หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ไฟฟ้าเปลี่ยนโลก” : ไมเคิลฟาราเดย์ บิดาแห่งกระแสไฟฟ้า

โพสท์โดย แด๊ดดี้จอแดน โค้ดชีวิตพลิกชะตา

ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี เพราะสิ่งอำนวยความสะดวก และความบันเทิงต้องใช้ไฟ คุณโนปการณ์นี้ต้องขอบพระคุณ ไมเคิล ฟาราเดย์ เพราะเขาคือนักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบ และคิดค้นไดนาโม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ผู้เขียนขอนำท่านมารู้จักประวัติของเขากัน

       ไมเคิล ฟาราเดย์ (อังกฤษ: Michael Faraday) (22 กันยายน ค.ศ. 1791 – 25 สิงหาคม ค.ศ. 1867) เป็นนักเคมีและนักฟิสิกส์ ชาวอังกฤษ เป็นผู้คิดค้นไดนาโมในปี ค.ศ. 1821

            ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดที่นิวอิงตัน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เป็นบุตรคนที่ 3 จากจำนวน 10 บิดาของเขาชื่อเจมส์เป็นช่างตีเหล็ก เขาเริ่มทำงานเมื่ออายุ 13 ปี โดยการเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์และฝึกงาน แผนกเย็บปกและซ่อมหนังสือ เขายังเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้โดยเฉพาะเรื่องของไฟฟ้า เขาพยายามหาโอกาสไปฟังการบรรยายทางวิทยาศาสตร์ตามสถานที่ต่าง ๆ เสมอ และจะมีการจดบันทึกไว้อย่างละเอียดและเข้าเล่มเก็บไว้ มีครั้งหนึ่งในปี 1812 มีลูกค้าซ่อมหนังสือเห็นว่าเขาสนใจเรื่องการบรรยายของนักวิทยาศาสตร์ จึงได้มอบบัตรในการฟังการบรรยายวิทยาศาสตร์ของ ฮัมฟรี เดวี จัดบรรยายที่ราชสมาคม เขาจดรายละเอียดการบรรยาย วาดรูปประกอบ เรียบเรียงอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเขาจึงไปสมัครเป็นผู้ช่วยเดวี่ โดยนำหนังสือเล่มนี้ไปด้วย ทำให้เดวี่ประทับใจ รับเขาทำงาน

            เขาทำงานทุกอย่างในการเป็นผู้ช่วยเดวี่ ตั้งแต่ภารโรง เลขา ด้วยเงินที่ได้รับสัปดาห์ละ 25 ชิลลิง ซึ่งน้อยกว่าทำงานที่ร้านหนังสือ แต่เขาพอใจกับงานและคอยสังเกตการทดลองของเดวี่ อย่างสนใจ เขามีโอกาสได้ตามเดวี่ไปสถานที่ต่าง ๆ ในยุโรป ทำให้เขาได้รู้จักกับคนสำคัญและนักวิทยาศาสตร์ เช่น อองแปร์ วอลตา หลังจากติดตามเดวี่มา 2 ปี ก็เดินทางกลับอังกฤษและได้เงินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 30 ชิลลิง นอกจากนี้เขายังเขียนบทความและรายงานทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และริเริ่มจัดตั้ง City Plilosophical Society ซึ่งเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนพบปะคุยกันของบรรดาผู้ที่สนใจวิทยาศาสตร์ เขาเริ่มสนใจวิชาเคมีในช่วงนี้ ต่อมาปลายปี 1820 เขาแต่งงานกับ ซาราห์ เบอร์นาด ลูกสาวช่างเงิน

            เขาเริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้า เขาทดลองเรื่อง อำนาจแม่เหล็กให้เป็นพลังงานไฟฟ้าอยู่หลายครั้ง จนการทดลองหนึ่ง เขาพันขดลวด 2 ขดในวงแหวนอันเดียวกัน โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดหนึ่งเข้ากับ กัลวานอมิเตอร์ และต่อขดลวดที่เหลือกับแหล่งจ่ายไฟและปิดเปิดสวิตซ์ให้กระแสไฟฟ้าผ่านเข้าในขดลวด เขาสังเกตเห็นว่า กัลวานอมิเตอร์ ที่ต่อกับอีกขดหนึ่งนั้นขยับ แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลในขดที่ 2 ทั้งที่ไม่ได้จ่ายไฟเข้าขดนั้นเลย จากการทดลองนี้เขาพัฒนาเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าในเวลาต่อมา เขายังค้นพบเส้นแรงแม่เหล็กจากการ ทดลองเทผงตะไบเหล็ก ลงบนกระดาษที่อยู่บนแม่เหล็ก

            ในปี 1823 เขาค้นพบวิธีการทำเหล็กกล้ามีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิมและไม่เป็นสนิม โดยใช้เหล็ก + นิเกล เรียกว่า เหล็กสเตนเลส (Stainless Steel) ต่อมาในปี 1825 เขาพบ สารประกอบเบนซีน พบการทำให้คลอรีนเป็นของเหลว เขาเป็นคนบัญญัติศัพท์เกี่ยวกับการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้าหลาย ๆ คำ

            ฟาราเดย์ได้ทดลองใช้ลวดขดเป็นวงหลายรอบแบบที่เราเรียกว่าคอยด์ โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดเข้ากับ กัลวานอมิเตอร์ และทดลองสอดแท่งแม่เหล็กเข้าไปในระหว่างขดลวด พบว่า กัลวานอมิเตอร์กระดิกไปข้างหนึ่ง และพอแม่เหล็กหยุดนิ่ง เข็มก็เบนกลับที่เดิม พอเขาดึงแท่งแม่เหล็กออก เข็มก็เบนไปอีกทางหนึ่ง ตรงข้ามกับตอนแรก แล้วหยุดนิ่ง เขาพบว่า ไฟฟ้าเกิดจากการที่เส้นแรงแม่เหล็กตัดกับขดลวด เขาจึงเรียกกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นว่า กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ (Induced current) ซึ่งเขาพบว่ากระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนที่ตัดกันของสนามแม่เหล็กกับขดลวดเท่านั้น ถ้าหยุดเคลื่อนที่กระแสไฟฟ้าก็หายไป เขาจึงมีแนวคิดที่จะให้กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา จึงหมุนขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็กตลอดเวลา เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าไดนาโมในเวลาต่อมา ที่ถือว่าเป็นเครื่องแรกของโลกที่ไม่ต้องใช้ปฏิกิริยาทางเคมีเหมือนเดิม

            เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ ประจำวิชาเคมีแห่งราชสมาคม ในปี ค.ศ. 1833 ในช่วงหลังเขาสนใจในเรื่องแสง และศึกษาค้นคว้าตลอดมา เขาล้มป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมในบั้นปลาย ของชีวิต และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ.1867 ที่แฮมป์ตันคอร์ท อายุได้ 75 ปี

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://th.wikipedia.org/wiki/ไมเคิล_ฟาราเดย์
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
39 VOTES (4.9/5 จาก 8 คน)
VOTED: goldfish13, projor007, davin, famai, kyogisa, mommyg13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์, แด๊ดดี้จอเเดน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนวิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAVทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้านกฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Trip “พม่า ท่าขี้เหล็ก” ฉบับคนไปทำงานเตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัวปรับทัศนคติให้ถูกทาง10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ฮิลใจ จิตวิทยา นานาสาระพัน
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568เมื่อการตลาดเปลี่ยนโฉมหน้าตำนาน: จากนักบุญสู่ไอคอนชุดแดงเจาะลึกความลับจากปากชาย 100 คน: 4 ช่วงเวลาเปราะบางที่เสี่ยงต่อการนอกใจทำไมกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอสถึงอาจเป็น "ตัวเมีย" ทั้งฝูง
ตั้งกระทู้ใหม่