หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"บ้านดินถู่วโหลว" มรดกโลกแห่งสถาปัตยกรรมของชาวฮากกา

เนื้อหาโดย ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์

   เคยเห็นที่อาคารทรงกลมเชื่อมต่อกันหลายๆอาคาร โดยสิ่งก่อสร้างนี้เป็นภูมิปัญญาสถาปัตยกรรมเรือนล้อมมังกรของชาวจีนแคระ หรือชาวฮากกาในมณฑลฝูเจี้ยน ขนาดองค์การนาซ่ายังตกใจเมื่อมองจากภาพถ่ายดาวเทียม เพราะรูปร่างดูเหมือนฐานยิงจรวดใต้ดิน เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ที่ยูเนสโกยกย่องให้เป็น "มรดกโลก"

    ชาวจีนแคะ หรือ ฮากกา คือ ชาวจีนฮั่นกลุ่มหนึ่ง มีการตั้งถิ่นฐานกระจายไปในหลายมณฑลของประเทศจีนได้แก่ ระหว่างมณฑลกวางตุ้งและมณฑลฝูเจี้ยน, และยังครอบคลุมบางส่วนลึกเข้าไปในมณฑลเจียงซี โดยใช้ภาษาจีนฮากกา

   โดยกล่าวกันว่ามีบรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดบริเวณมณฑลเหอหนานและซานซี ทางตอนเหนือของจีนเมื่อราว 2,700 ปีที่แล้ว บรรพบุรุษของชาวจีนฮากกาอพยพลงใต้ เนื่องจากความไม่สงบทางสังคม การลุกฮือ และการรุกรานจากผู้ยึดครองต่างชาติตั้งแต่ยุคราชวงศ์จิ้น ค.ศ. 265-420 กระแสการอพยพครั้งต่อ ๆ มาเกิดขึ้นเมื่อยุคสิ้นราชวงศ์ถัง 

    เมื่อประเทศจีนแตกออกเป็นส่วน ๆ และช่วงราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรทางภาคเหนือลดลง ส่งผลให้ชาวจีนฮากกาอพยพลงใต้ คือช่วงที่ชาวหนี่ว์เจินสามารถยึดครองเมืองหลวงของราชวงศ์ซ่งเหนือไว้ได้ ,ในช่วงที่ราชวงศ์ซ่งถูกโค่นล้มโดยชาวมองโกล ในสมัยราชวงศ์หยวน และช่วงสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งถูกโค่นล้มโดยชาวแมนจูซึ่งก่อตั้งราชวงศ์ชิงในเวลาต่อมา

     คำว่า แคะ นั้นกล่าวกันว่าเป็นคำเรียกที่ค่อนข้างใหม่ ระหว่างรัชสมัยของจักรพรรดิคังซี ได้โปรดให้มีการอพยพผู้คนแถบภูมิภาคชายฝั่งเป็นเวลาเกือบทศวรรษ เพื่อลดอิทธิพลที่ยังหลงเหลือของราชสำนักหมิง ซึ่งหลบหนีไปยังดินแดนซึ่งกลายเป็นไต้หวันในปัจจุบัน หลังจากที่กำจัดภัยคุกคามได้แล้ว พระจักรพรรดิ์คังซีได้มีพระราชโองการ โปรดให้มีการอพยพผู้คนเข้าไปในดินแดนนี้อีกครั้ง ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก มีการมอบเงินให้ครอบครัวแต่ละครอบครัว ไว้สำหรับเริ่มชีวิตใหม่โดยลงทะเบียนว่าเป็น "ครอบครัวผู้มาเยือน" 

    ส่วนชนดั้งเดิมซึ่งอพยพกลับมายังถิ่นเดิม ก็ได้พบกับการเข้ามาของผู้มาอยู่ใหม่ ชนดั้งเดิมก็เกิดความหวงแหนในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์กว่าของพวกเขา จึงผลักดันชนกลุ่มใหม่ออกไปรอบนอก หรือไปตั้งหลักทำมาหากินในเขตที่มีแต่ภูเขา เมื่อเวลาผ่านไปกระแสการต่อต้านในท้องถิ่นก็แผ่ขยาย และกล่าวกันว่าคำว่า "แคะ" กลายเป็นคำที่ชนดั้งเดิมใช้เรียกผู้มาอยู่ใหม่อย่างดูแคลน แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกสิ่งดังกล่าวก็จางลง และมีการยอมรับคำว่า "แคะ" ให้ใช้เรียกชาวจีนฮากกาได้ในที่สุด เป็นที่รู้กันดีว่าชาวนาจีนฮากกา ใช้เท้าขณะอยู่ในท่ายืนดึงวัชพืชออกจากนาข้าว ซึ่งเป็นความหยิ่งในวัฒนธรรมของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ยอมคุกเข่า และคลานบนดินแดนที่เป็นของชาวแมนจู 

       กรณีนี้ก็มีความน่าสนใจประการหนึ่ง เพราะว่าชนที่มาอยู่ใหม่อาจไม่ใช่บรรพบุรุษ ของผู้พูดภาษาจีนฮากกาทั้งหมด เนื่องจากคำว่าแคะเป็นคำที่เหมาคลุม จากการศึกษารากเหง้าสืบสายชาวกวางตุ้งและแคะ พบว่าแซ่บางแซ่มีบรรพบุรุษเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มชนอื่น 

 

    ดั้งนั้นบรรพบุรุษของชาวฮากกาจึงเป็นชนกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพลงมาทางใต้ เราสามารถพบเห็นชาวฮากกาในมณฑลทางใต้ของจีน เช่น กวางตุ้ง ฮกเกี้ยนตะวันตก เจียงซี ตอนใต้ของหูหนาน กว่างซี ตอนใต้ของกุ้ยโจว ตะวันออกเฉียงใต้ของเสฉวน เกาะไหหลำและไต้หวัน

 

     ถึงแม้ว่าชาวฮากกาจะมีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างเฉพาะตัวจากประชากรโดยรอบ แต่ชาวฮากกาก็ไม่ถูกจัดว่าเป็นชนกลุ่มน้อย และยังคงถูกจัดว่าเป็นชาวจีนฮั่น ในความขัดแย้งนี้ ชนกลุ่มเดิมถือว่าชาวฮากกาไม่ใช่คนจีนอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าจากการสืบรากเหง้าซึ่งพบว่ามีบรรพบุรุษสายเดียวกัน ชาวฮากกาจึงเป็นชาวจีนเหมือนเพื่อนบ้านของพวกเขา

      ชาวจีนฮากกามักใช้ภาษาจีนฮากกาในการสนทนาติดต่อกันในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันนั้นมีการวิจัยของมหาวิทยาลัยภาษาศาสตร์ในฮ่องกงว่า ภาษาจีนฮากกาจัดอยู่ในภาษาถิ่นของภาษาตระกูลจีนฮั่นซึ่งมีความใกล้เคียงกับภาษาจีนกลางมากที่สุด เมื่อเทียบกับภาษาจีนท้องถิ่นอื่น ๆ และภาษาจีนฮากกายังได้รักษาสำเนียงภาษาจีนฮั่นโบราณไว้ได้มากที่สุด

     อย่างไรก็ตาม ชาวฮากกานั้น นอกจากมีวิธีชีวิต มีภาษาที่เป็นอัตลักษณ์ เป็นของตนเองแล้ว ชาวฮากกายังมีภูมิปัญญาในการสร้างบ้านที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก บ้านที่สร้างด้วยดินหรือที่รู้จักกันในนามว่าถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน หรือ บ้านดินแห่งฝูเจี้ยน

     บ้านดินแห่งฝูเจี้ยน เป็นสถาปัตยกรรมชุมชนขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยและการป้องกันภัย มีลักษณะเป็นอาคารทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมที่สร้างจากดิน อิฐ และหิน โดยมีกำแพงสูง หนา และมีทางเข้าเพียงทางเดียวเพื่อความปลอดภัย ภายในมีพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย เช่น ที่พักอาศัย ห้องเก็บอาหาร คลังอาวุธ และพื้นที่รวมญาติ ถือเป็นมรดกโลกที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการพึ่งพาตนเองของชาวฮักกา 

ลักษณะเด่นของบ้านดินถู่วโหลว ดังนี้

      การป้องกัน: ถูกสร้างขึ้นในอดีตเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี จึงมีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ มีทางเข้าเพียงทางเดียว ไม่มีหน้าต่างที่ระดับพื้นดิน และมีกำแพงที่แข็งแรง 

    การพึ่งพาตนเอง: ภายในบ้านมีทุกอย่างที่ชุมชนต้องการในการดำรงชีวิต เช่น ห้องเก็บอาหาร ห้องน้ำ โรงเก็บอาวุธ และพื้นที่สำหรับวัด 

    รูปแบบทรงกลม : เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะในมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งมีลักษณะเหมือนตึกทรงกลมขนาดใหญ่ 

   การรวมกลุ่ม: แต่ละบ้านสามารถรองรับครอบครัวได้หลายครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดความเป็นชุมชนที่แข็งแกร่ง 

    สถาปัตยกรรม: ผสมผสานธรรมชาติและมนุษย์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว มองจากมุมสูงจะดูเหมือนดอกเห็ดขนาดยักษ์ พบมากในมณฑลต่างๆ ดังนี้

    มณฑลฝูเจี้ยน : เป็นที่ตั้งของบ้านดินถู่วโหลว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

    เมืองเหมยโจว : ในมณฑลกวางตุ้งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวฮากกา 

    มณฑลเจียงซี : เป็นอีกหนึ่งถิ่นกำเนิดสำคัญของชาวฮากกา 

    ประเทศไต้หวัน: มีบ้านทรงกลมฮากกา ที่เป็นมรดกทาวัฒนธรรม 

   ฮ่องกง: ยังคงมีหมู่บ้านฮักกาที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 

    บ้านดินถู่โหลวได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 32 เมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่นครเกแบ็ก ประเทศแคนาดา ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้

     เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว

     เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

      เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา

   จะเห็นได้ว่าความคิดในการออกแบบบ้านดินถู่โหลวของชาวฮากกา เป็นภูมิปัญญาแห่งการก่อสร้างสถาปัตยกรรมที่ใครเห็นต้องทึ่ง อึ้งไปพร้อมๆกัน

********

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (5/5 จาก 8 คน)
VOTED: projor007, แด๊ดดี้จอเเดน, famai, kyogisa, davin, Freya Rune, goldfish13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้านตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทยถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออกเปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง
ตั้งกระทู้ใหม่