😃 ชวนมาดูภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา 😯
😃 ชวนมาดูภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา 😯
🙏🏻 สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้แม่หญิงซากุระ เอาภาพน่าสนใจ ๆ มาฝากอีกเช่นเคยค่ะ 😊
โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ และพายุ รวมถึงเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์
วันนี้เราขอเชิญชวนให้คุณร่วมเดินทางผ่านกาลเวลาและอวกาศ เพื่อดูว่าบางพื้นที่บนโลกอันเป็นที่รักของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
น่าเสียดายที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ แต่เราก็ยังมาทันเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นให้กลับมาดีขึ้น
และอันที่จริงมีภาพถ่ายบางส่วนในคอลเลกชันของเราที่พิสูจน์สิ่งนี้ให้เห็น
พวกเราได้รวบรวมภาพถ่ายจาก Google Earth เพื่อให้คุณเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่น่าประทับใจที่สุดที่โลกของเราเผชิญในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
โดยหวังว่าเราจะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลรักษาธรรมชาติ และโลกของเราต่อไปตราบนานเท่านาน 😊
1. เกาะใหม่ปรากฏบนแผนที่ : เกาะเทียมที่ชื่อปาล์มของดูไบ
เมืองดูไบมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในด้านจำนวนประชากร ดูไบเติบโตจากคนประมาณ 500,000 คน (ปี 1990) เป็นมากกว่า 3.3 ล้านคน (ปี 2020)
ดูไบซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็มีการเติบโตอย่างมากทั้งในด้านพื้นที่ผิวดิน
ดูไบแผ่ขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้งชายฝั่งและแผ่นดินใหญ่กว่า 300 กิโลเมตร ทั้งบนบกและในทะเล ส่งผลให้เกิดหมู่เกาะเทียมที่เรียกว่า หมู่เกาะปาล์ม และหมู่เกาะโลก
2. น้ำเปลี่ยนสี : ทะเลสาบนาตรอน ประเทศแทนซาเนีย
เมื่อมองแวบแรก คุณอาจคิดว่าสิ่งที่เห็นในภาพแรกของภาพตัดปะด้านบนคือผืนแผ่นดิน แต่แท้จริงแล้วมันคือทะเลสาบสีชมพู
ด้วยความเค็มที่สูง อุณหภูมิมากกว่า 40°C (104°F) และความเป็นด่างที่อาจมีค่า pH สูงกว่า 12 จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่อันตรายที่สุดในโลก
สาหร่ายและแบคทีเรียจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจนทำให้สีของทะเลสาบเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของปี
3. การตัดไม้ทำลายป่า : การปลูกถั่วเหลืองในซานฆูเลียน โบลิเวีย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ป่าอะเมซอนเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด
และเราไม่ได้พูดเพียงเพราะไฟป่าที่โด่งดังซึ่งส่งผลกระทบต่อส่วนนี้ของโลกเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นบนพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นเขตเกษตรกรรม
ดังที่จะเห็นได้จากภาพด้านบนพื้นที่ใหม่ส่วนใหญ่นี้ถูกใช้เพื่อปลูกพืชไร่ที่เน้นการปลูกถั่วเหลืองเป็นอาหารสัตว์ เป็นหลัก
4. ต่อสู้กับภาวะโลกร้อน : โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของจีน
พลังงานหมุนเวียนคือแหล่งพลังงานที่ได้มาจากธรรมชาติด้วยวิธีที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและช่วยลดภาวะโลกร้อน
โดยรวมปัจจุบันมีประเทศต่าง ๆ มากมายที่หันมาใช้พลังงานประเภทนี้และสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศของตน
โดยจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเยอรมนี อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อและเราหวังว่าจะมีอีกหลายประเทศเข้าร่วมในเร็ว ๆ นี้
ในภาพด้านล่าง คุณจะเห็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งหนึ่งที่จีนสร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้แสงอาทิตย์เป็นพลังงานหลัก
5. ธารน้ำแข็งที่กำลังละลายและค่อย ๆ หายไป : ธารน้ำแข็งโคลัมเบียในสหรัฐอเมริกา
ธารน้ำแข็งแห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของอลาสกา เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่โลกของเรากำลังเผชิญในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน อันที่จริงแล้วธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวเร็วที่สุดในโลก และกำลังละลายตัวลงมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะวิกฤตของโลกร้อน
6. ศัตรูสิ่งแวดล้อมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น : แหล่งทรายน้ำมันของแคนาดา
นี่เป็นอีกหนึ่งในแง่มุมที่สร้างความเสียหายมากที่สุดจากกิจกรรมของมนุษย์ต่อโลกของเรา
นั่นเป็นเพราะการขุดเจาะแบบแฟรกกิ้งเกี่ยวข้องกับการสกัดน้ำมันออกจากทรายเหล่านี้
ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานและน้ำเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังปล่อยสารพิษและสารมลพิษจำนวนมากลงในน้ำและแม้แต่ในอากาศอีกด้วย
ทรายน้ำมันเป็นแหล่งน้ำมันที่ไม่ธรรมดา พวกมันกลายเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ และในความเป็นจริง การใช้ประโยชน์จากมันกำลังกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเป็นเพราะน้ำมันธรรมดา แม้จะสกัดได้ง่ายกว่า แต่กำลังหายากขึ้นเรื่อย ๆ
7. อุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นเมื่อทะเลสาบหดตัวลง : ทะเลอารัล ระหว่างคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนว่าความโลภของมนุษย์สามารถทำลายล้างได้มากเพียงใด
ในปี พ.ศ. 2503 ได้มีการดำเนินโครงการเปลี่ยนเส้นทางน้ำจากทะเลอารัล (ซึ่งแม้จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าทะเลสาบ) เพื่อปลูกฝ้ายและพืชผลอื่นๆ กลางทะเลทราย
แต่สุดท้ายโครงการนี้กลับทำให้ทะเลสาบแห้งเหือดเกือบหมด เนื่องจากฝ้ายเป็นหนึ่งในพืชที่ใช้น้ำมากที่สุดในโลก
8. ปอดสีเขียวใหม่ของโลก : กำแพงสีเขียวขนาดใหญ่ของจีน
หวังว่าในอีก 4 ทศวรรษข้างหน้า เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในหลายภูมิทัศน์ที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์
สิ่งที่เห็นได้จากภาพเหล่านี้คือการฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทางนิเวศวิทยาที่แห้งแล้งลงในช่วงศตวรรษที่แล้วในประเทศจีน
โครงการนี้เรียกว่า “กำแพงเขียวใหญ่” ซึ่งอ้างอิงถึงกำแพงที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 โดยมีเป้าหมายเพื่อชะลอและแม้กระทั่งย้อนกลับขบวนการกลายเป็นทะเลทรายของผืนดิน ด้วยการปลูกต้นไม้หลายพันล้านต้นทั่วพื้นที่
9. สิ่งนี้ที่เกิดขึ้นในลาสเวกัสไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในลาสเวกัสเท่านั้น : เมืองที่กำลังเติบโตในเนวาดา สหรัฐอเมริกา
ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เมืองลาสเวกัสมีประชากรเพิ่มขึ้นประมาณห้าเท่า แต่การขยายตัวครั้งใหญ่เช่นนี้ก็ต้องใช้ทรัพยากรเช่นกัน
ทะเลสาบมีดเป็นแหล่งผลิตน้ำดื่มส่วนใหญ่ในพื้นที่ ด้วยการเติบโตของประชากรในเมือง ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น เกษตรกรรมและอุณหภูมิที่สูงขึ้น
จึงทำให้ขนาดของทะเลสาบลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป ดังที่คุณเห็นได้จากภาพด้านล่าง
10. แอนตาร์กติกากำลังละลายอย่างช้า ๆ : ธารน้ำแข็งไพน์ไอส์แลนด์ แอนตาร์กติกา
กระแสธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่พบบนทวีปแอนตาร์กติกาแห่งนี้ ก็ได้ รับผลกระทบอย่างมาก จากภาวะโลกร้อนเช่นกัน
มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาประเมินว่า หากธารน้ำแข็งนี้ละลายและปล่อยน้ำที่ละลายลงสู่มหาสมุทร ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 61 เมตร
น่าเสียดายที่ธารน้ำแข็งไพน์ไอส์แลนด์เป็นธารน้ำแข็งที่ละลายเร็วที่สุดในแอนตาร์กติกา และเป็นสาเหตุของการสูญเสียน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาประมาณ 25%
11. เมื่อธรรมชาติทำลายแล้วสร้างใหม่ : การฟื้นตัวตามธรรมชาติของภูเขาปินาตูโบ ประเทศฟิลิปปินส์
หลังจากสงบนิ่งมานาน 500 ปีภูเขาไฟปินาตูโบก็กลับมาปะทุอีกครั้งในปี พ.ศ. 2534 ก่อให้เกิดการปะทุของภูเขาไฟที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในศตวรรษที่ผ่านมา
ผลกระทบจากภูเขาไฟแผ่กระจายไปทั่วโลก ทั้งชั้นกรดซัลฟิวริกที่ปกคลุมโลก อุณหภูมิลดลงอย่างมาก และชั้นโอโซนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ปัจจุบันนี้เราสามารถเห็นได้ว่าพื้นที่นี้ค่อย ๆ ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติหลังจากความเสียหายจากการปะทุของภูเขาไฟ
12. พืชผลที่ถูกทิ้งร้างกลายเป็นป่าเขียวขจีในรัสเซีย
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต พืชผลขนาดใหญ่ถูกทิ้งร้างและถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในมือของธรรมชาติอีกครั้งเพื่อนำสิ่งที่เคยเป็นของเธอกลับคืนมา
ธรรมชาติได้ดูแลฟื้นฟูตัวเองและฟื้นฟูความเขียวขจีทั้งหมดที่เคยมีมาด้วยตัวมันเองอย่างน่าอัศจรรย์
เรื่องนี้เป็นที่น่าประหลาดใจอย่างมาก แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวจะช้ากว่ามาก
ที่มา brightside.me
😆 หวังว่าเพื่อน ๆ จะชื่นชอบกันนะคะ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาก่อนนะคะพบกันกระทู้หน้าค่ะ สวัสดีค่ะ🙏
เพื่อน ๆ สามารถติดตามกระทู้อื่น ๆ ได้ในบอร์ดของแม่หญิงซากุระตามลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ 👇🏾
https://board.postjung.com/board-4167
หรือเข้ามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ 👇
https://page.postjung.com/sakura1569
😉
😻
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
เมื่อ "แก้มแดง" ของซานต้าอาจไม่ใช่แค่ความใจดี แต่คือสัญญาณเตือนสุขภาพ
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”
😃 ชวนลองเข้ามาดูภาพถ่ายสะเทือนใจของเหล่าผู้คนที่ดูจะดราม่ายิ่งกว่าซีรีส์ทีวีเลยล่ะ 😅
😊 ชวนมาดูผู้คนที่ชีวิตเหมือนอยู่ในเมืองมหัศจรรย์ตลอดเวลา เพราะพวกเขามักพบเจอแต่เรื่องราวแปลก ๆ อยู่เสมอ 😆
😯 ชวนมาดูภาพถ่ายที่พิสูจน์ว่ายังมีสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้เวลาเปลี่ยนไป 😊
😯 เพราะเหตุใดดวงตาของคุณถึงมีขี้ตาเมื่อคุณนอนหลับ 😃










