A-Ma Temple วัดอาม่า (Macao) วัดเก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า
วัดอาม่ามาเก๊า ข่าวคราวโด่งดังเรื่องการขอพร
ขอเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน ความเป็นสิริมงคล
ใครกราบไหว้กลับมา ชีวิตในการทำงานการเงินจะดีขึ้น
วัดอาม่า วัดนี้เป็นวัดสำหรับสายมูเลยหากว่าเรานั้นมาที่นี่จะต้องมาที่วัดอาม่าเพราะว่าวัดนี้นั้นถือว่าเป็นต้นกำเนิดมาเก๊า หากมาที่นี่จะได้รับพร ซึ่งวัดนี้นั้นมีประวัติความเป็นมายาวนานมากจนน่าจะเก่าแก่ที่สุด ฟังจากชื่อ ไกด์ของเราเล่าให้ฟังว่าได้มีเด็กสาวที่ชื่อว่า หลินโม เป็นเด็กสาวที่มีความฉลาดสามารถที่จะหยั่งรู้ในเรื่องของความเจ็บปวยของคนอื่นได้ แล้วในวันหนึ่ง หลินโมนั้นมีความคิดอยากที่จะเข้ามายังคาบสมุทรอ้าวเหมินจึงได้ขอติดเรือไปกับคนอื่นที่อยากจะข้ามฝั่ง แต่ในระหว่างนั้นมีการเกิดพายุโหมกระหน่ำอย่างหนัก เป็นเหตุให้เรือหลายลำนั้้นจมลงไปในมหาสมุทร ยกเว้นแต่เรือที่มีหลินโม สามารถที่จะเดินทางมาถึงฝั่งได้อย่างปาฏิหาริย์ แล้วต่อมาเธอนั้นได้มาเสียชีวิตบริเวณอ่าว A MA วิญญาณของเธอก็จะคอยช่วยเหลือชาวประมงให้พ้นภัยอันตราย คนที่นี่เชื่อว่าเธอนั้นคือเทพธิดาแห่งท้องทะเล
เรื่องเล่านี้จึงทำให้มีการสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นการอุทิศให้กับหลินโม และยังมีการเล่าอีกว่าหลินโมนั้นสามารถขึ้นฝั่งราวกับปาฏิหาริย์ได้ ก็ลอยหายไปหลังจากที่นางนั้นได้ก้าวเท้าเหยียบก้อนหินบนฝั่ง
ใครที่มาวัดแห่งนี้นะเนจะมาขอพรในเรื่องของหน้าที่การงาน การเงิน การเดินทางปลอดภัยเมื่อต้องเดินทางไปไหนมาไหน เสริมความสิริมงคลให้กับชีวิต ที่นี่สวยงามมากเราจะต้องเดินขึ้นไปบนบันไดเพื่อที่จะไหว้ด้านบน การห้อยกระดิ่งบนต้นไม้ โดยมีข้อความหากเวลาที่ลมพัดผ่านมากระดิ่งนั้นจะส่งเสียงกังวาน ทำให้ชีวิตโด่งดังนี่เป็นความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง
บริเวณด้านหน้าของวัดก่อนที่เรานั้นจะเดินขึ้นไปบนบันได ด้านล่างนั้นมีบริเวณที่โล่งหากว่าต้องการเดินหรือนั่งพักจากการเดินลงจากวัด สามารถที่จะถ่ายภาพสวยงามได้
ต้นส้มนี้เราให้ความสนใจกันเยอะเพราะว่าจะตั้งอยู่ด้านหน้าก่อนที่เราจะเข้าไปไหว้หรือจุดธูป ซึ่งส้มนั้นถือว่าเป็นผลไม้ที่ใช้ในการกราบไหว้ของคนที่นี่ ด้วยสีของส้มที่เหมือนกันกับทอง หากว่ามีส้มออกจำนวนมาก เขาจะว่าคนปลูกนั้นจะมีโชคลาภ เราจึงเห็นคนจีนนั้นนิยมปลูกส้มไว้ในโต๊ะทำงานในบ้าน
บริเวณนี้คนเข้าคิวกันเยอะมาก ในการลูบขอบปากเราจะเรียกว่ากระทะแล้วกันเพราะว่ามันเหมอนเราจะใช้มือนั้นลูบไปมาเป็นวงกลม หากว่าเรานั้นมีบุญเสียงของกระทะจะดังกังวานบางคนนั้นจนน้ำกระเพื่อม น่าจะเหมือนเราที่ลูบคล้องใหญ่แล้วมีเสียง เสียงคล้ายกัน เราเองก็ลองลูบเหมือนกันใช้เวลานานมากกว่าจะร้อง เอาจนเหนื่อย
นี่คือวิธีการในการลูบจะนำมือทั้งสองข้างนั้นไปจับแล้วเริ่มในการขยับ ตอนนี้พี่ที่ไปด้วยกันกำลังลุ้นว่าจะเกิดเสียงหรือไม่ บริเวณด้านในที่ใส่น้ำนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหยดเที่ยน เราอยู่ตรงนี้นานมากลุ้น ตั้งแต่คนจีนเล่นยืนดูจนไม่เหลือใครแล้วเล่นกันสองคน
ตรงบริเวณนี้จะเป็นการถวายเทียนชีวิตเขาเรียกว่าการต่อชีวิตหรือการขอในเรื่องของการเงิน เชื่อว่าทำแล้วจะเงินทองไหลมาเทมา ในส่วนนี้เรามอง ไม่ต้องการขออะไรแล้ว
มาตรงนี้คือหินยักษ์ใหญ่มาก ในก้อนหินนั้นมีการสลักรูปคนมีความเชื่อว่าการนำมือไปลูบนั้นจะเพิ่มสิริมงคลให้กับตนเอง บอกว่าจะมีน้ำมนต์นั้นไหลออกมาจากด้านใน
ในหินนี้จะเล่าเรื่องราว เห็นในภาพจะเหมือนกับเรือที่ลอยลำอยู่ในทะเล เหมือนการจำลอง และหินก้อนนี้น่าจะเป็นเรือที่จมลงไปใต้มหาสมุทรนานจนกลายเป็นหอน และได้นำมาที่วัดแห่งนี้ หินนี้ตัวจริงใหญ่มาก เราเดินรอบวัดอาม่า ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่นี่ แต่ว่าบริเวณนั้นไม่ได้กว้างมากจึงใช้เวลาในการเดินไม่นาน กราบพระเสร็จแล้วเราจะเดินทางต่อเพื่อที่จะไปขอพรที่เจ้าแม่กวนอิน โดยการเดินรอบเมือง
สถานที่ในบริเวณนี้นั้นกว้างมาก และจะไม่มีการขับรถหรือมีรถวิ่งเลย ผู้คนนั้นเดินสวนกันไปมามองเห็นกัน ตามเส้นทางไม่ได้วุ่นวายเป็นเมืองที่สวยงามมากน่าไปเที่ยว


















