื่อ รายการมาตามนัด ในตำนาน

อย่างไรก็ตาม รายการมาตามนัด เป็นรายการที่อยู่ในความทรงจำหลายๆคนที่ทุกคนยังคงจดจำ และหลายๆรายการเกมโชว์ได้นำเกมที่ยอดนิยมของรายการมาตามนัดมาเป็นต้นแบบในการทำเกมในรุ่นต่อๆมา

****

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
50 VOTES (5/5 จาก 10 คน)
VOTED: rage555, projor007, kyogisa, Freya Rune, แด๊ดดี้จอเเดน, famai, paktronghie, davin, goldfish13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนายนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ตระกูลฮุน" ถึงคราวอวสาน! คนในชิ่งหนีปิดฮุยวัน-ปชช.หมดตัวเงินในบัญชีถอนไม่ได้เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดน้องแร็คคูนบุกร้านค้า ดื่มจัดหนัก จนเมาค้าง เห็นแล้วนึกถึงคนเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ฮิลใจ จิตวิทยา นานาสาระพัน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีสรรพนามเรียกคนรักสไตล์ "ชิก ชิก & คลู คูล": คำเรียกที่ไม่ซ้ำใคร สะท้อนความผูกพัน💰 5 ปีแห่งความหวัง: เทียบชัด! ซื้อหวย vs ลงทุนหุ้นปันผล ผลลัพธ์แบบไหนสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงไขความลับของ "วิบริสซา" ทำไม "หนวดแมว" ถึงห้ามตัดเด็ดขาด!
ตั้งกระทู้ใหม่