หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สอวช. และ สจล. จับมือพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำ เปิดตัว The Reverse Innovation Journey รุกนวัตกรรม AI เร่งสปีดสร้างโซลูชันธุรกิจจริง เชื่อม Corporate–Startup

โพสท์โดย pimdawan2017

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และภาคเอกชนชั้นนำ ได้แก่  บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  Amazon Web Services (Thailand) Co.,Ltd. เปิดตัวโครงการ “The Reverse Innovation Journey” เพื่อขับเคลื่อนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับภาคเอกชนรายใหญ่ สร้างผลลัพธ์ทั้งทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่จับต้องได้

รองศาสตราจารย์ ดร. คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า “สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มุ่งสร้างนวัตกรรมสู่สังคมไทยและสังคมโลกอย่างไม่หยุดนิ่ง ด้วยวิสัยทัศน์ “The World Master of Innovation ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก” มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทชั้นนำของประเทศและ Startup เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศที่เข้มแข็งและยั่งยืน แนวคิดสำคัญของโครงการคือการนำหลัก Open Innovation, Design Thinking & Design Sprint, Experiential Learning Theory และ Triple Helix Model มาใช้ ผ่านกระบวนการ Reverse Pitching ให้บริษัทขนาดใหญ่เสนอปัญหาและความต้องการ เพื่อให้นักศึกษาและสตาร์ทอัพร่วมกันหาทางแก้ไข รวมถึงพัฒนา Pilot Project เช่น Low-risk Pilot for Strategic Co-creation และ Tech Upgrade Challenge สร้างต้นแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์ภาคธุรกิจ โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นตัวกลางสำคัญเชื่อมโยงความต้องการของบริษัทขนาดใหญ่กับศักยภาพของบริษัทนวัตกรรมหรือสตาร์ทอัพ”

     ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อํานวยการสํานักงาน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า “ประเทศไทยมีจำนวนบริษัทสตาร์ทอัพและบุคลากรที่มีศักยภาพจำนวนมากในมหาวิทยาลัย แต่ยังคงพบข้อจำกัดสำคัญในด้านความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในระดับเทคโนโลยีขั้นสูง ในขณะเดียวกันบริษัทเอกชนรายใหญ่จำนวนมากก็ประสบปัญหาในการหา “พันธมิตรนวัตกรรม” ที่สามารถพัฒนาโซลูชันเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ของตนได้อย่างแท้จริง

สอวช. จึงเห็นสมควรพัฒนา “โมเดลต้นแบบการสร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่กับสตาร์ทอัพในมหาวิทยาลัย” เพื่อเป็นโมเดลการทำงานร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจและมหาวิทยาลัย ผ่านกิจกรรม อาทิ Reverse Pitching และ Collaborative Bootcamp นอกจากนี้ เรายังได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและนวัตกรรมของประเทศ ได้แก่ Central Retail Digital ภายใต้บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันธมิตรด้านเทคโนโลยี: Amazon Web Services (AWS) เพื่อสร้างโจทย์ธุรกิจจริงให้สตาร์ทอัพพัฒนาโซลูชันเชิงนวัตกรรมอีกด้วย”

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รัชนี กุลยานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและความร่วมมือระหว่างประเทศ สจล. และหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า โครงการนี้เปิดพื้นที่ให้กับบุคลากรที่มีศักยภาพหลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โดยไม่จำกัดสถานะหรือประเภทของผู้สมัคร เพื่อส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายของแนวคิดและรูปแบบการแก้ปัญหา ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาแนวคิดนวัตกรรมร่วมกับภาคธุรกิจอย่างแท้จริง โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถสมัครได้ทั้งในรูปแบบรายบุคคลหรือแบบทีม  โดยโครงการจะกำหนดให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เป็นหัวข้อหลักในการทดลองโมเดลต้นแบบในระยะเริ่มต้น แต่ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่กับบริษัทสตาร์ทอัพจะต้องอยู่ในขอบเขตของเทคโนโลยี AI เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ความร่วมมือที่อยู่ในประเด็นอื่นๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจอย่างชัดเจน เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุขั้นสูง ดิจิทัลแพลตฟอร์ม การแพทย์แม่นยำ หรือโมเดลธุรกิจใหม่ ก็สามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาภายใต้กิจกรรมของโครงการนี้ได้เช่นเดียวกัน

เราได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 ทบทวนและวิเคราะห์โมเดลต้นแบบที่ สอวช. พัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยได้ทำการปรับปรุงให้สอดคล้องและเหมาะสมสําหรับการต่อยอดนําไปใช้กับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการออกแบบกิจกรรม “Corporate Reverse Pitching” เพื่อระบุปัญหาทางธุรกิจจากบริษัทใหญ่ แล้วใช้เป็นโจทย์พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกับสตาร์ทอัพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเวทีให้บริษัทขนาดใหญ่สามารถ “นำเสนอปัญหา” หรือ “ช่องว่างทางธุรกิจ” ที่ต้องการเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาแก้ไข เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพ นักวิจัย หรือผู้พัฒนาเทคโนโลยี สามารถพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาแบบตอบโจทย์จริง

และในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2568 เริ่มพัฒนาแนวทางความร่วมมือและจัดกิจกรรมการนําเสนอโจทย์การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากบริษัทใหญ่ (Corporate Reverse Pitching)

ธันวาคม 2568 จัดกิจกรรม Collaborative Bootcamp เพื่อให้บริษัทขนาดใหญ่และบริษัทสตาร์ทอัพเกิดการทํางานและต่อยอดการแก้ปัญหาโจทย์ร่วมกัน

มีนาคม 2569 จัดกิจกรรมการนําเสนอผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกัน (Reverse Pitching Demo Day)

เมษายน–พฤษภาคม 2569 จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ในประเด็นการสร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทสตาร์ทอัพ ร่วมกับ Key Opinion Leader (KOL)

มิถุนายน 2569 จัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการขับเคลื่อน และขยายผลความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพในประเทศไทย สำหรับการต่อยอดนำโมเดลต้นแบบไปใช้ต่อไป

 

สอวช. และ คณะทำงานโครงการฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ The Reverse Innovation Journey จะเป็นโมเดลต้นแบบที่จะช่วยขับเคลื่อน ส่งเสริม สนับสนุนและขยายผลความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและสตาร์ทอัพที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานอื่นๆ ในอนาคตต่อไป

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่:

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)

ฝ่ายนโยบายนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ

โทร. 082-471-5919 (ชลันลักษณ์)

อีเมล chalanlak@nxpo.or.th

เนื้อหาโดย: pimdawan2017
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
pimdawan2017's profile


โพสท์โดย: pimdawan2017
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฮุนเซน สั่งซื้ออาวุธเพิ่ม จากตลาดมืด4 นักษัตรดวงเศรษฐี ยิ่งอายุมากยิ่งเงินไหลมา—ช่วงพีคอยู่ที่วัยกลางคนบอยแบนด์ เขมร กล่าว จะไม่ขึ้น คอนเสิร์ตที่ไทยAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีพ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 เรื่องที่ลูก ‘ขอแล้วห้ามให้’ ไม่อย่างนั้นน้ำตาอาจเช็ดหัวเข่าตอนบั้นปลายชีวิตเมื่อ'สาโท' VS 'สาเก' ความเหมือนที่เเตกต่างในวัฒนธรรมการหมักเหล้าไทย-ญี่ปุ่นทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บมือขาด ขณะใช้เครื่องยิงระเบิดทหารไทยยึด 'ปราสาทคนา' คืน 100 % แล้ว‘ดวงตาแห่งซาฮารา’ ไม่ใช่ฝีมืออุกกาบาต แต่คือแผลเป็นของโลกอายุ 100 ล้านปีเดือด!! Miss Cosmo ลาว อ้าง พระแก้วมรกต มาจาก เขมรสาวขับกระบะชนรถบรรทุกอ้อยเสียชีวิต พบรูปเด็กสองคนในกระเป๋าBM-21 กัมพูชาตกใส่ชุมชนฝั่งไทย ชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส 2 คน บ้านไหม้เสียหาย 2 หลัง ผู้ว่าฯ สั่งห้ามกลับบ้านเด็ดขาด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บอยแบนด์ เขมร กล่าว จะไม่ขึ้น คอนเสิร์ตที่ไทยทหารไทยยึด 'ปราสาทคนา' คืน 100 % แล้วนอนกอดตุ๊กตาช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ความเชื่อเกี่ยวกับโรคมะเร็งผิดๆ ที่ยังเจอกันในโลกออนไลน์ต้นไม้ให้อะไรดีๆต่อเราแพทย์เตือนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำลายไต ซึ่งพบมากในหนุ่มสาว ก่อนที่จะสายเกินไปสายดื่มต้องรู้ 6 ทริค กินเหล้ายังไงไม่ให้สุขภาพพัง ไม่ตุยก่อนเพื่อน
ตั้งกระทู้ใหม่