ทำไมถึงเครียดแล้วลงกระเพาะ? สัญญาณเตือนอาการ เครียดลงกระเพาะ เมื่อมีความเครียดบ่อย ๆ คนคิดมาก เครียดง่าย ต้องระวัง
ทำไมถึงเครียดแล้วลงกระเพาะ?
ความเครียดไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กระเพาะอาหาร แต่ส่งผลต่อระบบร่างกายเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมองสั่งการได้ช้าลง ความจำแย่ลง ฮอร์โมนบางตัวผิดปกติ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง
เมื่อระบบร่างกายเกือบทุกส่วนมีปัญหาเนื่องจากความเครียด ทำให้กระเพาะอาหารได้รับผลกระทบไปด้วย โดยระบบประสาทนั้นไปกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งฮอร์โมนผิดปกติ จนไปกระตุ้นน้ำย่อยให้ออกมามากผิดปกติ จนทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมาก นำไปสู่อาการปวดท้อง อาเจียน กระทบไปจนถึงลำไส้ทำให้ท้องผูก ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ความสมดุลของกระเพาะอาหาร ไม่สามารถทำงานได้ปกติ นอกจากนี้คนที่เครียดสะสม หรือ มีความเครียดมาก จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ โรคอ้วน ร่วมด้วย
เครียดลงกระเพาะบ่อย ๆ หากปล่อยไว้นานทำให้เกิดอาการเครียดลงกระเพาะบ่อย ๆ จะทำให้ร่างกายของยิ่งแย่ลง โดยในระยะสั้นที่เห็นได้ชัดคือ
สัญญาณเตือนอาการเครียดลงกระเพาะ
1.เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อย โดยส่วนมากแล้วอาการเหล่านี้จะเกิดหลังกินอาหาร อาจมีอาการแสบทรวงอกร่วมด้วย
2.รู้สึกอาหารไม่ย่อย ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก ภายในช่องท้องมีลมมากเกินไป ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
3.เกิดความอยากอาหารมากกว่าปกติ
4.มีลมในกระเพาะอาหารมากเกินไป ร่างกายจึงขับออกด้วยการเรอ บางครั้งอาจจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
5.การขับถ่ายไม่ปกติทุกวัน สามารถสังเกตสีของอุจจาระที่ออกมา หากมีสีดำต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจะมีเลือดออกในกระเพาะอาหารได้
ในระยะยาวถ้าปล่อยให้เกิดโรคเครียดลงกระเพาะ บ่อย ๆ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะลดลง การหลั่งฮอร์โมนจะไม่เป็นปกติ สมองจะสั่งการช้าลง อาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บรุนแรงตามมา ทำให้การทำงานหรือการตัดสินใจต้องใช้เวลามากขึ้น ที่สำคัญอาจส่งผลต่อจิตใจภายในอีกด้วย ในกรณีร้ายแรงอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
ป้องกันอย่างไรไม่ให้เครียดลงกระเพาะ
1.ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา ทำให้สดชื่นและดีต่อระบบร่างกายส่วนอื่น ๆ
2.หาสิ่งแปลกใหม่ในการจดจ่อ เพราะการเจอสิ่งเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ อาจทำให้เบื่อหน่ายจนเกินไป ลองออกไปค้นหาสิ่งใหม่ให้สมองของคุณรู้สึกสดชื่นขึ้นจะดีกว่า เช่น การเที่ยวเล่นบ้าง อย่าโฟกัสกับปัญหามากเกินไป ออกมาจากสภาวะเหล่านั้นบ้าง หรือ จะหาเวลาไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
3.ปรับเปลี่ยนการกินอาหาร ทำควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น
-เลี่ยงของเผ็ดและของเปรี้ยว เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะเพิ่มการหลั่งกรด เลี่ยงอาหารมันและของทอด เนื่องจากเป็นอาหารที่ย่อยยาก เกิดอาหารตกค้างในกระเพาะอาหารนานมากขึ้น ทำให้เกิดอาการท้องอืด
-เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เช่น ชา กาแฟ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมัก ของเปรี้ยว ของดอง เนื่องจากกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารให้เพิ่มมากขึ้น
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ็บ 5 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิง ในกรุงวอชิงตัน
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
เจาะเทรนด์ปี 2026! นิสัยและไลฟ์สไตล์ผู้ชายแบบไหนที่ "ดึงดูดใจ" สาวๆ ยุคใหม่มากที่สุด
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
'ภิกษุณี' สตรีที่ผ่านการอุปสมบทอย่างสมบูรณ์ในพระพุทธศาสนา
อศาสนิก SBNR (Spiritual But Not Religious) เชื่อเรื่องธรรม จิตวิญญาณ แต่ไม่นับถือศาสนา
เจาะระบบเตือนภัย J-ALERT ระบบเตือนภัยที่ทรงพลังที่สุดในโลก
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวที่คุณอาจเข้าใจผิด
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ







