ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร? ดีอย่างไร? กระตุ้นคอลลาเจนจริงไหม?
ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร? ดีอย่างไร? กระตุ้นคอลลาเจนจริงไหม?
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนเป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ และผิวแห้งกร้าน ช่วยชะลอวัยและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร ทำงานอย่างไร มีประโยชน์อะไร และวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวบรวมข้อมูลครบจบมาให้แล้ว
ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร?
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) คือการฉีดสารพิเศษเข้าสู่ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น เมื่อคอลลาเจนใหม่สะสมมากขึ้น ผิวจึงแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่นขึ้น ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ชุ่มชื้น และเรียบเนียนอย่างยาวนาน ผลลัพธ์ที่ได้คงอยู่ได้นานและยั่งยืนหลังฉีด
ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ทำงานอย่างไร?
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ทำงานโดยส่งสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ในชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เมื่อได้รับการกระตุ้น เซลล์เหล่านี้จะผลิตเส้นใยคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกลับมาแน่นกระชับ ยืดหยุ่น และแข็งแรงจากภายใน โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างใบหน้า สารที่ฉีดจะสลายไปเองตามธรรมชาติ เหลือเพียงคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น ผลลัพธ์จึงอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ
ทำไมถึงควรฉีดกระตุ้นคอลลาเจน?
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลงตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยลดเฉลี่ยปีละ 1-1.5% ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ และการพักผ่อนน้อย แม้ช่วงแรกจะยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แต่เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป อัตราการลดคอลลาเจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ต่อปี และสูงถึง 25-35% เมื่ออายุ 45-55 ปี ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และขาดความกระชับ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและร่องแก้ม
แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นเรื่องธรรมชาติและเลี่ยงได้ยาก แต่สามารถชะลอความเสื่อมของผิวได้ด้วยการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกลับมายืดหยุ่น กระชับ และเรียบเนียนขึ้นจากภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างล้ำลึกและยาวนาน
ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน มีประโยชน์อย่างไร?
ประโยชน์ของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คือ ช่วยเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ลดเลือนริ้วรอยทั้งเล็กและลึก ยกกระชับผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาแน่น ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ปรับผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดหลุมสิว รอยแผลเป็น และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดดและมลภาวะ
ข้อดีของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
ข้อดีของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คือ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนธรรมชาติ แก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และผิวขาดความชุ่มชื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนโครงหน้า คงอยู่ได้นาน 12–24 เดือน ไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ปกติ เนื่องจากสามารถสลายตัวเองตามธรรมชาติ
ข้อจำกัดของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
ข้อจำกัดของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน คือ ผลลัพธ์จะเห็นช้า เริ่มชัดเจนใน 2–4 สัปดาห์แรก อาจมีอาการบวมแดงหรือปวดตึงเล็กน้อยภายใน 1–3 วัน และควรฉีดโดยแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ใครที่เหมาะกับการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน?
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และมีปัญหาผิวหลากหลาย เช่น ริ้วรอยเล็ก-ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่อิ่มฟู ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หลุมสิว รอยแผลเป็น รวมถึงผิวโทรม ต้องการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว และต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ พร้อมแจ้งประวัติสุขภาพ ยา และการรักษาที่ผ่านมา เพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี?
ปัจจุบันมีสารกระตุ้นคอลลาเจนหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีจุดเด่นแตกต่างกัน ดังนี้
Sculptra
- ส่วนประกอบ: PLLA, CMC, Mannitol
- ทำงานโดยกระตุ้นเซลล์แมคโครฟาจส่งสัญญาณกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
- เพิ่มคอลลาเจน Type 1 ถึง 66.5%
- ฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์
- ผลลัพธ์คงอยู่ 24 เดือน
Radiesse
- ส่วนประกอบ: CaHA, CMC
- เติมเต็มผิวและกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจน-อีลาสติน
- เพิ่มคอลลาเจน Type 1 ถึง 150% และอีลาสติน 260%
- ฉีด 1-3 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- ผลลัพธ์คงอยู่ 24 เดือน
Ultracol
- ส่วนประกอบ: PDO, CMC
- กระตุ้นแมคโครฟาจส่งสัญญาณกระตุ้นไฟโบรบลาสต์
- เพิ่มคอลลาเจน Type 1 และ 3, ฟื้นฟูริ้วรอยและผิวกระจ่างใส
- ฉีด 3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 เดือน
- ผลลัพธ์คงอยู่ 6-8 เดือน
Gouri
- ส่วนประกอบ: PCL
- กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
- ฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น
- ฉีด 3 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์
- ผลลัพธ์คงอยู่ 12 เดือน
Karisma Rh Collagen
- ส่วนประกอบ: Rh Collagen, HMW-HA, CMC
- กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น
- เพิ่มคอลลาเจน Type 1, 2, 3
- ฉีด 3 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์ และ 4-8 เดือน
- ผลลัพธ์คงอยู่ 6-12 เดือน
Profhilo
- ส่วนประกอบ: Non-Crosslinked Hyaluronic Acid
- กระตุ้นเซลล์ Keratinocytes, Fibroblast, Adipocyte ฟื้นฟูผิวและสร้างคอลลาเจนหลายชนิด
- ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์
- ผลลัพธ์คงอยู่ 6-9 เดือน
ข้อควรรู้ก่อนฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
- ศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและเลือกยี่ห้อที่เหมาะสม
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว การแพ้ และยาที่รับประทานกับแพทย์
- งดใช้ยาต้านการอักเสบและยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และงดทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์แรงๆ
- งดใช้สกินแคร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวก่อนฉีด
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
- งดแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีด 12–24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงบีบ จับ หรือกดแรงบริเวณที่ฉีด
- งดตากแดดนานและกิจกรรมที่โดนความร้อนโดยตรง
- งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- งดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือสครับผิวแรงๆ
- งดใช้สกินแคร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว
- งดอาหารรสจัด ดิบ และหมักดอง
- สังเกตอาการผิดปกติและพบแพทย์ทันทีหากมีปัญหา
ข้อห้ามของการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- ผู้แพ้สารฉีดกระตุ้นคอลลาเจน
- ผู้มีปัญหาเลือดออกง่ายหรือเลือดแข็งตัวยาก
- ผู้มีโรคภูมิคุ้มกัน หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- ผู้มีผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นเริมบริเวณฉีด
- ผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูนง่าย
- ผู้ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนเป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ แก้ปัญหาผิวเสื่อมสภาพ เหมาะกับผู้ต้องการฟื้นฟูผิวและผลลัพธ์ยาวนาน ควรปรึกษาแพทก่อนเข้ารับบริการเพื่อวางแผนรักษาที่เหมาะสม
















