13 นิสัยน่ารำคาญ ในความสัมพันธ์ อย่าเผลอไปใช้กับใคร จนทำให้คนที่รักเรารู้สึก’เบื่อ’จนอยากถอยหนี
1.จู้จี้ขี้บ่น เป็นการกระทำที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกควบคุมจนหายใจไม่ออก เราสามารถจู้จี้ได้นิดหน่อย ดูแลกันได้เล็กน้อย และควรถอยห่างออกมา ปล่อยให้เขาได้ใช้เวลากับตัวเอง ให้เราเรียนรู้ว่าเมื่อต้องการความช่วยเหลือ เขาจะร้องขอเอง
2.บุกรุกความเป็นส่วนตัว ทุกคนย่อมต้องการโลกส่วนตัว มีสถานที่ที่จะอยู่ลำพัง เพื่อคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องงาน ความทะเยอทะยาน ความใฝ่ฝัน เป็นต้น อย่ารุกเร้าเข้าไป ควรให้เวลาส่วนตัวกับเขาบ้าง
3.ตอบ “เปล่า” เมื่อเขาถามว่า “เป็นอะไรไป” การตอบเขาว่า “เปล่า” ไม่ช่วยอะไรเลย สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ ตอบเขาอย่างซื่อตรงในครั้งแรกที่เขาถาม ไม่อย่างนั้นเขาอาจเชื่อคำตอบของเรา และเข้านอนโดยไม่สนใจว่าเรากำลังมีปัญหาจริง ๆ
4.ตัดสินใจไม่ได้ อย่าไปทำให้ใครต้องทุกข์ทนกับจิตใจ รวนเรของเรา อย่างเช่น เมื่อต้องเลือกเมนูอาหารที่อยากกิน หรือเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ถูกใจสักตัว ควรพยายามตัดสินใจให้ฉับไวเป็นครั้งคราว
5.ชวนทะเลาะเพื่อจะขอคืนดี การที่ทำแบบนั้นเพียงเพราะชอบความสนิทสนมที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางอารมณ์ระหว่างกัน แต่เขาอาจมองว่า การด่าทอเป็นเรื่องเลวร้าย และไม่ชอบวิธีกระชับความสัมพันธ์แบบนี้ ถ้าจะทะเลาะกับใครขอให้แน่ใจว่าเราได้ประโยชน์พอที่จะทำแบบนั้น
6.บอกใช่ (แต่หมายถึงไม่) การที่ ไม่ คือ ใช่ และ ใช่ คือ ไม่ ทำให้เกิดความสับสน ต้องใช้ความพยายามในการเดาความหมายที่แท้จริง และเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด เมื่อเดาผิด เพราะไม่มีใครสามารถอ่านใจใครได้
7.ขี้โวยวายกล่าวหา เมื่อเรารู้สึกไม่พอใจ เราควรพูดสื่อสารอย่างมีเชิง เมื่อต้องบอกว่าเราไม่พอใจอะไร เพราะไม่มีใครสามารถทำไม่ได้ดั่งใจเราทุกครั้ง
8.ไม่รับฟัง ปัญหาของเขา อย่าเปรียบเทียบปัญหาของเขาว่าเป็นเรื่องเล็ก ไม่สำคัญสำหรับเรา การปล่อยให้เขาจมอยู่กับปัญหา อาจทำให้ทุกอย่างย่ำแย่ จนเขาหมดปัญญาไม่รู้ว่าจะทำยังไง บางครั้งเขาแค่ต้องการให้เรารับฟังปัญหาของเขาบ้างก็เท่านั้น
9.พูดอ้อมค้อม ระดับความอดทนของคนเรานั้นไม่เท่ากัน บางครั้งที่เรามีเรื่องจะบอกเขา ควรพูดให้สั้นและอ่อนหวาน ไม่มีอะไรน่าทุกข์ใจไปกว่าการฟังเรื่องที่เล่าอ้อมค้อม
10.ชอบนินทา/ปากพล่อย การนินทา การจิกกัดว่าร้าย การพูดถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรเข้าร่วมวงนินทา ปากพล่อย เมื่อไรที่เราพูดถึงเรื่องต่าง ๆ ของคนใกล้ตัวของเราให้ผู้อื่นรับรู้ เป็นการทำลายความไว้วางใจที่มีให้กัน
11.ชอบถามว่า “คุณรักฉันไหม” ซ้ำ ๆ ถ้าเขาไม่ได้บอกรักมาพักหนึ่งแล้ว ถึงควรจะหยิบยกหัวข้อนี้ มาพูดเป็นครั้งคราว และต้องยอมรับว่าเขาไม่สามารถเข้าใจว่าการบอกรักเป็นประจำมีผลต่อหัวใจของเรา
12.สื่อความหมายสับสน คือการที่คำพูดที่หลุดปากกับการกระทำตรงกันข้าม ทำให้สับสนกับสารที่ได้รับ อย่างเช่น เราหัวเราะกับมุขตลกของเขา สบตาเขา สะบัดผมใส่เขาและไขว้ขาไปทางที่เขาอยู่ แต่เมื่อเขาชวนดินเนอร์ กลับปฏิเสธ
13.ชอบพูดถึงแฟนเก่า ความคิดแรกที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราพูดถึงแฟนเก่าคือ “ดี งั้นทำไมมาอยู่กับฉัน ไม่ใช่เขาล่ะ” ควรคิดถึงใจเขาใจเราบ้าง คงไม่มีใครอยากได้ยินเรื่องแฟนเก่า หรือเรื่องของคนอื่น ๆ บ่อย ๆ จริงไหม
อ้างอิงจาก: https://www.girlsfriendclub.com/นิสัยน่ารำคาญ/
https://www.rowwadee.com/29245/
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
"ข้าวโพด-เจนี่" ย้อนดูคลิปงานแต่ง "เวย์-นานา"..เหมือนเดจาวูบอกเหตุล่วงหน้า
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
ชายวัย 52 ปี กินมันฝรั่งแทนข้าวเป็นเวลา 1 ปี ผลตรวจสุขภาพทำให้หมออึ้ง
สมุนไพรต้านอากาศหนาว ดีต่อระบบหายใจ พร้อมสู้ฝุ่น PM2.5
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที
ให้เพลงบำบัดใจ ดนตรีคือยาสมานแผลที่มองไม่เห็น แต่รักษาได้จริง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
“ดราม่าระอุ! นางงามกัมพูชาสวมชุดไทยขึ้นเวที Miss Cosmo อ้างเป็นของเขมร คนไทยตั้งคำถาม กระทรวงวัฒนธรรมไทยอยู่ไหน?”
ชาวนากัมพูชาผิดหวังจนต้องเผาข้าวทั้งนา – เมื่อเศรษฐกิจพึ่งไทยจนวันหนึ่งไทยปิดด่าน…ทุกอย่างพังเป็นโดมิโน!” 🔥
ให้เพลงบำบัดใจ ดนตรีคือยาสมานแผลที่มองไม่เห็น แต่รักษาได้จริง
"ข้าวโพด-เจนี่" ย้อนดูคลิปงานแต่ง "เวย์-นานา"..เหมือนเดจาวูบอกเหตุล่วงหน้า
ชายวัย 52 ปี กินมันฝรั่งแทนข้าวเป็นเวลา 1 ปี ผลตรวจสุขภาพทำให้หมออึ้ง
“เปิดกระเป๋า G-Wallet แล้วตกใจ… ทำไมมี 3 ฟีเจอร์ที่รัฐไม่เคยบอก แต่ใช้แล้วได้ประโยชน์กว่าคนละครึ่ง?”






