หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เงินใหญ่กว่าทุกอย่าง

เนื้อหาโดย อักษราลัย

 

เงินใหญ่กว่าทุกอย่าง

โดย อักษราลัย

 

 ไม่มีใครแพ้ความจริง มีแต่แพ้ราคาความจริงที่จ่ายไม่ไหว 

 

 ในสังคมที่ทุกอย่างขายได้ แม้กระทั่งความเงียบ… ความจริงจึงเป็นของที่ไม่มีใครกล้าซื้อ

 

1. ฝนที่ตกไม่รู้จบ

 สายฝนยามค่ำคืนรินไหลลงบนกระจกหน้าต่างห้องประชุม แสงไฟจากถนนสะท้อนบนพื้นเปียกเหมือนเศษแก้วแตกพร่าง เสียงฝนคล้ายคนกำลังปรบมือให้การแสดงบางอย่างที่คนดูไม่เต็มใจปรบ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้

 

 ในห้องประชุมกว้างใหญ่โอ่อ่า เกินกว่าที่คนบางคนจะจินตนาการได้ รัฐมนตรีประสงค์นั่งเอนตัวบนเก้าอี้ไม้สักหุ้มหนังแท้ กลิ่นซิการ์ราคาแพงคลุ้งในอากาศ ควันที่พ่นออกจากปากคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นอำนาจ เขาหัวเราะตัวโยนกับคำพูดของเลขาฯ ที่บอกว่า “ข่าวฉาวเงียบแล้วครับท่าน”

 

 โต๊ะยาวกลางห้องเต็มไปด้วยเอกสารปึกหนา บางแฟ้มปิดด้วยตราครุฑสีทอง บางปึกมีเพียงยางรัด แต่ในทุกซอง ทุกแฟ้ม มีสิ่งเดียวที่ซ่อนอยู่เหมือนกัน...เงิน

 

 “ถ้าใช้เงินมากพอ ความจริงก็เป็นแค่คำเล่าลือ บางเบายิ่งกว่าไอหมอก” รัฐมนตรีว่า พร้อมล้วงซองสีน้ำตาลหนาเตอะขึ้นโบกไปมาในอากาศ

 

2. นักข่าวสาว

 ปลายห้อง นักข่าวสาวชื่อ กัญญา จ้องภาพนั้นตาแข็ง เธอเคยคิดว่าปากกาคือดาบที่ตัดทะลวงความมืด แต่พอเข้าสู่วงการจริง ๆ ก็พบว่าปากกานั้นแท้จริงแล้วเป็นแค่แท่งดินสอสี เอาไว้ระบายท้องฟ้าให้สดใสตามที่ “ท่าน” อยากเห็น ไม่ใช่เอาไว้จารความจริง

 

 เธอยังจำได้ดี ตอนเขียนบทความตีแผ่คดีทุจริตโรงเรียนชนบทที่เด็กต้องนั่งเรียนใต้หลังคารั่ว เธอใช้ถ้อยคำตรงไปตรงมา “น้ำรั่วลงบนสมุดเหมือนน้ำตาของเด็ก ๆ” แต่เมื่อบทความตีพิมพ์ คำเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็น “โครงการกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เด็ก ๆ ร่าเริงภายใต้ความดูแลของรัฐ” ราวกับน้ำตาเด็กถูกซับด้วยกระดาษทิชชู่แผ่นเดียว แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

 กัญญาไม่ได้เขียนบทความอีกต่อไป เธอได้เขียนเพียง ร่าง เท่านั้น เพราะทุกครั้งที่ส่งงาน บรรณาธิการจะยิ้มบาง ๆ แล้ววางปากกาลูกลื่นสีแดงลงบนโต๊ะเหมือนผู้พิพากษาในศาล บางประโยคโดนขีดฆ่าจนพรุน เหลือไว้เพียงประโยคชมเชยที่อ่อนโยนราวโฆษณานมผงสำหรับเด็ก “เพราะประชาชนต้องการข่าวที่สร้างกำลังใจ” เขามักพูดอย่างนั้น พร้อมหัวเราะเบา ๆ ที่บอกเป็นนัยว่า—อย่าลืมว่าเงินเดือนเธอมาจากใคร

 

 เธอรู้แล้ว…อำนาจไม่ได้อยู่ในมือคนถือปากกา แต่อยู่ในมือผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่คนทั้งห้องเรียกขานด้วยความนอบน้อมว่า “ท่าน” ท่านคนนั้นมีสิทธิ์เลือกให้ความจริงถูกเปิดเผย หรือโยนทิ้งลงถังขยะ แล้วโปรยแป้งเด็กกลบให้หอมฟุ้งราวขนมอบสดใหม่

 

 รัฐมนตรีประสงค์หัวเราะพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความใหม่ที่เพิ่งเด้งเข้ามา ใบหน้าที่หนาทาด้วยครีมราคาแพงยิ่งฉายความพึงพอใจ

 

 “ลูกชายมันเพิ่งส่งข้อความมาขอเงินค่าเทอมเพิ่มอีกหลายหมื่น” เขาหันไปบอกเลขาฯ ราวกับเล่าเรื่องขำขัน “เรียนเมืองนอกก็แบบนี้แหละ ใช้เงินเหมือนน้ำ”

 

 เลขาฯ หัวเราะรับอย่างประจบ ขณะที่รัฐมนตรีโยนซองเงินลงบนโต๊ะราวกับเป็นเพียงกระดาษทิชชู่ ใช้เช็ดคราบที่ไม่อยากจำ

 

 “เมียก็โทรมาเมื่อเช้า บอกให้โอนเงินไปซื้อเครื่องเพชรชุดใหม่ที่ดูไบ บอกว่าเพื่อนเมียเขาเพิ่งได้มา ถ้าเราไม่มี มันก็ขายหน้า”

 

 เสียงหัวเราะก้องห้องประชุมเหมือนควันซิการ์ที่คละคลุ้ง บดบังกลิ่นอับของความจริงทั้งหมด

 

 กัญญานั่งฟังอยู่ปลายโต๊ะ ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนถูกฝนสาดใส่ เธอคิดถึงแม่ที่นั่งเย็บผ้าใต้แสงไฟสลัว เสื้อผ้าที่ปะแล้วปะอีกเพื่อประหยัดเงิน แม้แต่ค่าตรวจโรคหัวใจก็ยังเป็นภาระเกินจะจ่ายไหว

 

 คนสองฝั่งโต๊ะต่างก็มี “ครอบครัว” เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ รัฐมนตรีใช้เงินซื้อความสุขให้ลูกเมียโดยไม่สนใจว่ามันรีดมาจากน้ำตาของใคร ส่วนเธอกลับต้องก้มหน้ารับเงินก้อนเดียวกันเพื่อยื้อชีวิตแม่

 

     เสียงของรัฐมนตรีดังขึ้นอีกครั้งราวกับตอกย้ำ

 

 “เงินน่ะ หนูเอ๊ย มันเช็ดได้ทุกอย่าง ทั้งร่องรอย ทั้งความผิดพลาด… แค่โปรยหน่อยเดียวก็สะอาดเกลี้ยง”

 

 ตอนนี้เธออยากตะโกนถามรัฐมนตรีตรงหน้า เงินที่เอามาซื้อที่ดินริมทะเลนั้น มันคือเงินภาษีของใคร? โรงเรียนในหมู่บ้านห่างไกลที่ไม่มีหลังคาจะรอได้อีกกี่ปี? แต่เสียงในลำคอเธอแห้งผาก ราวกับถูกฝนชะจนหมดเรี่ยวแรง

 

 “คุณไม่กลัวประชาชนบ้างหรือคะ?” กัญญาเอ่ยถามในที่สุด เสียงเบากว่าที่คิด แต่เงียบพอจะสะท้อนก้อง…

 

 รัฐมนตรีประสงค์หันมามอง รอยยิ้มเอิบอาบบนใบหน้าหนาเตอะด้วยครีมราคาแพง “หนูเอ๊ย… เงินใหญ่กว่าทุกอย่างจริง ๆ ความผิดก็เหมือนรอยเท้าบนทราย แค่โปรยเงิน น้ำก็พัดหายหมด”

 

 กัญญาเม้มปาก น้ำตาร้อนผ่าวขังในหางตา แต่เธอรู้—ไม่มีใครในห้องนี้มองเห็น

 

3. ครอบครัวที่รออยู่

 คืนนั้นกัญญากลับถึงห้องเช่าเล็ก ๆ แม่กำลังนั่งเย็บผ้าใต้แสงหลอดไฟสลัว เสียงจักรเก่า ๆ กระทบเข็มทีละฝีเข็มเหมือนเสียงหัวใจที่ยังพยายามเต้นต่อไป

 

 “วันนี้ก็กลับดึกอีกแล้วนะลูก” แม่เงยหน้าขึ้นยิ้มอ่อนแรง “กินอะไรมาหรือยัง?”

 

 กัญญาส่ายหัว หย่อนก้นนั่งข้าง ๆ มองมือแม่ที่แตกลายราวผืนดินแล้ง เธออยากเล่าให้แม่ฟังว่า วันนี้ได้ยินประโยคที่ทำให้หัวใจเธอหนักเกินแบก แต่คำพูดนั้นหนักเกินที่จะพูด แม่มีโรคหัวใจ ให้แม่ทุกข์เพิ่มไปอีกทำไม

 

 บนโต๊ะเล็ก ๆ มีซองจดหมายวางอยู่ แม่บอกว่าเป็นจดหมายจากโรงพยาบาล นัดตรวจครั้งใหม่ ค่าใช้จ่ายที่กัญญารู้ดีว่าเกินรายได้เธอหลายเท่า

 

 ในวินาทีนั้น คำพูดรัฐมนตรีกลับมาก้องในหัว “เงินใหญ่กว่าทุกอย่างจริง ๆ”

 

 วันถัดมา กัญญาลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนชายขอบที่เธอเคยเขียนข่าว เด็ก ๆ ยังนั่งเรียนบนเก้าอี้โยกคลอน เสียงฝนหยดติ๋ง ๆ จากหลังคาสังกะสีรั่วลงบนพื้น ปนกับเสียงครูที่ตะโกนแข่งสายฝน เด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งยื่นสมุดที่เปื้อนน้ำหมึกเลอะเป็นดวงกลม ๆ ให้เธอดู ดวงตาใสไร้เดียงสาถามเบา ๆ ว่า “พี่ครับ เขาบอกในข่าวว่าพวกผมมีโรงเรียนใหม่แล้ว โรงเรียนนั้นอยู่ที่ไหนครับ?”

 

 คำถามนั้นเหมือนหินก้อนหนักหล่นลงบนอกกัญญา เธอไม่มีคำตอบ เพราะแม้แต่บทความของเธอเอง… ก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว

 

4. ข้อเสนอ

 สองวันถัดมา กัญญาได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยรัฐมนตรี น้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนคนขายเครื่องประดับในห้าง “คุณกัญญา เขียนข่าวลงบ้างไม่ลงบ้าง เราเข้าใจ แต่บางเรื่อง ถ้าช่วยเขียนให้สวยงามขึ้น เราก็อยากตอบแทน”

 

 ตอบแทน คำนี้เหมือนเหยื่อล่อที่ส่องแสงในความมืด กัญญากำมือถือแน่น แววตาแม่ในคืนนั้นผุดขึ้นมา เธอเห็นแม่ไอแห้ง ๆ เห็นมือที่สั่นเมื่อหยิบยา

 

 เธอเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินปลายสายหัวเราะเบา ๆ “คิดดี ๆ นะครับ เงินก้อนนี้ อาจช่วยชีวิตใครบางคนที่คุณรัก”

 

 กัญญาบอกตัวเองว่าไม่… เธอยังไม่อยากยอมแพ้ง่าย ๆ คืนนั้นเธอนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เคาะแป้นพิมพ์จนเสียงก้องในห้องเช่าเล็ก ๆ บทความใหม่เผยให้เห็นภาพจริง “โรงเรียนชายขอบยังรั่ว เด็กยังเปียกน้ำ” ตัวอักษรแต่ละบรรทัดเหมือนมีเลือดและหัวใจของเธอหลั่งไหลออกไป เธอหวังเล็ก ๆ ว่าอย่างน้อยจะมีใครได้อ่าน

 

 แต่เช้าวันต่อมา เธอพบต้นฉบับของตัวเองถูกขยำเป็นก้อนกลม ๆ ในถังขยะ บรรณาธิการชายวัยกลางคนเพียงจิบกาแฟอย่างไม่ใส่ใจ รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นเหมือนรอยเยาะเย้ย

“อย่าลืมว่าเงินเดือนเธอมาจากใคร”

 

 วันนั้นงานของเธอถูกดองกองเต็มโต๊ะ ไม่มีบทความใดผ่านการอนุมัติ เงินเดือนที่โอนเข้าบัญชีถูกหัก โดยอ้างว่าเป็น “ค่าปรับความผิดพลาด” ทั้งที่เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยนอกจากพยายามเขียนความจริง

 

 คืนนั้นเธอกลับถึงบ้าน เห็นแม่ไอหนักจนร่างสั่น หยิบขวดยาเก่า ๆ ที่เหลือแต่แผงเปล่ามากุมไว้เหมือนของมีค่า บนโต๊ะเล็กมีใบเสร็จค่าตรวจรักษาวางอยู่ ตัวเลขบนนั้นมากเกินกว่าจะจ่ายไหว

 

 กัญญานั่งลงข้าง ๆ น้ำตาเอ่อจนพร่ามัว เธออยากจะเป็นนักสู้ แต่เสียงแหบพร่าของแม่ที่บอกว่า “ถ้าได้ยานี้ต่อเนื่อง อาการคงดีขึ้น” ทำให้หัวใจเธอแหลกสลาย ความดื้อรั้นที่เกาะกุมในอกค่อย ๆ ร่วงหล่นทีละชิ้น เหลือเพียงเสียงก้องเย็นเยียบของบรรณาธิการ — เงินเดือนเธอมาจากใคร

 

 นี่เป็นครั้งแรก… เธอรู้สึกว่าความจริงที่เธอปกป้องมาตลอด อาจไม่มีค่าเท่าลมหายใจของแม่แม้แต่น้อย

 

5. ความจริงที่ถูกซื้อ

 ในที่สุด บทความใหม่ก็ถูกตีพิมพ์ เต็มไปด้วยคำชมโครงการรัฐมนตรี ประชาชนได้รับประโยชน์ เศรษฐกิจท้องถิ่นฟื้นตัว ทุกประโยคหวานชื่นยิ่งกว่าคำโปรยโฆษณา

 

 ค่ำวันเดียวกันนั้น กัญญากลับบ้านพร้อมซองเงินหนาเตอะ เธอยื่นมันให้แม่ อ้างว่าเป็นโบนัสพิเศษจากงาน มือที่ยื่นซองสั่นเล็กน้อย ราวกับไม่ได้มอบเงิน แต่กำลังยื่นหลักฐานความพ่ายแพ้ให้แม่ดู

เธอยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นแม่ยกมือไหว้ฟ้า พลางพูดว่า “ขอบคุณนะ ที่ลูกยังสู้เพื่อตัวเองและแม่”

แต่ในใจ กัญญารู้ เธอไม่ได้สู้ เธอเพิ่งแพ้ และยอมก้มหัวให้กับความหอมหวานของเงิน ไม่ต่างจากคนอื่น ตอนนี้เธอเองก็ไม่ต่างจากคนที่เคยรังเกียจ

 

6. เศษธนบัตรในสายฝน

 หลายเดือนต่อมา ข่าวฉาวใหม่ก็เกิดขึ้นอีก แต่ถูกลบเลือนเหมือนเดิม กัญญานั่งดูถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอ รัฐมนตรีประสงค์ยังคงหัวเราะตัวโยนในห้องประชุมเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

 ข้างนอกฝนยังตกไม่หยุด ผู้คนเดินลุยน้ำท่วมขังถึงข้อเท้าเหมือนปลากระดี่ไต่ขอบบ่อ น้ำสกปรกกลืนเสียงตะโกนเรียกร้องทุกอย่าง

 

 กัญญาเดินฝ่าฝนกลับบ้าน ลมพัดแรงจนเงินจากซองในกระเป๋าเธอหลุดปลิวไปกับอากาศ แบงก์เปียกแผ่แปะติดบนถนน ไม่มีใครก้มเก็บ ไม่มีใครสนใจ

 

 เด็กชายคนหนึ่งก้มลงเก็บขึ้นมาพิจารณา เขามองธนบัตรเปียกยับราวกับมันเป็นเพียงกระดาษเล่น ก่อนจะหัวเราะแล้วฉีกครึ่ง ส่งให้เพื่อนอีกคนเล่นพับเรือกระดาษลอยในน้ำขังริมถนน

 

 ภาพนั้นแทงใจเธออย่างแรง มันทำให้เธอเห็นดวงตาใสของเด็กชายที่โรงเรียนชายขอบในวันฝนตก วันที่เขาถามว่า “โรงเรียนใหม่อยู่ที่ไหนครับ?” คำถามที่เธอไม่มีวันตอบได้ และคงไม่มีใครอยากตอบ

 

 กัญญาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม หยดฝนกระแทกผิวหน้าแรงเหมือนตบซ้ำ เธอเห็นเงาของแม่ซ้อนอยู่กลางม่านฝน มือแม่ที่สั่นไหวกับแผงยาว่างเปล่า และรอยยิ้มอ่อนแรงที่ยังบอกว่า “ไม่เป็นไร”

ทุกอย่างวนกลับมาเหมือนเดิม ข่าวฉาวถูกกลบ ความจริงถูกซื้อ น้ำฝนที่ตกไม่หยุด และเงินยังโปรยปกปิดทุกเสียง

 

 เงินใหญ่กว่าทุกอย่างจริง ๆ เสียงของรัฐมนตรีกระซิบอยู่ในหู เหมือนคำสาปที่ไม่มีวันลบ

 

 ฝนยังคงตก เงินยังคงโปรย ความจริงยังคงเงียบงัน…

 

 และความเงียบงันนี่แหละที่ถูกซื้อแพงที่สุด

 

 เธอก้าวต่อไปทั้งที่รู้แล้วว่า เสียงของตัวเองไม่มีค่าอันใด นอกจากเป็นเสียงที่ถูกซื้อให้เงียบไป… เช่นเดียวกั

 

บเสียงของเด็กคนนั้น และเสียงสะอื้นในอกของแม่

 

 และเสียงของเธอเอง… ก็ดับหายไปในสายฝน

 

 ...........................

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
คนเหงาและโดดเดี่ยวส่วนมากที่ไม่โสด🥺☹️การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยาย
ตั้งกระทู้ใหม่