หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“โหรฌานศิลป์” คิดค้นวิชาดูลายมือตำรับไทย (การอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาฬ)

เนื้อหาโดย แด๊ดดี้จอแดน โค้ดชีวิตพลิกชะตา

        หากพูดถึง นายเสวี ยกย่องกุล หลายคนคงสงสัยว่าเขาคือใคร? หากพูดถึงท่านอาจารย์โหรฌานศิลป์ ผู้คิดค้นวิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาฬ และเป็นหมอดูที่ถูกจับเข้าคุกในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี พ.ศ. 2502 เนื่องจากพิมพ์ใบปลิวทำนายว่า "ประเทศไทยจะต้องถูกภัยสงคราม" วันนี้ผู้เขียนเป็นผู้ที่สนใจในวิชานี้ วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาฬ หรือเป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่า ดูลายมือตำรับโหรฌานศิลป์ ซึ่งมีความแตกต่างจากการอ่านลายมือที่มองพื้นที่บนฝ่ามือเป็นเนิ่นแห่งดวงดาว ดังนั้นผู้เขียนจึงจะขอเล่าชีวประวัติของท่านให้ฟังพอสังเขป จากหนังสือ“วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล” เล่ม 1 ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2512) ดังนี้

            อาชีพ “หมอดู” เป็นหนึ่งในอาชีพที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน และเป็นอาชีพที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของคนในสังคมไทยอย่างแปลกประหลาด หมอดูบางคนมีความสำคัญต่อชะตาชีวิตบ้านเมืองถึงขนาดเป็นผู้กำหนดเวลากระทำการลงมือปฏิวัติ/รัฐประหาร บางคนเป็นศูนย์รวมเครือข่ายทางการเมือง และบางคนก็มีอิทธิพลสำคัญต่อการตัดสินใจทางการเมืองของผู้นำระดับนายกรัฐมนตรี แต่มีหมอดูคนหนึ่งที่ต้องประสบชะตาชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะไป “ทำนายดวงชะตาบ้านเมืองว่าจะเกิดสงครามใหญ่”

             ในยุคเผด็จการทหารจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จนถูกสั่งจับขังคุกอยู่นานเสียหลายปี  นั่นคือ นายเสวี ยกย่องกุล หรือเป็นที่รู้จักในวงการหมอดูว่า “โหรฌานศิลป์”

            “โหรฌานศิลป์” เคยเขียนแนะนำประวัติของตัวเองไว้ในหนังสือ “วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล” เล่ม 1 ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2512) ซึ่งเป็นหนังสือสอนวิชาดูลายมือทำนายดวงชะตาที่เขาเขียนขึ้นด้วยตนเอง ว่า 

            “นามจริงของข้าพเจ้าคือ นายเสวี ยกย่องกุล เกิดที่ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2451 เป็นวันจันทร์ เดือน 7 แรม 2 ค่ำ เวลาเที่ยง เป็นบุตรของ นายกล่อม ยกย่องกุล และนางบุญเลื่อน ยกย่องกุล ปู่ชื่อย่อง ย่าชื่อแจ่ม” 

            โหรฌานศิลป์ เล่าว่า เขาสนใจในวิชาโหราศาสตร์มาตั้งแต่อายุยังน้อย เคยเรียนและฝึกวิชาพยากรณ์หลายอย่างทั้งตัวเลข ผูกดวง กร๊าฟชีวิต แต่วิชาที่เขาสนใจและชำนาญมากที่สุดคือ วิชาดูลายมือ(วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล) ซึ่งเขา “ทดสอบอย่างไม่ยอมท้อถอยตลอดระยะเวลา 20 ปี เศษ” อันนี้ถือว่า เป็นวิชาที่สุดยอดมากหากสนใจเรียนปัจจุบันยังมีผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้นี้อยู่ คือ ท่านอาจารย์ธาตรี เทียมทอง จากสถาบันโหราศาสตร์วิทยา

            โหรฌานศิลป์ เริ่มมีชื่อเสียงในช่วงปลายทศวรรษ 2490 เมื่อเขาเริ่มทำนายดวงชะตาทางการเมืองเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2499 โดยพยากรณ์ว่า “อีก 1 ปีต่อไปจะเกิดปฏิวัติขึ้นในแผ่นดิน รัฐประหารจะหมดอำนาจ จอมพล ป. กับรัฐมนตรีบางคนจะเดินทางไปต่างประเทศนั้นภายหลังจะไปเสียชีวิตในต่างประเทศ”

            ทว่า การทำนายทางการเมืองครั้งแรกของโหรฌานศิลป์ นั้น ไปถึงที่ไหน ที่นั่นก็รุมด่า เพราะคนทั่วไปไม่เชื่อว่ารัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะถึงกาลอวสาน เนื่องจากเป็นรัฐบาลมายาวนานเกือบสิบปี อีกทั้ง ตัวจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยังได้รับฉายาทางการเมืองในขณะนั้นว่า “นายกรัฐมนตรีตลอดกาล” กระนั้น ผลจากการออกมาทำนายพยากรณ์ครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวโหรฌานศิลป์ ไปสอบสวน แต่ก็มิได้จับคุมขัง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่า “สติไม่ดี”

            แต่ทว่าสุดท้ายแล้วหลังผ่านพ้นไป 1 ปี เหตุการณ์ทางการเมืองก็ปรากฏตามคำทำนายของโหรฌานศิลป์ เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ผลปรากฏว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม จำต้องลี้ภัยไปประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ขุนพลคู่ใจอย่าง พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ก็จำต้องลี้ภัยไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเสียชีวิตในต่างแดนทั้งคู่ 

            อย่างไรก็ในช่วงปี พ.ศ.2499 – 2500 โหรฌานศิลป์ มิได้มีสถานะทางสังคมเป็น หมอดูหรือโหรการเมือง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะปรากฏข้อมูลอันน่าสนใจว่า โหรฌานศิลป์ยังเป็น “นักพูดไฮค์ปาร์” ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2499 และยังมีตำแหน่งเป็น “โฆษกของพรรคขบวนการไฮด์ปาร์ค” วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามด้วย

            ภายหลังในรัฐบาลพลเอกถนอม กิตติขจร (ยศในขณะนั้น) ภายใต้การควบคุมดูแลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้าบริหารงานบ้านเมืองได้ราว 3 - 4 เดือน โหรฌานศิลป์ ก็ “เรียกทัวร์มาลง” ด้วยการออกมาทำนายดวงชะตาบ้านเมืองอีกครั้ง โดยทำนายว่า

            “จากวันที่พยากรณ์ไปแล้ว 7 เดือน จะเกิดการปฏิวัติขึ้นในแผ่นดิน ปฏิวัติชนะไม่นองเลือด รัฐธรรมนูญ 2475 ล้ม สภาผู้แทนล้ม ประเภท 2 ล้ม พรรคสหภูมิชาติสังคมล้ม จอมพลสฤษดิ์ถ้าไม่เสียชีวิตจะต้องเดินทางออกไปนอกประเทศ” 

            การทำนายในครั้งนี้ของ “โหรฌานศิลป์”  ส่งผลทำให้เขาถูก หนังสือต่าง ๆ ลงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย หนังสือพิมพ์พยากรณ์สารของสมาคมโหรลงในเชิงวิพากวิจารณ์ตำหนิต่อว่า หาว่าไม่มีความรู้อะไรแล้วพยากรณ์เพื่อหาชื่อเสียง กระนั้น อีกไม่กี่เดือนต่อมา “จอมพลสฤษดิ์ก็ทำการรัฐประหารอำนาจตัวเอง ล้มรัฐบาลพลเอกถนอม และเปลี่ยนระบบการปกครองของไทยเป็น ‘เผด็จการ’ ในนาม ‘คณะปฏิวัติ’ ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2501”

            หากใครสนใจเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองไทย คงพบจะทราบว่า การปฏิวัติ 20 ตุลาฯ ของจอมพลสฤษดิ์ในครั้งนั้น ภารกิจสำคัญคือการจับกุมปัญญาชนนักคิด นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ ตลอดจนนักการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่ามาจาก “ลัทธิคอมมิวนิสต์เป็นภัยยิ่งใหญ่” จนทำให้คณะปฏิวัติ “ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปใช้วิธีใด นอกจากยึดอำนาจและทำการปฏิวัติ ถึงกระนั้น อีกไม่กี่วันต่อมา ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 17 ที่เน้นย้ำถึงการควบคุมและวางระเบียบการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ ได้มีข้อความใจความสำคัญว่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่อำนาจตักเตือน ยึดทำลายหนังสือพิมพ์ หรือสั่งถอนใบอนุญาตผู้พิมพ์โฆษณา บรรณาธิการ หรือเจ้าของหนังสือพิมพ์ ที่มี 

“ข้อความทำนายในทางที่อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลแก่ประชาชนในโชคชะตาของบ้านเมือง”

            ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คณะปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นกำจัดและจำกัดแนวคิดและนักคิดปัญญาชนที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบการปกครองของคณะปฏิวัติเท่านั้น แต่ยังใส่ใจ “อารมณ์ความรู้สึก” ของประชาชนที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยอาจพร้อมที่จะเชื่อและตื่นตระหนกไปกับคำทำนายต่าง ๆ ของบรรดาหมอดูการเมือง

            ดังนั้น ในยุครัฐบาลคณะปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ การทำนายดวงชะตาบ้านเมืองจึงเป็นสิ่งต้องห้าม และแน่นอนว่า โหรฌานศิลป์ คือหนึ่งในหมอดูการเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่เขาเล่าว่า ในปี พ.ศ. 2501 เขาถูกสมาคมโหรฯไล่ออกจากการเป็นสมาชิก และตำรวจรวมหนังสือพยากรณ์จำนวน 361 เล่มของเขา เอาไปเผาไฟจนหมด

            ชื่อเสียงของ “โหรฌานศิลป์” ขึ้นสู่จุดสูงสุดในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2502 เมื่อเขาได้ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์สารเสรี ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในขณะนั้น พร้อมพาดหัวข่าวตัวใหญ่ว่า  “จับโหรยุยงให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง”

            หนังสือพิมพ์สารเสรีรายงานว่า ที่นายเสวี ยกย่องกุล ถูกจับเพราะเป็นโหรเถื่อน (เนื่องจากเขาถูกขับออกจากสมาชิกสมาคมโหร) และได้พิมพ์ใบปลิวโฆษณาทำนายดวงชะตาบ้านเมืองว่า “บ้านเมืองจะแหลกลาญ” และ “อีก 24 เดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะต้องถูกภัยสงครามและย่อยยับ คนทั้งประเทศจะแหลกลาญไปหมด เดือดร้อนกันทุกย่อมหญ้า ฉะนั้น ขอให้พี่น้องชาวพระนครเตรียมตัวรับสถานการณ์สงครามนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปอีก 24 เดือน”

            การทำนายดวงชะตาบ้านเมืองว่าจะเกิดสงครามใหญ่ของ โหรฌานศิลป์ ทำให้เขาถูกตำรวจสันติบาลแจ้งข้อกล่าวหาทันทีว่า “มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์และยุยงส่งเสริมให้ราษฎรกระด้างกระเดื่อง”

             เนื่องจาก “พยากรณ์บ้านเมืองโดยพิมพ์ใบปลิวแจกจ่ายไปในหมู่ประชาชน มีข้อความเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงและมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์” รวมทั้งปรากฏผลการสอบสวนปรากฏเพิ่มเติมว่า “ยังมีส่วนพัวพันในกรณีพิมพ์ใบปลิวยุยงกรรมกรสามล้ออีกด้วย”

            ดังได้กล่าวแล้วว่า ยุครัฐบาลคณะปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ การทำนายดวงชะตาบ้านเมืองเป็นสิ่งต้องห้าม และโดยเฉพาะการทำนายว่าบ้านเมืองจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ก็ดูจะเป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะจอมพลสฤษดิ์ได้ให้ความสนใจกรณีโหรฌานศิลป์ ถึงกับลงมาทำการสอบสวนด้วยตนเอง โดยจอมพลสฤษดิ์ใช้เวลาสอบสวนประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อต้องการจะทราบเจตนาที่โหรฌานศิลป์กระทำไปว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่บ้าง เพราะทำนายแล้วพิมพ์ออกจ่ายแจกไปทั่วประเทศ

            ท้ายที่สุด เรื่องการทำนายดวงชะตาบ้านเมืองของโหรฌานศิลป์ จบลงเมื่อเจ้าหน้าที่ส่งตัวโหรฌานศิลป์ “เข้า รพ.บ้า” (โรงพยาบาลปากคลองสาน หรือ โรงพยาบาลศรีธัญญา) เนื่องจากแพทย์ได้วินิจฉัยลงความเห็นว่าเขามีสติวิปลาสเพ้อฝันฟั่นเฟือง อย่างไรก็ตาม  เพียงประมาณ 1 เดือน โหรฌานศิลป์คงได้รับการปล่อยตัวออกมา เพราะตามบันทึกเขาเล่าถึงประสบการณ์ในครั้งนี้ว่า 

            “ครั้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2502 นั้น ข้าพเจ้าก็ถูกจอมพลสฤษดิ์จับขัง ตั้งข้อหาว่าเป็นคอมมูนิสม์ ส่งโรงพยาบาลบ้าหาว่าเป็นบ้า และมาปล่อยเอาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2503 รวมเวลาถูกขังอยู่ในที่ต่าง ๆ รวมเวลา 6 เดือนด้วยกัน” 

            โหรฌานศิลป์ เล่าว่า ตลอดเวลาระยะ 6 เดือนในโรงพยาบาลปากคลองสาน (โรงพยาบาลศรีธัญญา) และคุกลาดยาว ทำให้วิชาดูลายมือของเขาพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก เพราะได้ดูเส้นลายมือของ “คนติดตารางหลายพวกหลายเหล่า” จนสามารถเขียนและปรับปรุงแก้ไขต้นฉบับหนังสือ ‘วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาฬ’ ซึ่งเป็นหนังสือสอนวิชาดูเส้นลายมือที่เขาค้นพบและเขียนขึ้นด้วยตนเองมาตั้งแต่ในช่วงปลายทศวรรษ 2490 จนสำเร็จได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2503 ในชื่อหนังสือ "วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล ชั้นประถม ก"  (READING SCIENCE OF THE RADIO CODE OF THE UNIVERSE) 

        แม้ภายหลังได้รับการปล่อยตัว “โหรฌานศิลป์” ต้องประสบกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจถูกจับตาเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ และไม่สามารถทำนายดวงชะตาบ้านเมืองเพื่อเรียกกระแสหรือ “ทัวร์ลง” ได้เช่นดังก่อน รวมทั้งประสบยังปัญหาชีวิตหลายอย่าง แต่ทว่า เขาก็มีความพยายามเป็นอย่างมากในการเขียนหนังสือ “วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล” ที่เขาค้นพบให้ครบสมบูรณ์จำนวนทั้งหมด 4 เล่ม โดยมีข้อมูลว่า โหรฌานศิลป์ เคยท้อใจถึงขนาดเขียนเอกสารเขียนบันทึกไว้ว่า “ไม่สามารถพิมพ์ตำราให้จบได้ เพราะไม่มีเงิน” และหากตายไปเสียก่อน ก็ขอให้หอสมุดแห่งชาติติดตามเอาต้นฉบับมาเก็บไว้ “ต่อไปภายหน้าผู้โชคดีจะได้พิมพ์ตำรานี้ออกสู่สายตาชาวโลก”

            อย่างไรก็ดี ความปรารถนาของโหรฌานศิลป์ก็สำเร็จดังหวังเมื่อเขาสามารถตีพิมพ์หนังสือ ‘วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล’ เล่มที่ 2 และเล่มที่ 3 ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2507 และปิดท้ายภาคสมบูรณ์เล่มที่ 4 ในปี พ.ศ. 2510 

            ในปัจจุบันหลายท่านอาจไม่รู้จัก “โหรฌานศิลป์” แต่สำหรับวงการวิชาโหราศาสตร์หรือหมอดูลายมือของเมืองไทย โหรฌานศิลป์ได้รับการยอมรับในฐานะ “บรมครู” โดยเฉพาะตำราหนังสือของโหรฌานศิลป์เรื่อง “วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล”  (READING SCIENCE OF THE RADIO CODE OF THE UNIVERSE) หรือ “วิชาการอ่านเส้นบนลายมือแบบใหม่” ทั้งหมด 4 เล่ม (เล่ม 1 – 4) เป็นหนังสือที่หมอดูลายมือในเมืองไทยยกย่องและนำมาใช้ศึกษาเป็นตำรา “เล่มครู” รวมทั้งยังจัดได้ว่าเป็นหนังสือประเภทระดับ “หายาก” เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดาวงการหมอดูเมืองไทย ณ ปัจจุบัน

            แต่หากใครสนใจใน“วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล”  (READING SCIENCE OF THE RADIO CODE OF THE UNIVERSE) หรือ “วิชาการอ่านเส้นบนลายมือแบบใหม่”ตำรับโหรฌานศิลป์ ทั้งหมด 4 เล่มนี้ หรืออยากที่จะเรียนวิชานี้ ผู้เขียนเพียงแค่เล่าประสบการณ์ในการเรียนในสถาบันโหราศาสตร์วิทยาว่า ทุกเส้นลายมือสามารถบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตได้ “วิชาการอ่านโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล”  วิชานี้จัดเป็นสมบัติของชาติที่คิดค้นวิชาด้วยฝีมือคนไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

*********

เนื้อหาโดย: แด๊ดดี้จอเเดน
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
45 VOTES (5/5 จาก 9 คน)
VOTED: kyogisa, แสร์, famai, Freya Rune, แด๊ดดี้จอเเดน, davin, projor007, goldfish13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทยถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออกเปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง
ตั้งกระทู้ใหม่