ฉีดวิตามินผิวใสคืออะไร เจ็บไหม? เห็นผลลัพธ์ภายในกี่วัน?
การฉีดวิตามินผิว หรือ IV Drip Vitamin Therapy คือการฉีดวิตามินเข้มข้นเข้าเส้นเลือดโดยตรง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เร็วกว่าการทานวิตามิน
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ฉีดวิตามินผิวใส หรือที่บางคลินิกเรียกว่า ดริปวิตามินผิว แล้วสงสัยว่ามันต่างจากการกินวิตามินทั่วไปยังไง จริง ๆ แล้วทั้งสองวิธีมีเป้าหมายเหมือนกัน คือการบำรุงผิวและร่างกายให้สดใส แข็งแรงขึ้น แต่จุดต่างที่ชัดเจนคือวิธีการดูดซึม แต่ไม่ว่าจะเรียกว่า ฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามินผิว ก็ล้วนเป็นวิธีการบำรุงผิวและร่างกายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หรือผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดูสดใสอยู่เสมอ
การฉีดวิตามินผิว ดริปวิตามินผิว คืออะไร?
การฉีดวิตามินผิว คือ การนำวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดโดยตรง ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้รวดเร็วและเต็มที่กว่าการทานแบบเม็ดหรือแคปซูล ส่วนดริปวิตามินผิวจะเป็นการเติมวิตามินผ่านทางเส้นเลือดเหมือนกับการให้น้ำเกลือ ใช้เวลาประมาณ 10-45 นาที วิธีนี้จะค่อย ๆ ปล่อยสารบำรุงเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวและร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว มีอะไรบ้าง?
การฉีดวิตามินผิว หรือการให้วิตามินผิว กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยบำรุงผิวและสุขภาพจากภายใน เหมาะกับคนที่อยากบำรุงผิวเร่งด่วน ต้องการให้เห็นผลเร็วกว่าการทานอาหารเสริมหรือวิตามินเม็ดทั่วไป มีข้อดีดังนี้
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูสดใสมีออร่า
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งหรือขาดน้ำ
- เสริมภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
- ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย เหมาะกับคนพักผ่อนน้อยหรือทำงานหนัก
- ช่วยบำรุงจากภายใน เนื่องจากร่างกายดูดซึมวิตามินและสารอาหารได้เต็มที่กว่าการทานแบบปกติ
ฉีดวิตามินผิว เจ็บไหม?
คำถามยอดฮิตของคนที่อยากฉีดวิตามินผิว คือ “ฉีดผิวเจ็บหรือเปล่า?” จริง ๆ แล้วขั้นตอนนี้ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่หลายคนกังวล ความรู้สึกเจ็บจะมีเพียงตอนที่เข็มจิ้มผ่านผิวหนังเพื่อเปิดเส้นเลือดเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที โดยทั่วไปแล้วไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ มีเพียงอาการตึงเล็กน้อยบริเวณที่ถูกฉีดวิตามินบำรุงผิว ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ทนได้
ฉีดวิตามินผิวปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า?
หลายคนอาจกังวลว่าการฉีดผิวอันตรายไหม? จริง ๆ แล้วการทำหัตถการนี้ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยมาก โดยเฉพาะเมื่อทำกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
เนื่องจากวิตามินฉีดผิวที่ใช้ในการฉีดส่วนใหญ่เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว เช่น วิตามินซี กลูต้าไธโอน หรือคอลลาเจน ทำให้ผลข้างเคียงจากการฉีดวิตามินผิวมักเกิดขึ้นน้อยมาก อาจมีเพียงรอยช้ำเล็กน้อยตรงบริเวณที่เข็มแทง หรือรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองในไม่กี่วัน
หลังฉีดวิตามินผิวกี่วันเห็นผล ต้องรอนานไหม?
หลังฉีดวิตามินผิว ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิว สุขภาพร่างกาย และสูตรวิตามินที่ใช้ ในคนที่พึ่งเคยฉีดครั้งแรกอาจเริ่มรู้สึกว่าผิวสดใสขึ้น ผิวดูชุ่มชื้น และอาการอ่อนเพลียลดลง ในการฉีดครั้งที่ 2–3 ผิวจะเริ่มกระจ่างใส จุดหมองคล้ำค่อย ๆ จางลง แลดูสุขภาพผิวดีขึ้น และถ้าเติมวิตามินผิวอย่างต่อเนื่องประมาณ 4–6 ครั้งขึ้นไป ผิวจะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายแข็งแรงขึ้น และผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่ แพทย์มักจะแนะนำให้ทำเป็นคอร์สฉีดวิตามินผิว โดยในช่วงแรกอาจเริ่มฉีดทุก 1–2 สัปดาห์ จากนั้นเมื่อผิวฟื้นฟูแล้ว สามารถเว้นระยะเป็นเดือนละ 1-2 ครั้งเพื่อคงสภาพผิวใสได้ยาวนาน
แนะนำวิธีดูแลผิวด้วยตัวเอง ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดผิวอยู่ได้นานขึ้น
หลังจากการฉีดวิตามินผิว ถึงแม้ว่าผิวจะได้รับการบำรุงเต็มที่แล้ว แต่การดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนและคงอยู่ยาวนานขึ้น เคล็ดลับที่ควรทำ ได้แก่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดนเฉลี่ยวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และโปรตีน ช่วยเสริมการบำรุงผิวจากภายใน
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้เซลล์ผิวฟื้นฟูได้เต็มที่
- เลี่ยงแสงแดดจัด และใช้ครีมกันแดดทุกวัน ป้องกันรังสี UVA/ UVB ทำลายคอลลาเจนในผิว
- หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวการทำลายวิตามินและคอลลาเจนในร่างกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้สารอาหารและวิตามินส่งถึงผิวได้ดียิ่งขึ้น
ฉีดวิตามินผิว เผยผิวใส เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว
การฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามินผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยในช่วงจิ้มเข็ม แต่ถือว่ามีความปลอดภัยและมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยเท่านั้น ถ้าทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและเห็นผลชัดเจน ควรดูแลตัวเองต่อเนื่อง เช่น ดื่มน้ำ พักผ่อนเพียงพอ และทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
