สร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้โดดเด่นด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล

สร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้โดดเด่น 

ด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล

บริษัท เพียว เดอริมา แลบบอราทอรีส์ จำกัด เป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง (Makeup) และสกินแคร์ โดยให้บริการแบบครบวงจร (One stop service) ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การพัฒนาสูตรมาตรฐานที่มีคุณภาพ หรือการคิดค้นสูตรเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงการผลิตและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดภายใต้มาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีคุณภาพ ปลอดภัย น่าเชื่อถือและมีความสม่ำเสมอในทุกชิ้นการผลิต

นอกจากนี้เรายังมีบริการขึ้นทะเบียน อย. และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องสำอาง และเรายังให้บริการการผลิตแบบยืดหยุ่น รองรับการผลิตทั้งล็อตเล็กและล็อตใหญ่ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มสร้างแบรนด์และผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง

ประเภทเครื่องสำอาง (Makeup) ที่ Pure Derima Laboratories รับผลิต

Pure Derima Laboratories รับผลิตเครื่องสำอาง (Makeup) หลากหลายประเภท โดยให้บริการพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การคิดสูตร ผลิต ไปจนถึงการให้คำปรึกษาด้านการตลาด เพื่อช่วยให้แบรนด์เครื่องสำอางของคุณเติบโตอย่างมืออาชีพ โดยประเภทเครื่องสำอางที่ Pure Derima Laboratories รับผลิต มีดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก

ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากเป็นหนึ่งในกลุ่มเครื่องสำอางที่ขายดีตลอดกาล เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใช้เป็นประจำทุกวัน Pure Derima Laboratories รับผลิตทั้งลิปบาล์ม ลิปทรีตเมนต์ ลิปสครับ และลิปบาล์มเปลี่ยนสี โดยแต่ละผลิตภัณฑ์สามารถปรับสูตรได้ตามความต้องการของแบรนด์ เช่น การเพิ่มสารสกัดจากธรรมชาติ กลิ่นหอมเฉพาะ หรือการปรับสีเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับสินค้า

2. ลิปสติก

ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ถือว่าเป็น “ไอเท็มคู่ใจ” ของผู้หญิงทุกคน Pure Derima Laboratories มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรลิปสติกหลายประเภท เช่น ลิปสติกเนื้อแมท ลิปสติกเนื้อกลอส ลิปสติกเนื้อออย และลิปสติกทินท์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทั้งสายแฟชั่น สายบำรุง หรือสายความงามที่ต้องการสีติดทน

3. ผลิตภัณฑ์รองพื้น (Foundation)

รองพื้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ Pure Derima Laboratories รับผลิตรองพื้นหลายเนื้อ เช่น รองพื้นเนื้อลิควิด รองพื้นเนื้อครีม และรองพื้นเนื้อมูส แต่ละสูตรสามารถปรับให้เหมาะกับผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสมได้ รวมทั้งเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันน้ำ กันแดด หรือมีส่วนผสมบำรุงผิวเพิ่มเติม

สูตรมาตรฐานเครื่องสำอาง (Makeup) พร้อมผลิตที่ Pure Derima Laboratories

สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ยังไม่มีสูตรเป็นของตัวเอง Pure Derima Laboratories มีบริการสูตรมาตรฐานที่พร้อมผลิตได้ทันที โดยสูตรเหล่านี้ผ่านการทดสอบและพัฒนาแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยและมีคุณภาพสูง เช่น PDL Power Matte Lip Colour, PDL Lip Tint, PDL Lip Balm, PDL Magic Lip Treatment และอีกหลายสูตรที่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้

ข้อดีของการผลิตเครื่องสำอาง (Makeup) ที่ Pure Derima Laboratories

• ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ทีม R&D ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอาง ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและตอบโจทย์ตลาด
• บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา พัฒนาสูตร ผลิต ตรวจสอบคุณภาพ ไปจนถึงการตลาดและการขึ้นทะเบียน
• มาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, ISO, Halal, Green Industry และ ASEAN Cosmetic GMP
• ยืดหยุ่นในการผลิต รองรับทั้งล็อตเล็กและล็อตใหญ่ เหมาะกับแบรนด์ใหม่และผู้ประกอบการรายใหญ่
• ควบคุมคุณภาพเข้มงวด ทุกขั้นตอนการผลิตเครื่องสำอางมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

มาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางที่ Pure Derima Laboratories

Pure Derima Laboratories ดำเนินการผลิตเครื่องสำอางตามมาตรฐานสากลและมาตรฐานการผลิตที่เคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ มาตรฐานที่ใช้รวมถึง

1. GMP (Good Manufacturing Practice)
• เป็นมาตรฐานหลักที่ควบคุมการผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริม
• ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบโรงงาน การจัดเก็บวัตถุดิบ การควบคุมคุณภาพ และการบรรจุภัณฑ์
2. ISO Certification (หากมี)
• บางผลิตภัณฑ์อาจได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO เช่น ISO 22716 สำหรับเครื่องสำอาง
3. การทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
• มีการทดสอบผิวหนัง (Skin Patch Test)
• การประเมินประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามคำอ้าง (Claims)
4. การควบคุมวัตถุดิบและส่วนผสม
• วัตถุดิบที่นำมาใช้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความบริสุทธิ์
• เลือกส่วนผสมที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับผิว
5. เอกสารและการติดตาม (Documentation & Traceability)
• มีเอกสารครบถ้วนสำหรับการผลิตทุกล็อต
• สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

Pure Derima Laboratories เน้นการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และเชื่อถือได้

บริการด้านการจดแจ้งและเอกสารทางกฎหมาย 

บริการด้านการจดแจ้งและเอกสารทางกฎหมายของ Pure Derima Laboratories มีความครบถ้วนและครอบคลุมทุกขั้นตอนเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือ โดยสามารถสรุปเป็นข้อได้ดังนี้

1. การจดแจ้ง อย.
• ช่วยเจ้าของแบรนด์ยื่นขอขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
• ตรวจสอบเอกสารและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
2. การขอเครื่องหมายฮาลาล
• ให้คำปรึกษาและจัดเตรียมเอกสารสำหรับการขอเครื่องหมายฮาลาล
• ตรวจสอบส่วนประกอบและกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานฮาลาล
3. การจัดทำเอกสารส่งออก
• จัดทำเอกสารที่จำเป็นสำหรับการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
• ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการและเพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ
4. การขอ COA (Certificate of Analysis)
• ออกเอกสารยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนด
• รับรองว่าส่วนประกอบและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตรงตามสเปค
5. การจัดทำ MSDS (Material Safety Data Sheet)
• จัดทำเอกสารความปลอดภัยของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์
• ช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและพนักงานได้ครบถ้วน

บริการเหล่านี้ช่วยให้เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย, มีความน่าเชื่อถือ, และลดความเสี่ยงด้านเอกสารและข้อกำหนดทางกฎหมาย

ระยะเวลาการผลิตเครื่องสำอาง (Makeup)

ระยะเวลาในการผลิตเครื่องสำอางขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและความซับซ้อนของสูตร โดยเฉลี่ยใช้เวลา 14 – 30 วัน หากเป็นสูตรมาตรฐานหรือมีการปรับเล็กน้อยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หากเป็นการพัฒนาสูตรใหม่อาจใช้เวลานานขึ้น

เคล็ดลับสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง (Makeup) ให้เติบโตไว

การสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง (Makeup) ให้เติบโตอย่างรวดเร็วต้องมีการวางกลยุทธ์ที่รอบด้าน ไม่ใช่แค่การมีผลิตภัณฑ์ที่ดีเพียงอย่างเดียว นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละข้อที่คุณกล่าวถึง:

1. กำหนดจุดยืนของแบรนด์และตลาดเป้าหมาย
• ระบุให้ชัดเจนว่าแบรนด์ของคุณต้องการสื่อสารอะไร เช่น เน้นความเป็นธรรมชาติ, ลักซ์ชัวรี่, หรือเทรนด์แฟชั่น
• ศึกษากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งเรื่องอายุ, ไลฟ์สไตล์, พฤติกรรมการซื้อ และสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากเครื่องสำอาง
• สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) เช่น โลโก้, โทนสี, ภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าจดจำง่าย
2. พัฒนาเครื่องสำอางคุณภาพสูง
• เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผิว รวมถึงมีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อความมั่นใจ
• พิจารณาความยั่งยืน เช่น การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ, บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล, หรือ cruelty-free
• ตอบโจทย์ปัญหาความงามจริง ๆ ของผู้บริโภค เช่น รองพื้นที่ไม่อุดตัน, ลิปสติกที่ติดทน, หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวเฉพาะกลุ่ม
3. ติดตามเทรนด์และฟีดแบ็ก
• อัปเดตเทรนด์เครื่องสำอางอย่างต่อเนื่อง เช่น สีสันที่กำลังฮิต, รูปแบบการแต่งหน้าใหม่ ๆ, หรือเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์
• เก็บฟีดแบ็กจากลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น รีวิวออนไลน์, โซเชียลมีเดีย, หรือแบบสอบถาม เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาด
4. สร้างความน่าเชื่อถือและโปร่งใส
• เลือกโรงงานผลิตที่ได้รับมาตรฐาน GMP, ISO, หรือการรับรองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• สื่อสารข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างโปร่งใส เช่น ส่วนประกอบ, วิธีใช้, การทดสอบความปลอดภัย
• สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการตลาดเชิงเนื้อหา เช่น ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผิว หรือการเลือกสีเครื่องสำอางที่เหมาะสม
5. กลยุทธ์การตลาดและการเข้าถึงลูกค้า
• ใช้โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ในการสร้างกระแสและเพิ่มการมองเห็น
• ทำโปรโมชั่นและแพ็คเกจพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่า
• จัดกิจกรรมอีเวนต์, เวิร์กช็อป, หรือการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงและความสัมพันธ์กับแบรนด์

การเติบโตอย่างรวดเร็วของแบรนด์เครื่องสำอางต้องอาศัยทั้งคุณภาพของผลิตภัณฑ์, การตลาดที่ชาญฉลาด, การสร้างความน่าเชื่อถือ และการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง