หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การประชุมของผีเสื้อ

เนื้อหาโดย อักษราลัย

การประชุมของผีเสื้อ

 

โดย อักษราลัย

 

 ยามเช้าคลี่คลายม่านหมอกเบาบางออกจากปลายหญ้าอย่างนุ่มนวล แสงแดดแรกของวันทอดแสงสีทองลออผ่านใบไม้ที่ยังเปียกชื้นจากค่ำคืน ท่วงทำนองของสายลมพลิ้วผ่านยอดไม้ เหมือนเสียงกระซิบของใครบางคนที่เคยอยู่มาก่อนจะหายไป

 

 ณ ปลายกิ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่สูงที่สุดในเขตทุ่งโล่ง ผีเสื้อปีกสวยหลากสีโบกปีกอย่างงามสง่า ท่ามกลางแสงแดดที่กรองผ่านละอองเกสร พวกมันกำลังเตรียมตัวสำหรับการประชุมประจำฤดู—การประชุมของชนชั้นผีเสื้อ ซึ่งถูกขนานนามว่า “สภาแห่งกลีบอิสระ”

 

 บรรดาผีเสื้อที่มาร่วม ล้วนคัดมาจากแหล่งดอกไม้ชั้นเยี่ยมทั่วทุ่ง ทั้งจากแอ่งน้ำกลางป่าฝน ที่ราบสูงริมเขา ไปจนถึงสวนของมนุษย์ที่ถูกจัดแต่งด้วยมืออย่างประณีต เส้นสายสีบนปีกของพวกมันเจิดจ้า เย่อหยิ่ง และงามระยับจนแม้แต่สายตาของนกเบื้องล่างยังต้องชะงัก

 

 เสียงของผีเสื้อเฒ่า ผู้มีปีกสีงาช้างแต้มทองซึ่งได้รับตำแหน่งประธานแห่งสายลม เปิดประชุมด้วยถ้อยคำที่ชุ่มล้นไปด้วยกลิ่นของอภิสิทธิ์

 

 “เราผู้เป็นทายาทแห่งความงาม มีหน้าที่ดูแลเขตแดนแห่งกลีบดอกไม่ให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของสิ่งหยาบกร้าน”

 

 บรรดาปีกบางเบาปรบปีกแผ่วเบาเป็นสัญญาณแห่งความเห็นชอบ ขณะที่กลีบดอกเบื้องล่างสั่นไหวเพราะละอองน้ำที่ไม่มีผีเสื้อใดสนใจบินเข้าไปหาอีกแล้ว

 

 ท่ามกลางการสนทนาเรื่อง “การบริหารพื้นที่ดอกไม้ให้เกิดประสิทธิภาพแห่งการเกาะพักอันสูงสุด” ไม่มีใครกล่าวถึงการผสมเกสร หรือการแตะต้องละอองเรณูอีกต่อไป เพราะสำหรับพวกผีเสื้อสภา การหยิบยื่นสิ่งใดกลับคืนให้ดอกไม้ ดูจะเป็นภาระที่ไม่สง่างามเอาเสียเลย

 

 “เราควรเว้นกลีบที่ซีดจากสายตาเถิด” ผีเสื้อสีม่วงครามลายหินอ่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแต่เด็ดขาด “กลีบจืดเหล่านั้นบั่นทอนภาพลักษณ์ของพวกเราเสียเปล่า ๆ”

 

 เสียงสนับสนุนดังขึ้นเป็นระลอก ทั้งที่ไม่เคยมีใครบินต่ำลงไปสัมผัสกลีบจืดเหล่านั้นมานานหลายฤดูแล้ว

 

 เบื้องล่างของการประชุม เหล่าดอกไม้เฝ้ามองท้องฟ้าด้วยความนิ่งเงียบ บางกลีบเริ่มเหี่ยว บางต้นโอนเอนไปทางแสงแดดที่เริ่มแผดเผา ไม่มีละอองเรณูใหม่ ไม่มีการแต่งงานระหว่างสายพันธุ์ ไม่มีการสานต่อของชีวิต

 

 แมลงผสมเกสรอื่น ๆ เคยทำหน้าที่แทน แต่เมื่อกลิ่นหอมเริ่มอ่อนจาง พวกมันก็จากไป

 

 เหลือเพียงผีเสื้อชนชั้นสูง ที่ยังคงล่องลอยเหนือยอดไม้ พร่ำถึง “เสรีภาพแห่งการบินสูง” และ “ศักดิ์ศรีของการไม่แตะดิน”

 

 กลางการประชุมอันยืดยาว มีเสียงผีเสื้อหนุ่มตนหนึ่งที่ดูเงียบงันตลอดมาเอ่ยขึ้น

 

 “ข้าพบว่าดอกไม้ที่เราเคยหยุดอยู่เมื่อนานมาแล้ว...ไม่เหลือกลิ่นเดิมอีกต่อไป”

 

 ทุกสายตาหันมาหาเขา เสียงปีกเริ่มกระพือด้วยความไม่พอใจ

 

 “และทุ่งที่เคยเคล้าไปด้วยกลิ่นเกสร ก็กลับเงียบงัน… ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอีกเลยนอกจากความงามที่เราใช้แล้วทิ้ง”

 

 เสียงของเขาไม่ดังพอจะกลบเสียงหัวเราะอ่อน ๆ ที่ลอยตามลมมา

 

 “เจ้าคิดว่าเจ้าคือผึ้งหรือไง?”

 “จงจำไว้ว่า พวกเราเกิดมาเพื่อความงาม ไม่ใช่เพื่อประโยชน์”

 

 ไม่มีใครกล่าวถึงความงามที่ไร้ประโยชน์เลยสักคำ

 

 ชายหนุ่มผีเสื้อค่อย ๆ บินจากไป ทิ้งการประชุมไว้เบื้องหลัง ทิ้งยอดไม้ ทิ้งสภา และโบยบินลงต่ำ สู่ดอกไม้แห้งเฉา กลีบซีดจางที่ไม่มีใครเหลียวแล เขาแตะลงอย่างอ่อนโยน พร้อมละอองเรณูที่เกาะขาโดยไม่ตั้งใจ

 

 ดอกไม้กลีบนั้นสั่นสะท้านเล็กน้อย เหมือนได้กลิ่นบางอย่างกลับคืนอีกครั้ง

 

 แต่ไม่มีใครเห็น เพราะบนยอดไม้ การประชุมยังดำเนินต่อไป

 

 ฤดูผ่านไปอีกครั้งหนึ่ง

 

 แสงแดดกลายเป็นแสงที่แผดเผา แทนที่จะหล่อเลี้ยง ลมกลายเป็นลมหวนร้อนที่กรอบเกรียม ดอกไม้แห้งตายทั่วทุ่ง เบื้องล่างกลายเป็นผืนดินแข็งกระด้างที่แม้แต่แมลงก็ไม่คิดจะหยุดพัก

 

 ไม่มีผึ้ง ไม่มีภมร ไม่มีผีเสื้ออื่นใดนอกจาก “สภาแห่งกลีบอิสระ” ที่ยังประชุมกันอย่างขะมักเขม้น—ในทุ่งที่ไม่มีดอกไม้หลงเหลือให้กล่าวถึงอีกแล้ว

 

 “เราจะย้ายไปยังแหล่งดอกไม้ใหม่...”

 “ใช่… ดอกไม้ของสวนมนุษย์ยังเหลืออยู่”

 

 แต่เมื่อบินไปถึง พวกมันก็พบว่า…ไม่มีใครรอรับอีกต่อไป

 

 กลีบดอกที่เคยยินดีต้อนรับ กลับปิดตัวแน่นสนิท

สวนของมนุษย์ใช้สารเคมีแทนแมลง และดอกไม้เหล่านั้นก็ไม่ต้องการปีกบางเบาที่มาเพื่อพร่ำพรรณนาโดยไม่ลงมือแตะต้องอีกต่อไป

 

  “ทำไมดอกไม้ถึงไม่บานรับเราอีกแล้ว?”

 “ทำไมกลิ่นเกสรถึงไม่มี?”

 “ทำไมโลกถึงเงียบงัน?”

 

 ไม่มีใครตอบได้

 

 บางตัวพยายามตะโกน แต่เสียงไม่อาจดังไปกว่าเสียงลมแรงที่พัดผ่านกลีบดอกไม้ที่ไม่อ้าแขนรับ

 

 และในที่สุด…ผีเสื้อหนึ่งตัวที่เหลืออยู่บนยอดไม้สูงสุด เอ่ยคำถามที่ไม่มีใครตอบ

 

 “เราบินขึ้นมาสูงถึงเพียงนี้…เพื่ออะไร?”

 

 ผีเสื้อบางตัวกระพือปีกอย่างร้อนรน ในความรู้สึกที่มันไม่อาจเรียกชื่อ

 ไม่ใช่ความหิว

 ไม่ใช่ความเหงา

 ไม่ใช่แม้แต่ความกลัว

 หากคือความว่างเปล่าที่เหมือนจะบางเฉียบ ทว่ากัดกร่อนอย่างแนบเนียน—เหมือนสายลมที่ไม่เย็นและไม่อุ่น แค่พัดผ่านโดยไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย

 

 “บางทีเราน่าจะกลับไปยังทุ่งเดิม…”

 เสียงแผ่วเบาของผีเสื้อปีกสีน้ำเงินราวราตรีกาลถูกกลืนไปในเสียงกระพือของอีกหลายร้อยปีก

 ไม่มีใครฟังเสียงนั้นจริงจัง เพราะในหมู่ชนชั้นผีเสื้อ การหันหลังกลับไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมของพวกมัน

 

 มันเลือกบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นไปอีก ขึ้นไปให้ไกลจากกลิ่นดิน จากสีของกลีบดอก จากเสียงกระซิบของธรรมชาติที่เคยเลี้ยงมันมา

 

 โลกเบื้องล่างเริ่มแห้งแล้ง ไม่ใช่เพียงเพราะฤดูกาล แต่เพราะการละเลย แมลงตัวเล็ก ๆ ที่เคยวุ่นวายระหว่างกลีบ ถูกแทนที่ด้วยความนิ่งงัน กลีบดอกที่เคยหอมหวาน กลับเต็มไปด้วยความเฉื่อยชาที่แม้แต่ลมยังไม่อยากพัดพา

 

 ผู้คนในทุ่ง เริ่มถอนต้นไม้ เปลี่ยนดินเป็นแผ่นหิน เรียกมันว่า “ทางเดินสวย” แล้วนำกระถางดอกไม้พลาสติกมาวางแทนต้นจริง

 

 ในที่ที่ไม่มีแมลง…ย่อมไม่มีดอกไม้แท้

 

 และในที่ที่ไม่มีดอกไม้แท้...ผีเสื้อก็เหลือเพียงบทกวีเปลือยเปล่าในโลกที่ไม่มีใครอยากอ่าน

 

 คืนหนึ่งในปลายฤดู ผีเสื้อตัวหนึ่งบินหลงมาจากป่าไกล มันปีกขาดครึ่งหนึ่ง และมีคราบฝุ่นพอกอยู่ตามลำตัวอย่างหยาบกระด้าง

 แต่มันบินได้…แม้จะเซ…แม้จะไร้ทิศทาง…แต่มันยังบิน

 

 พวกในสภาหัวเราะ

 “ดูสภาพสิ นั่นหรือคือสิ่งที่เจ้าอยากเป็น?”

 “ไม่มีเส้นปีกให้ภาคภูมิ ไม่มีลวดลายให้จดจำ ไม่มีแม้แต่นามเรียกขาน”

 

 แต่เจ้าผีเสื้อตัวนั้น ยิ้มในแบบของมัน—รอยยิ้มที่ไม่ต้องการเสียงปรบมือ

 

 มันเล่าถึงป่าที่ไม่มีใครตั้งชื่อ

 เล่าถึงแมลงตัวจ้อยที่ช่วยกันแบกเกสร

 เล่าถึงดอกไม้เล็ก ๆ ที่เติบโตจากดินที่ไม่มีใครใส่ปุ๋ย

 เล่าถึงโลกอีกฟากที่ไม่หรูหรา…แต่มีชีวิต

 

 ผีเสื้อสภาบางตนเริ่มเงียบ ไม่ใช่เพราะเห็นด้วย

แต่เพราะไม่รู้จะแย้งอะไร

 เมื่อปีกของตัวเอง—แม้จะงาม—กลับไม่เคยสัมผัสโลกเบื้องล่างมานานหลายรุ่นแล้ว

 

 เช้าวันหนึ่ง กลางทุ่งแห้งแล้ง มีสิ่งหนึ่งแทรกตัวขึ้นมาท่ามกลางรอยแตกระแหงของดิน

 ต้นเล็ก ๆ งอกเงยอย่างอวดกล้า

 มันไม่มีกลิ่น

 ไม่มีสีฉูดฉาด

 ไม่มีแม้แต่ชื่อ

 แต่สิ่งหนึ่งที่มันมีคือ “การเริ่มต้น”

 และที่ปลายยอดของมัน มีดอกตูมเล็ก ๆ บานออก—อย่างไม่สนใจว่าผีเสื้อจะหันมามองหรือไม่

 

 ผีเสื้อหนุ่มที่เคยพูดในการประชุมลุกขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้ ไม่มีการประชุม

 ไม่มีผู้ฟัง

 มีเพียงเขา กับดอกไม้หนึ่งดอก กับสายลมหนึ่งสาย

 

 เขาโบยบินช้า ๆ แตะกลีบอย่างเงียบงัน และในวินาทีนั้น กลีบดอกสั่นไหวเหมือนยิ้มออก

 เกสรแตะเกสร

 ชีวิตต่อชีวิต

 ไม่มีใครปรบมือ

 ไม่มีใครชื่นชม

 แต่ดินเบื้องล่างเริ่มชุ่ม

 เมล็ดเล็ก ๆ กระเด็นออกมาจากปลายกลีบ และตกลงในดินที่กำลังรอคอย

 

 การประชุมของผีเสื้อครั้งใหม่…เริ่มขึ้นในความเงียบ

 ไม่มีใครกล่าวเปิด

 ไม่มีคำแถลงการณ์

 ไม่มีการลงคะแนนเสียง

 

 แต่มีปีกบางคู่แตะลงบนกลีบดอกไม้อย่างอ่อนโยน

 

 ในโลกของความจริง…

 

 มนุษย์บางคนอาจกำลังเดินผ่านทุ่งนั้น มองเห็นเพียงผีเสื้อธรรมดา กับดอกไม้ที่ไม่มีชื่อ

 

 พวกเขาอาจถ่ายรูป อาจเดินเลยไป อาจไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเคยมีการประชุมของผีเสื้อที่เคยสูงส่ง และพังทลายลงมาเงียบ ๆ

 

 เหมือนทุกอารยธรรมที่ลืมว่าตัวเองต้องอาศัยอะไร

 

 และเมื่อลืม…ก็ไม่เหลืออะไรให้จำ

 

 "อย่าบินสูงเสียจนลืมดิน และอย่าเชิดหน้าจนไม่เห็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่

าตา" ผีเสื้อบางตนเคยกระซิบไว้

 

 แต่ไม่มีใครจด ไม่มีใครเขียนลงในรายงานสภา

 

 เหลือเพียงกลีบดอกที่ยังยิ้มในสายลม กับบางปีกที่ไม่งาม...แต่กล้าแตะดิน

 

 … จบ …

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
คนเหงาและโดดเดี่ยวส่วนมากที่ไม่โสด🥺☹️การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยาย
ตั้งกระทู้ใหม่