สาวงามผู้เลอโฉมในประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง
ก่อนที่จะเข้าเรื่องของสาวงามผู้เลอโฉมในยุคกลาง เรามาทำความเข้าใจในบริบทประวัติศาสตร์สังคมและวัฒนธรรมของยุคกลางกันก่อน
ยุคกลาง อยู่ในช่วง ค.ศ. 500 ถึง ค.ศ. 1400–1500 ของประวัติศาสตร์ยุโรปคำนี้ถูกใช้ครั้งแรกโดยนักวิชาการในศตวรรษที่ 15 เพื่อระบุช่วงเวลาระหว่างยุคสมัยของตนเองและการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ช่วงเวลาดังกล่าวมักถูกพิจารณาว่ามีการแบ่งแยกภายในของตนเอง ได้แก่ ยุคต้นและยุคปลาย หรือยุคต้น ยุคกลางหรือยุคสูง และยุคปลาย
แม้ว่าครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นยุคแห่งความไม่รู้ ความเชื่อโชคลาง และการกดขี่ทางสังคมอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ปัจจุบันยุคกลางกลับถูกมองว่าเป็น ยุคที่มีพลวัตที่แนวคิดเรื่องยุโรปในฐานะหน่วยวัฒนธรรมอันโดดเด่นได้ถือกำเนิดขึ้น ในช่วงปลายยุคโบราณและต้นยุคกลาง โครงสร้างทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมได้รับการปรับโครงสร้างใหม่อย่างลึกซึ้ง เนื่องจากประเพณีของจักรวรรดิโรมันได้หลีกทางให้กับประเพณีของชนชาติเยอรมันซึ่งสถาปนาอาณาจักรต่างๆ ในอดีตจักรวรรดิตะวันตก รูปแบบผู้นำทางการเมืองแบบใหม่ได้ถูกนำมาใช้ ประชากรในยุโรปค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคริสต์ศาสนา และลัทธิสงฆ์ได้ถูกกำหนดให้เป็นรูปแบบชีวิตทางศาสนาในอุดมคติ พัฒนาการเหล่านี้ได้พัฒนามาจนถึงขั้นสมบูรณ์ในศตวรรษที่ 9 ในรัชสมัยของชาร์เลอมาญและผู้ปกครองคนอื่นๆ ของราชวงศ์การอแล็งเฌียง ซึ่งกำกับดูแลการฟื้นฟูวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางที่รู้จักกันในชื่อยุคฟื้นฟูการอแล็งเฌียง วันนี้ผู้เขียนจะตัดขวางประวัติศาสตร์มาดูที่เรื่องราวของสตรีผู้เลอโฉมและมากไปด้วยความสามารถในประวัติศาสตร์ยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคที่หากผู้หญิงมีความเก่งกาจมากกว่าผู้ชายจะเป็นเรื่องที่ผิดแพรกจากคนในยุคนั้น ประกอบด้วย
โจนน์ ออฟ อาร์ก : เธอได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีแห่งฝรั่งเศสในสงครามร้อยปีระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษ หลังจากสิ้นชีวิตแล้วเธอถูกคริสตจักรคาทอลิกยกย่องให้เป็นนักบุญ เธอเกิดในครอบครัวชาวนา ณ ดอมเรมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อเริ่มมีบทบาทด้านสงคราม เธอกล่าวว่าได้รับการช่วยเหลือจากเหล่าเทวดาในการสนับสนุนให้ชาร์ลส์ที่ 7 ขึ้นครองราชย์ และฟื้นฟูฝรั่งเศสให้หลุดพ้นจากการปกครองของอังกฤษ ในช่วงหนึ่งของการทำสงคราม เธอสามารถปลดล็อกการล้อมเมืองออร์เลอองส์ได้ภายในเวลาเพียง 9 วัน และจากชัยชนะหลายครั้งที่ตามมา โดยฝีมือของโจนน์ ชาร์ลส์ที่ 7 ก็ได้ขึ้่นครองราชย์ที่เรมส์ เหตุการณ์นี้ช่วยยกระดับขวัญกำลังใจให้กองทัพฝรั่งเศสและปูทางสู่ชัยชนะสุดท้ายของประเทศ แต่เศร้าเมื่อถึงปี 1431 ขณะอายุราว 19 ปี เธอถูกจับกุมและถูกประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น
แอสพาเซีย : เธอเป็นผู้ลี้ภัยที่มีอิทธิพลในยุคนครเอเธนส์สมัยโบราณ หลายคนถือว่าเธอเป็นหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเธนส์ในยุคนั้น เธอเป็นคู่รักของเปริคลีส (Pericles) นักการเมืองผู้มีอำนาจมากที่สุดของกรีซสมัยนั้น แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพสมรสของทั้งคู่ยังไม่แน่ชัด
นักปรัชญาหลายท่านได้กล่าวถึงแอสพาเซียในงานเขียนของตน บ้างเชื่อว่าเธอทำงานในบทบาทเจ้าของบ้านคนรับใช้ หรือแม้กระทั่งโสเภณีชั้นสูงในเอเธนส์ แต่ไม่มีหลักฐานประวัติศาสตร์เชิงพิสูจน์แน่ชัดในหลายเรื่องที่เล่ามา
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วเธอได้รับการยอมรับในด้านความงามทางกายและความเฉียบแหลมทางปัญญา และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของเอเธนส์ ต่อมาในปี 1835 Lydia Maria Child นักประพันธ์ชาวอเมริกันตีพิมพ์นิยายชื่อ Philothea ที่บรรยายแอสพาเซียทั้งในฐานะหญิงงาม และการมีลักษณะเฉพาะทางอารมณ์และวัฒนธรรม
ลูกเรเซีย บอร์เจีย : ความงดงามของลูกเรเซีย บอร์เจีย เป็นที่ยกย่องในอิตาลียุคกลาง เธอมักถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในหญิงงดงามที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 14‑15 ด้วยผมสีทองเงางาม ผิวพรรณระเรื่อ และดวงตาสีน้ำตาลอมเทา ปัจจุบันเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจในภาพยนตร์ ละคร โทรทัศน์ วรรณกรรม และโอเปร่า รวมทั้งเกม รายละเอียดเรื่องความงามของเธอบางส่วนมาจากวรรณกรรมและงานศิลป์ที่อาจมีการตีความเพิ่มภายหลัง
ซาโลเม : เธอเป็นนักเต้นชื่อดัง ลูกสาวของเฮโรดที่ 2 และเฮโรเดียส ในประวัติศาสตร์เธอโด่งดังในเรื่อง การเต้นเจ็ดผ้าพลิ้ว (Dance of the Seven Veils) และปรากฏในเรื่องจากคัมภีร์ไบเบิล ที่เกี่ยวข้องกับการนำหัวของนักบุญจอห์นหลังจากท่านถูกประหาร แม้เธออาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การเต้นที่เย้ายวนใจของเธอทำให้หลายบันทึกต้องจดจำ และมีเหรียญโบราณจำนวนนับไม่ถ้วนที่สลักหรือพิมพ์ภาพเธอ แม้สิ่งที่เล่าเกี่ยวกับการเต้นหรือรายละเอียดเฉพาะบางอย่างจะเป็นตำนานหรือนิทานเล่าต่อกันมา
เลดี้ โกดิว่า : เธอเป็นภรรยาของเลอฟริก เคาน์ต์แห่งเมอร์เซีย ผู้มีฐานะสูงและงดงาม เธอโดดเด่นในด้านการช่วยเหลือคริสตจักรและกิจการกุศล ตามตำนานในศตวรรษที่ 11 โกดิฟารู้สึกไม่สบายใจกับภาษีที่สามีของเธอตีขึ้นกับประชาชนในเมืองคอฟเวนทรี เธอจึงอ้อนวอนให้ลดภาษีให้ชาวเมือง แต่เขาหลับไม่ยอม และพูดประชดว่า "ถ้าเธอกล้าเปลือยกายขี่ม้ารอบเมือง ฉันถึงจะลดภาษี"
เธอจึงถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นเหลือเพียงผมยาวปิดตัวเอง แล้วขี่ม้าผ่านถนนเมือง เธอสั่งให้ประชาชนอยู่ในบ้านและห้ามมองเธอ แต่ชายคนหนึ่งชื่อทอมไม่อาจหักห้ามใจได้ จึงแอบดู แต่ต่อมาถูกลงโทษโดยถูกทำให้ตาบอด หลังจากนั้นเธอขอให้สามีรักษาสัญญา และเคาน์ต์แห่งเมอร์เซียก็ยอมลดภาษีให้ประชาชน อย่างไรก็ดี หลายผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับการ “ถอดเสื้อผ้าขี่ม้า” และ “Peeping Tom” ของโกดิวา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิทานที่เล่าต่อกันมามากกว่าได้รับการยืนยันทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าเธอจะเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงในศตวรรษที่ 11 ก็ตาม
กวีเนเวียร์ : พระราชินีสูงศักดิ์และงดงาม ภรรยาของกษัตริย์อาร์เธอร์ ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ในตำนานของอังกฤษ ตามเรื่องเล่า กษัตริย์อาร์เธอร์กล่าวว่าเธอคือหญิงงามที่สุดที่เขาเคยพบ ในเอกสารโบราณ กวีเนเวียร์ถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงงามที่สุดในอังกฤษ ความงามของเธอนำมาซึ่งเรื่องราวโศกนาฏกรรมหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม หลายส่วนของสิ่งที่เล่าเกี่ยวกับเธอเป็นเรื่องเล่าแบบตำนานและไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครบถ้วน
ฟรีเน : เป็นโสเภณีชื่อดังในกรีซโบราณ แต่เธอได้รับฉายาว่า ฟรีเน (“กบ”) เนื่องจากโทนผิวสีทองที่เงางาม เรื่องเล่าที่โด่งดังคือเธอถูกบังคับให้เปลือยอกต่อหน้าคนทั่วไปเพื่อเรียกร้องความปรานีในศาล Athenaeus นักอภิปรายกรีกชื่อดัง เคยชมเธอหลายครั้ง และได้บรรยายว่าระหว่างเทศกาล Eleusinia และ Poseidonia เธาละลายผมและเปลือยตัวขึ้นมาจากทะเล เรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้จิตรกร Apelles วาดภาพชื่อ Aphrodite Anadyomene ฟรีเนจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความงามในโลกโบราณ ที่จนถึงวันนี้ผู้คนยังชมผ่านรูปสลักและภาพวาด
นี่คือสาวงามเลอโฉมในประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ความงามเเละความสามารถของเธอเหล่านี้บางคนถูกนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ ประติมากรรมให้ทุกคนจดจำในความงดงามของเธอ
*************
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
"ตระกูลฮุน" ถึงคราวอวสาน! คนในชิ่งหนีปิดฮุยวัน-ปชช.หมดตัวเงินในบัญชีถอนไม่ได้
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
น้องแร็คคูนบุกร้านค้า ดื่มจัดหนัก จนเมาค้าง เห็นแล้วนึกถึงคนเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทย
ถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออก
เปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!
บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง


