หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผลสำรวจเผยชาวญี่ปุ่นเลิกใช้คำว่า “ซาโยนาระ” ไปแล้วกว่า 70% เหตุเพราะให้ความรู้สึกลาจากตลอดกาล

เนื้อหาโดย หนึ่งล้านเรื่องเล่า

 

เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อผลสำรวจล่าสุดได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางภาษาและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการใช้ถ้อยคำในการกล่าวลา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็กน้อยที่สะท้อนทัศนคติของสังคมในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี

 

จากการสอบถามประชาชนชาวญี่ปุ่นในเขตมินามิ เมืองโอซากา จำนวน 30 คน ซึ่งมีช่วงอายุตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปี เกี่ยวกับการใช้คำว่า “ซาโยนาระ” (さようなら) หรือในภาษาคันไซคือ “ไซนาระ” ผลปรากฏว่ากว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “ไม่ใช้” หรือ “ไม่คิดว่าจะได้ใช้” คำกล่าวลานี้ในชีวิตประจำวัน

 

โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 20-30 ปี ยิ่งพบแนวโน้มการเลิกใช้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวคือ มีผู้ตอบเพียง 3 คนจาก 14 คนเท่านั้นที่ยังใช้คำว่า “ซาโยนาระ” อยู่ ขณะที่อีก 11 คนระบุว่าเลิกใช้ไปแล้ว เนื่องจากคำดังกล่าวให้ความรู้สึกลึกซึ้งราวกับการจากลาอย่างถาวร และบางรายถึงกับกล่าวว่า คำนี้ให้ความรู้สึก “เย็นชา” หรือ “ไม่มีความต่อเนื่อง” ในความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง

 

ในทางกลับกัน คำกล่าวลาที่ได้รับความนิยมแทน “ซาโยนาระ” ในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น

 

“จ้า” (じゃあ) ที่มีความหมายว่า “แล้วพบกันใหม่”

 

“มาตะเนะ” (またね) แปลว่า “เจอกันใหม่”

 

“โอสึคาเระซามะ” (おつかれさま) ใช้กล่าวขอบคุณในความเหนื่อยยาก

 

หรือแม้แต่คำทับศัพท์อย่าง “บายบาย” (バイバイ) ก็เป็นที่นิยมในชีวิตประจำวัน

 

ผู้ตอบแบบสอบถามหลายท่านได้อธิบายอย่างน่าสนใจว่า การใช้ถ้อยคำกล่าวลาในบริบทสังคมญี่ปุ่นปัจจุบัน ไม่เพียงเป็นเรื่องของภาษาศัพท์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจในการรักษาความสัมพันธ์ เช่น การใช้คำว่า “มาตะ อะชิตะ” (またあした = ไว้เจอกันพรุ่งนี้) หรือ “มาตะ ไรชู” (また来週 = ไว้เจอกันสัปดาห์หน้า) ล้วนเป็นคำกล่าวลาที่แฝงไปด้วยความหวังว่าจะได้พบกันใหม่อีกครั้ง

 

แม้คำว่า “ซาโยนาระ” จะมีรากฐานมายาวนานตั้งแต่ยุคเอโดะ โดยมีความหมายดั้งเดิมในลักษณะสุภาพและให้เกียรติผู้ฟัง หากแต่ในปัจจุบัน ความหมายแฝงที่สื่อถึงการจากลาอย่างถาวรกลับทำให้ผู้คนรู้สึกห่างเหินมากขึ้น และอาจไม่เหมาะสมกับการใช้ในบริบทที่ต้องการความใกล้ชิดและการพบปะต่อเนื่องในอนาคต

 

นับเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของพลวัตทางภาษา ที่เปลี่ยนแปลงตามบริบททางสังคม วัฒนธรรม และความรู้สึกของผู้ใช้ภาษาเอง

 

ท่านผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเลิกใช้คำว่า “ซาโยนาระ” นี้? ในสังคมไทย เรามีคำใดที่อาจถูกลดบทบาทไปด้วยเหตุผลใกล้เคียงกันหรือไม่?

เนื้อหาโดย: เรื่องน่ารู้
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ"พญาบึ้ง" จ.อ่างทอง คัดเลขเด็ดเน้นๆ ลุ้นโชคงวด 2/1/69ทางบุญลุ้นทางรวย:พิธีเสกพระปิดตา ณ โบสถ์มหาอุด 1,000 ปี วัดป่าเลไลยก์"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักร้องเคป็อประดับตำนานเผย "ผมไม่ค่อยชอบเพลงฮิตอย่าง APT ของโรเซ่"Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ไอ้ด่างคลองบางมุด จระเข้กินคนที่ใหญ่ที่สุดอ.เฉลิมชัย ออกโรงยับยั้งกลางดึก หลังผลงานในวัดถูกทุบทำลาย หวิดสูญสิ้นมรดกศิลป์ของแผ่นดินชีวิตที่แตกต่างในทางความรู้สึก แม้ว่าเรานั้นจะอยู่ในแผ่นดินแผ่นเดียวกันท้องฟ้า สายน้ำและอาคารปราสาท ต่างรอแสงแห่งวัน (เวียงจันทน์ ประเทศลาว)
ตั้งกระทู้ใหม่