“รักชาติผิดทาง” สาวเขมรเปิดร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น ใช้ธงชาติไทยเป็นพรม สุดท้ายลูกค้าหาย-ร้านเจ๊ง
“รักชาติผิดทาง” สาวเขมรเปิดร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น ใช้ธงชาติไทยเป็นพรม สุดท้ายลูกค้าหาย-ร้านเจ๊ง
กรณีดราม่าที่กำลังเป็นกระแสร้อนในโลกออนไลน์ขณะนี้ เกิดขึ้นกับสาวเชื้อสายกัมพูชาที่เดินทางไปเปิดร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่น โดยในช่วงแรก ร้านแห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ลูกค้าแน่นแทบทุกวัน เนื่องจากเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติใกล้เคียงต้นตำรับและบรรยากาศร้านที่ดูทันสมัย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างคาดไม่ถึง เมื่อเจ้าของร้านตัดสินใจ “แสดงความรักชาติ” ในแบบของตนเอง โดยการนำ “ธงชาติไทย” ไปปูเป็นพรมทางเข้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าย่ำผ่านก่อนเข้ามาในร้าน เธอให้เหตุผลว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความรักและความภาคภูมิใจในประเทศไทย แต่กลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นจำนวนมาก
หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่ให้เกียรติ” และ “ไม่เคารพสัญลักษณ์ของชาติ” ซึ่งในหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นเอง ก็ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะธงชาติเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของความเป็นชาติ ไม่ควรนำไปใช้ในทางที่สื่อถึงการเหยียบย่ำหรือดูหมิ่น
เสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตไทยและกัมพูชาต่างก็รุนแรง เช่น
“ก็เพราะจิตใจมึงต่ำตรม เอาธงชาติไทยไปเหยียบย่ำ ถ้าเขาเอาธงประเทศมึงไปเหยียบมึงจะคิดยังไง”
“ประเทศอื่นเขาไม่ทำกันหรอก มีแต่พวกเขมรที่ทำแบบนี้”
“น่าเห็นใจนะ แต่ก็เป็นเวรกรรมของคนไร้ความคิด”
“เปิดร้านอาหารไทย แต่ทำลายภาพลักษณ์เอง”
นอกจากเสียงจากโซเชียลแล้ว ลูกค้าญี่ปุ่นจำนวนมากก็ตัดสินใจเลิกไปใช้บริการร้านดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายตกลงอย่างหนัก ภายในเวลาไม่กี่เดือน ร้านที่เคยเต็มไปด้วยลูกค้าก็กลับเงียบเหงา จนในที่สุดเจ้าของร้านต้องออกมาไลฟ์สดระบายความในใจ ว่ารู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมความตั้งใจ “รักชาติ” ของเธอกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ร้านเจ๊ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมให้ความเห็นว่า เรื่องนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึง “ความต่างทางวัฒนธรรม” และ “ความละเอียดอ่อน” ในการใช้สัญลักษณ์ของชาติ ในประเทศญี่ปุ่นและหลายประเทศในโลกตะวันตก การใช้ธงชาติในทางที่ผิดมักถูกมองเป็นเรื่องไม่เคารพ และส่งผลต่อภาพลักษณ์ทันที โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องพึ่งพาความเชื่อมั่นและความรู้สึกของผู้บริโภค
กรณีนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า การทำธุรกิจในต่างประเทศต้องให้ความสำคัญกับความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น การสื่อสาร และภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่เกี่ยวพันกับชาติและวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ยิ่งต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าร้านดังกล่าวจะกลับมาเปิดได้อีกหรือไม่ แต่เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผู้ประกอบการที่คิดจะใช้สัญลักษณ์ของชาติเป็นเครื่องมือทางการตลาดหรือการแสดงออกทางการเมือง เพราะอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดเงื่อนไขพนักงาน "ไดกิ้น" ที่จะได้รับทอง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย




