หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิดตำนานการตั้งชื่อ 27 ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส: จากภูตพรายเชคสเปียร์สู่ตัวละครอมตะ

เนื้อหาโดย Boss Panuwat

เปิดตำนานการตั้งชื่อ 27 ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส: จากภูตพรายเชคสเปียร์สู่ตัวละครอมตะ

รู้หรือไม่ว่าทำไมชื่อดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสถึงฟังดูคุ้นๆ เหมือนหลุดออกมาจากวรรณกรรมสุดคลาสสิก? มาเจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังการตั้งชื่อสุดแหวกแนวที่ไม่เหมือนใครของดาวเคราะห์ดวงที่เจ็ดในระบบสุริยะของเรา!

ดาวยูเรนัส หรือดาวมฤตยู ดาวเคราะห์สีฟ้าอมเขียวที่อยู่ห่างไกลออกไปในระบบสุริยะของเรา ไม่ได้มีแค่ความสวยงามที่ชวนให้หลงใหลเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวการตั้งชื่อดวงจันทร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ปัจจุบันนี้ ดาวยูเรนัสมีดวงจันทร์ที่ค้นพบแล้วถึง 27 ดวง! และส่วนใหญ่ก็มีชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในผลงานของสองนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการวรรณกรรมอังกฤษอย่าง วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare) และ อเล็กซานเดอร์ โปป (Alexander Pope) ฟังดูแปลกใช่ไหมล่ะ? มาดูกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา: ชื่อจากภูตพรายแห่งวรรณกรรม

แม้ว่าสองดวงจันทร์แรกของดาวยูเรนัสจะถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1787 โน่น! แต่เชื่อไหมว่าพวกมันไม่ได้ถูกตั้งชื่อจนกระทั่งปี 1852 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ค้นพบดวงจันทร์เพิ่มอีกสองดวง หน้าที่อันสำคัญนี้ตกเป็นของ จอห์น เฮอร์เชล (John Herschel) ลูกชายของนักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบดาวยูเรนัสอย่าง วิลเลียม เฮอร์เชล (William Herschel) ซึ่งปกติแล้วการตั้งชื่อดวงจันทร์มักจะใช้ชื่อจากเทพปกรณัมกรีก แต่เฮอร์เชลผู้ลูกกลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!

เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้ชื่อเทพเจ้ากรีก แต่หันไปหยิบยืมชื่อจากภูตผีปีศาจและวิญญาณวิเศษในวรรณคดีอังกฤษแทน! และนั่นคือที่มาของชื่อดวงจันทร์สุดคลาสสิกอย่าง โอเบรอน (Oberon) และ ไททาเนีย (Titania) ซึ่งเป็นชื่อของราชาและราชินีแห่งภูตพรายในบทละครอมตะของเชคสเปียร์อย่าง A Midsummer Night's Dream นอกจากนี้ยังมี แอเรียล (Ariel) นางฟ้าอากาศ และ อัมเบรียล (Umbriel) ภูตดินจากบทกวี The Rape of the Lock ของอเล็กซานเดอร์ โปป (แอเรียลยังเป็นภูตในบทละคร The Tempest ของเชคสเปียร์ด้วยนะ) เหตุผลที่เฮอร์เชลเลือกใช้ชื่อเหล่านี้ก็น่าจะเพราะว่ายูเรนัสเป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและอากาศ ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะมีบริวารเป็นวิญญาณแห่งอากาศนั่นเอง!

วิวัฒนาการของการตั้งชื่อ: จากภูตผีสู่ตัวละครมนุษย์

หลังจากนั้นแนวคิดเรื่อง "วิญญาณแห่งอากาศ" ก็ไม่ได้ถูกสานต่อมากนัก (มีเพียงพัค Puck และแม็บ Mab เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในธีมนี้) การตั้งชื่อดวงจันทร์ในยุคหลังๆ จึงหันไปมุ่งเน้นที่แหล่งอ้างอิงเดิมของเฮอร์เชลแทน

ในปี 1949 เจอราร์ด ไคเปอร์ (Gerard Kuiper) ผู้ค้นพบดวงจันทร์ดวงที่ห้าได้ตั้งชื่อมันว่า มิแรนดา (Miranda) ซึ่งเป็นตัวละครมนุษย์ธรรมดาๆ ในบทละคร The Tempest ของเชคสเปียร์ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการตั้งชื่ออย่างชัดเจน และนับแต่นั้นเป็นต้นมา แนวปฏิบัติของ สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU) ก็คือการตั้งชื่อดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสตามตัวละครจากบทละครของเชคสเปียร์และบทกวี The Rape of the Lock

ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเพียงแอเรียล, อัมเบรียล และเบลินดาเท่านั้นที่ชื่อมาจาก The Rape of the Lock ส่วนที่เหลือล้วนมาจากบทละครของเชคสเปียร์ทั้งสิ้น! ในช่วงแรกๆ ดวงจันทร์ที่อยู่ด้านนอกสุดมักจะถูกตั้งชื่อตามตัวละครจากบทละคร The Tempest เพียงเรื่องเดียว แต่หลังจากที่ดวงจันทร์ มาร์กาเร็ต (Margaret) ถูกตั้งชื่อตามตัวละครจากบทละคร Much Ado About Nothing แนวโน้มนี้ก็สิ้นสุดลง

ความหลากหลายและเสน่ห์เฉพาะตัว

การที่ชื่อดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสมาจากวรรณกรรมเหล่านี้ทำให้พวกมันมีความพิเศษและแตกต่างจากดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ที่มักจะใช้ชื่อจากเทพปกรณัมกรีกและโรมัน การตัดสินใจของจอห์น เฮอร์เชลเมื่อกว่า 170 ปีที่แล้ว ได้สร้างมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจให้กับวงการดาราศาสตร์ และยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ทุกครั้งที่เราได้ยินชื่อดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส เราก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตัวละครในวรรณกรรมเหล่านั้น

ลองนึกภาพดูสิว่า การเดินทางสำรวจอวกาศในอนาคตที่มนุษย์เราอาจจะไปเยือนดวงจันทร์เหล่านี้ จะเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นแค่ไหน กับชื่อที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นโอเบรอน ไททาเนีย แอเรียล หรือมิแรนดา แต่ละชื่อล้วนแล้วแต่มีความหมายและเชื่อมโยงกับโลกแห่งวรรณกรรมที่คนทั่วโลกรู้จักดี ทำให้การศึกษาเรื่องราวของดาวยูเรนัสและดวงจันทร์ของมันยิ่งสนุกและมีสีสันมากยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้น ครั้งหน้าถ้าใครพูดถึงดาวยูเรนัส อย่าลืมว่าเบื้องหลังชื่อของดวงจันทร์เหล่านั้น มีเรื่องราวของวรรณกรรมและจินตนาการอันล้ำค่าซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้การเรียนรู้เรื่องอวกาศไม่เคยน่าเบื่อเลย!

เนื้อหาโดย: Boss Panuwat
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Boss Panuwat's profile


โพสท์โดย: Boss Panuwat
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?""ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตเปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ตั้งกระทู้ใหม่