หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มรดกที่มีค่ามากกว่าเงิน

เนื้อหาโดย machete007

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดี แม้จะไม่ถึงกับร่ำรวยมาก แต่ด้วยความที่อยู่ในชนบท จึงทำให้ผมมีบ้านหลังใหญ่กว่าคนอื่นๆ ในตำบลเดียวกัน ผมถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่อาศัยอยู่ในตำบลเดียวกันเรียกว่า “ลูกเทวดา” เพราะเห็นผมเกิดมาบ้านรวย อยากจะได้อะไรพ่อแม่คงซื้อให้หมด ไม่มีใครรู้ความจริงเลยว่า ผมไม่เคยได้อะไรแบบนั้น

ด้วยความที่พ่อกับแม่เคยยากจนกันมาก่อน บวกกับความที่ผมเป็นพี่คนโต จึงพอจะทันเห็นระยะสร้างตัวของพ่อกับแม่ตั้งแต่จ่าความได้ ตอนนั้นร้านของแม่ยังเป็นแค่ร้านขายของชำธรรมดา ไม่ใช่มินิมาร์ตเหมือนอย่างตอนนี้ ส่วนพ่อก็ขับรถจักรยานยนต์คันเก่าๆ ที่มีสายไฟพันเต็มไปหมดไปทำงานโดยไม่มีวันหยุด พอสร้างตัวได้หน่อยถึงค่อยซื้อรถเก๋งสีดำมือสอง ซึ่งขึ้นชื่อว่าไปที่ไหนก็ต้อง “จอดเสียกลางทาง” ตลอด

มาถึงตอนนี้ ร้านขายวัสดุก่อสร้างของพ่อใหญ่โตและยังขยายไปอีก 3 สาขา แถมยกระดับจากคนเคยขับรถเก๋งมือสองมาเป็นคนที่มีรถเบนซ์ขับ แต่ถึงแม้วันนี้พ่อแม่ของผมจะมีฐานะดีแค่ไหน ท่านก็ไม่เคยให้ลูกใช้เงินฟุ่มเฟือยโดยไม่รู้คุณค่าเลย ย้อนกลับไปตอนที่ผมกำลังจะเข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 ซึ่งผมต้องย้ายเข้าไปเรียนในเมือง

แน่นอนว่าเมื่อเราต้องไปเรียนในที่ห่างไกล เราก็อยากจะมี “โทรศัพท์มือถือ” ติดตัวไว้ให้อุ่นใจ นั่นเป็นที่มาของมือถือเครื่องแรกของผม เจ้าโมโตโรล่า ราคาประมาณ 600 บาท แม้ว่ามันจะจําเป็นสําหรับการติดต่อกันเมื่อไกลตา แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ซื้อให้ และบอกให้ผมหาเงินไปซื้อเอง ตอนนั้นผมเลยทํางานรับจ้างล้างรถให้พ่อแม่ ถูบ้าน และเอาเงิน เก็บในกระปุกทั้งหมดออกมาซื้อ ที่สําคัญเงินในมือถือก็ต้องใช้เงินที่เหลือจากค่าขนมมาเติมเอง

พอขึ้น ม.2 ผมก็ย้ายกลับมาเรียนใกล้บ้าน เพราะมีปัญหาทางด้าน ภาษามลายูที่พูดไม่ได้ จึงทําให้เรียนไม่เข้าใจ ตอนนั้นมือถือรุ่น Samsung one tv ดังมาก เพราะมันดึงเสาอากาศ ออกมาดูทีวีได้ สําหรับยุคนั้นถือว่าว้าวมาก เครื่องหนึ่งราคา 2,300 บาท ด้วยความที่ผมอยากได้มาก ประกอบกับเจ้ามือถือเครื่องเดิมดันเสีย เพราะไปเผลอทําตกน้ำในระหว่างกําลังซักผ้าพอดี จึงต้องทํางานแลกมาเหมือนเดิม โดยตอนนั้นก็ยังรับจ้างล้างรถให้พ่อแม่อยู่ แต่คราวนี้ผมได้ ยกระดับฝีมือการล้างรถของตัวเองขึ้นจนคุณภาพเทียบเท่ากับร้านคาร์แคร์เลย

คือแทนที่จะล้างรถแบบธรรมดาทั่วไป ผมก็เพิ่มบริการ ดูดฝุ่น ขัดล้อรถ ขัดเครื่องหนัง และเคลือบกระจก พ่อจึงเพิ่มค่าจ้างให้ ในระดับที่ใกล้เคียงกับร้านคาร์แคร์เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 100 บาท นั่นแปลว่าผมต้องล้างรถถึง 23 ครั้ง กว่าจะเพียงพอสําหรับค่าโทรศัพท์เครื่องนั้น

ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เวลานานมาก เพราะใช่ว่าจะมี รถมาให้ล้างทุกวัน พอดีกับในจังหวะนั้นลูกพี่ลูกน้องที่โตกว่าผมประมาณ 3 ปี มา ชักชวนให้ไปรับจ้างทาสีเหล็กที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในตําบลใกล้เคียง โดยจะได้ค่าจ้างอยู่ที่ 800 บาท ทํางานประมาณ 3 วัน ผมจึงตอบตกลงทันที และลูกพี่ลูกน้องก็มารับผมที่บ้านตอนเช้า เพื่อไปทาสี โดยเขาก็สอนผมทาสีไปด้วย

แต่ก็โชคร้าย ทาไปทามา วันที่ 2 ของการทำงาน ขณะที่ผมกำลังยกเหล็กขึ้นเพื่อไปวางบนแท่นทาสีมันดันหลุดมือตกใส่เท้า ทำให้นิ้วโป้งเท้าด้านขวาผมเลือดออกเยอะมาก

ตอนนั้นมีคนงานต่างด้าวชาวพม่าคนหนึ่งเห็นผมกำลังร้องด้วยความเจ็บปวด เขาก็เดินไปเด็ดใบไม้อะไรสักอย่างมาจากต้น แล้วขยี้บีบน้ำออกมาใส่แผลผม ปรากฏว่าเลือดหยุดทันที แต่มันก็ทำให้ผมต้องหยุดทำงานตั้งแต่วันนั้น เพราะแผลค่อนข้างใหญ่ ผมจึงได้รับค่าจ้างมา 600 บาท เพราะทำงานไม่ครบตามกำหนด

ผมกลับมาล้างรถเหมือนเดิม ประกอบกับไปที่ร้านของพ่อที่เป็นสาขาย่อย เพื่อไปเป็นคนซึ่งตะปูขาย และเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมที่ได้ไปโรงเรียนในแต่ละวัน ผมทำงานเก็บเงินอยู่ 3 สัปดาห์ กว่าจะซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาได้ สิ่งที่แตกต่างระหว่างการที่พ่อแม่ซื้อให้กับเราทำงานซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง คือ การมองเห็น “คุณค่า” ของสิ่งของนั้นๆ

ช่วงที่ผมไปซ้อมกีฬาเทควันโดสมัยมัธยมต้น เพื่อนทุกคนจะมีโทรศัพท์เหมือนกันหมด แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ถ้าผมทำโทรศัพท์ตกเมื่อไหร่ ใจผมจะวูบมาก เพราะกลัวมันจะเสีย หน้าจอจะแตก ในขณะที่ถ้าเพื่อนผมทำโทรศัพท์ตก เขาจะหยิบขึ้นมาแล้วขว้างมันลงกับพื้นซ้ำ เพราะอยากให้มันพังเร็วๆ พ่อจะได้ซื้อใหม่ให้

นอกจากของที่เกี่ยวกับการเรียน พ่อแม่ผมจะไม่ซื้อของใช้ส่วนตัวใดๆ ให้เลย แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องเรียนก็ใช่ว่าจะเปย์ให้ทุกอย่าง อย่างเวลาผมไปแข่งกีฬาต่างจังหวัด แม่จะคำนวณเลยว่าใน 1 วันใช้เงินกับอะไร เท่าไหร่บ้าง เช่น

ไปแข่งทั้งหมด 3 วัน เท่ากับว่าผมจะได้เงินติดตัวไปรวมทั้งหมด 450 บาท

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ผมเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่ชั้น ม.2 โดยการไปรับจ้างเป็นครูผู้ช่วยเทควันโด ได้เงินเดือนละ 2,000 บาท จนไปเปิดชมรมเองในโรงเรียนมัธยมปลาย ได้เงินประมาณ 1-2 หมื่นบาท จนออกมาลงทุนเปิดโรงเรียนเองข้างนอกตอนเรียนมหาวิทยาลัย

ปิดเทอมผมไม่เคยหยุด วันหยุดผมไม่เคยนิ่ง เพราะผมเอาเวลาว่างไปทำงานหาเงินมาตลอดจนถึงวันนี้ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่คิด

ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ธุรกิจโรงเรียนสอนเทควันโดของผมเจ๊งไปถึงสองครั้ง และขาดสภาพคล่องทางการเงินไปหลายหน ด้วยความที่ทำธุรกิจโดยที่ไม่มี “ความรู้ทางการเงิน" ผมเคยไม่มีเงินถึงขนาดต้องไปขอยืมเงินเพื่อน 100 บาท เพื่อเอาไปซื้อมาม่าและไข่ไว้กินประทังชีวิตตลอด 2 สัปดาห์ จนวันนี้ผมสามารถสร้างธุรกิจที่ทำเงินได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย และเพียงพอสำหรับแบ่งปันให้ผู้อื่นแล้ว

เมื่อช่วงกลางปี 2020 ผมมีโอกาสกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด ผมตั้งใจถอนเงินสด 2 หมื่นบาทเตรียมไว้เพื่อแจกจ่ายให้กับย่า ยาย หลานๆ และบริจาคให้เด็กกำพร้า

แม่บอกผมว่าไม่ต้องให้เงินแม่หรอก แค่ลูกเรียนจบ หาเงินเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เดือดร้อนพ่อแม่ แม่ก็ภูมิใจแล้ว เพราะยังมีอีกหลายคนที่เรียนจบแล้ว โตแล้ว แต่ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลย

สิ่งที่ผมมักจะพูดเสมอคือ “ขอบคุณพ่อกับแม่ที่สอนให้ผมรู้จักหาเงิน และเห็นคุณค่าของเงิน ตอนนั้นผมไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพ่อแม่ถึงต้องให้ผมทำงานหาเงินเอง ในขณะที่เพื่อนแถวบ้านมีพ่อแม่คอยซื้อของทุกอย่างให้ทั้งที่ฐานะ เขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเรา ทำไมวันหยุดผมและน้องต้องตื่นมาแล้วแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะถูพื้น ใครจะล้างห้องน้ำ ใครจะขัดหน้าบ้าน จะซื้ออะไรก็ต้องทำงานหาเงินแลกมา แต่ถึงวันนี้ผมเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ผมคือ “มรดกทางความคิด” ที่มีค่ามากกว่าเงินมหาศาล

ตอนเด็กๆ ที่ผมต้องทำงานหาเงิน พ่อแม่ก็ไม่ได้ให้ต้นทุนอะไรมาก นอกจากให้ใช้แรง สมอง ความขยัน และความอดทน ทุกวันนี้ผมจึงสามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอให้มีเงินทุนก่อน หรือรอให้พ่อแม่หยิบยื่นให้ สิ่งที่ผมถูกปลูกฝังมาก็คือ ให้เชื่อในการ “ลงมือทำ”ถ้าวันนี้ใครที่ไม่ได้เกิดมามีพ่อแม่ร่ำรวย ก็อย่าได้น้อยใจ ส่วนใครที่กำลังมีลูก ก็อย่าอายที่จะสอนให้ลูกหาเงินตั้งแต่เด็กนะครับ

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025 มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลกWOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลานแฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาทีนักวิเคราะห์ นักเทรด และนักคณิตศาสตร์ประกัน
ตั้งกระทู้ใหม่