5 ดาราชายไทย “ยืนหนึ่ง” ในตลาดบันเทิงจีน (2567–2568)

ยุคบันเทิงไร้พรมแดน แฟนดูละครไทยได้จากห้องนอนที่หนานหนิง ส่วนไลฟ์ของศิลปินจีนก็เด้งขึ้นหน้าจอคนกรุงเทพในสามวินาที ทุกอย่างวิ่งเร็ว และ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” ก็วิ่งทัน เห็นชัดจากดาราชายไทยหลายคนที่ข้ามภาษาและวัฒนธรรมไปครองใจแฟนจีนแน่นหนา ทั้งงานแสดง รายการ แฟนมีตติ้ง ไปจนถึงพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ใหญ่

ชวนเปิดทำเนียบ 5 คนที่ “ยืนหนึ่ง” ในจีนช่วงปี 2567–2568 พร้อมเล่าทำไมพวกเขาเข้าถึงคนดูแดนมังกรได้อยู่หมัด

1) ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล

นักบุกเบิกตัวจริงของสายจีน ไมค์สร้างพอร์ตในจีนมาหลายปีและยังไต่ระดับต่อเนื่อง ปี 2568 ขยับขึ้นเป็นพระเอกหนังจีนเรื่อง Nobody But You และยังมีภาคต่อในคิว—นี่ไม่ใช่ดวง แต่คือผลลัพธ์ของความสม่ำเสมอ: ภาษาจีนที่ใช้การได้ งานที่ต่อเนื่อง และฐานแฟนใน Weibo หลักล้านที่ยังโต้ตอบกับเขาทุกครั้งที่ปล่อยผลงานใหม่

โมเมนต์ที่แฟนจีนหลงรัก: คาแรกเตอร์อบอุ่น สุภาพ พูดจีนจริงจังไม่ใช่แค่ท่อง และมีภาพลักษณ์ “ทำงานหนักแล้วค่อยพูด” ซึ่งถูกจริตคนดูจีนพอดี

2) บี้ ธรรศภาคย์ ชี (บี้ KPN)

จากคนร้องเพลงสู่นักแสดงเต็มตัวในจีน ซีรีส์ My Girlfriend is an Alien ทำให้ชื่อ “บี้” ติดลมบนทั่วเอเชีย และปี 2568 ยังมีงานสม่ำเสมอ ทั้งกองถ่ายและกิจกรรมกับแฟน ๆ จุดแข็งของเขาคือเสน่ห์สบาย ๆ ที่กล้องรัก ผสมกับวินัยการทำงานแบบมืออาชีพ

โมเมนต์ที่แฟนจีนหลงรัก: เคมีคู่จอที่ชัด ยิ้มทีทั้งไทม์ไลน์นุ่ม และบุคลิก “เป็นกันเองแต่เป๊ะเวลา” ซึ่งทีมกองถ่ายจีนชื่นชม

3) นนกุล (นน ชานน สันตินธรกุล)

จุดระเบิดความดังในจีนจากหนัง ฉลาดเกมส์โกง (Bad Genius) รายได้ถล่มทลายในจีนกลายเป็นวีซ่าด้านความสามารถให้เขาได้ต่อยอดซีรีส์จีนหลายเรื่อง ปี 2568 ก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ภาพลักษณ์ “ใส–ฉลาด–ตั้งใจ” ทำให้แบรนด์และผู้จัดชอบชวนไปร่วมงาน

โมเมนต์ที่แฟนจีนหลงรัก: การแสดงที่มีรายละเอียด (micro-expression) และมู้ด “good boy แต่มีไฟ” เหมาะกับบทวัยมหา’ลัย–วัยทำงานต้น ๆ

4) ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์

รุ่นใหญ่ที่ชื่อยังขายได้ไกลในจีน จากกระแสละครไทยยุคทองที่ออกอากาศในจีน สงครามนางฟ้า, ค่าของคน ฯลฯ ความนิยมไม่เคยตก เดือนกันยายน 2568 ยังจัดแฟนมีตติ้งในจีนได้แน่นเอี๊ยด แฟนรุ่นแรกยังอยู่ แฟนรุ่นใหม่ก็เพิ่งรู้จักจากแพลตฟอร์มสตรีมมิง

โมเมนต์ที่แฟนจีนหลงรัก: ความเป็น “leading man คลาสสิก” สุขุม น่าเชื่อถือ และมารยาทหน้าบ้าน–หลังบ้านที่มืออาชีพมาก

5) บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล

ดาวรุ่นใหม่ที่พุ่งแรงในจีนจากซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ ก่อนข้ามเส้นเป็นศิลปินเต็มตัว ปี 2567 สร้างประวัติศาสตร์จัดคอนเสิร์ตเดี่ยว Billkin Tempo Tour 2024 ที่เมืองฝูโจว คนดูแน่นหลายหมื่น—ชัดแจ้งว่าจีนไม่ได้รักแค่บทบาทในจอ แต่รักตัวศิลปินคนนี้จริง ๆ

โมเมนต์ที่แฟนจีนหลงรัก: เสียงร้องมีเอกลักษณ์ สไตล์มินิมัลแต่มีรสนิยม และการสื่อสารกับแฟนที่ทั้งอบอุ่นและฉลาด

ยังไม่พอ แถวสอง–แถวค้ำก็สุดจริง

มาริโอ้ เมาเร่อ คือไอคอนคลาสสิกจาก สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ที่ยังติดความทรงจำผู้ชมจีนแม้ช่วงหลังโฟกัสงานไทยเป็นหลัก ส่วนสายวายคือกองทัพใหญ่ ไบร์ท–วิน เป็นต้นแบบคลื่นลูกใหม่ที่จีนรู้จักจากซีรีส์แล้วตามต่อทุกแพลตฟอร์ม ขณะที่ฝั่งจีนอย่าง ดีแลน หวัง (หวังเฮ่อตี้) ก็มีรากเชื่อมโยงไทย—ยิ่งทำให้วัฒนธรรมบันเทิงสองประเทศเดินไป–มาหากันสนุกขึ้น

ถอดสูตรแบบคนดูทั่วไป ไม่ใช่ทฤษฎี...ทำไม “ผู้ชายไทย” ถึงเวิร์กในจีน? 

• ภาษากับวินัย: คนที่ลงทุนกับภาษาจีนจริงจัง งานจะไหลลื่นกว่า ทั้งบทสัมภาษณ์ รายการ และการคุยกับทีมงานในกอง

• คาแรกเตอร์ชัด: ตลาดจีนกว้าง แต่คนดูชอบของ “จำง่าย” อบอุ่นจริง ขำจริง สุภาพจริง หรือเท่มาก ๆ ไปเลย

• สื่อสารบนแพลตฟอร์มจีน: Weibo / Douyin / RED (Xiaohongshu) ไม่ใช่แค่โพสต์ แต่ต้อง “อยู่เป็น” คอนเทนต์สม่ำเสมอ โต้ตอบจริง มีภาษาภาพที่แฟนจีนคุ้น

• แฟนเซอร์วิสแบบพอดี: แฟนมีตติ้ง ไปร่วมอีเวนต์ แคมเปญการกุศล—ทั้งหมดช่วยเพิ่ม “ความใกล้” ที่คนดูจีนให้ค่ามาก

• ทีมหลังบ้านแข็ง: ผู้จัดการ–ล่าม–PR–พาร์ตเนอร์จีน ถ้าอ่านเกมตลาดเป็น งานก็ยาวและยั่งยืน

ดาราหนุ่มไทย ไม่ได้มาเดี่ยว ๆ เขามากับเรื่อง “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เพลง อาหาร แฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยว ภาษา และท่าทีของสังคมไทยที่เปิดรับ ผสมกันแล้วกลายเป็น แบรนด์วัฒนธรรม ที่ดูเป็นมิตร ชวนเข้าหา และส่งต่อได้ง่าย นี่คือเหตุผลที่เส้นทางไทย–จีนยังเปิดกว้าง และมีที่ให้รุ่นใหม่ขึ้นมาอีกมาก

ทั้งห้าหนุ่ม ไมค์, บี้, นนกุล, ป้อง, บิวกิ้น ไม่ได้ดังเพราะกระแสวูบเดียว แต่เพราะ “มืออาชีพ+คาแรกเตอร์+สื่อสารเก่ง” ถ้าอยากเห็นธงไทยปักในตลาดจีนมากขึ้น เราคงไม่ต้องรอปาฏิหาริย์ แค่ทำการบ้านต่อเนื่อง ภาษาดี งานดี ทีมดี และเคารพคนดูเสมอตลาดใหญ่อย่างจีน พร้อมรับ คนดูพร้อมรัก ที่เหลือคือเราจะ “ไปให้ถึง” และ “อยู่ให้เป็น” แค่นั้นเอง