Karisma กับ Radiesse แตกต่างกันอย่างไร? ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
Karisma กับ Radiesse แตกต่างกันอย่างไร? ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
ในปัจจุบันมีสารกระตุ้นคอลลาเจนหลายชนิดที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Karisma และ Radiesse ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้ทั้งสองจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ก็มี จุดเด่นต่างกัน ทั้งในเรื่องของ ส่วนประกอบ กลไกการทำงาน ผลลัพธ์ และข้อจำกัด บทความนี้จะพาไปเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการดูแลผิวอย่างตรงจุด
Karisma คืออะไร?
Karisma คือ Bio-Restorative Soft Filler จากอิตาลี ตัวแรกของโลกที่ใช้ Recombinant Human Collagen ซึ่งสังเคราะห์จากรังไหมเลียนแบบ Collagen Type I ของมนุษย์ ทำให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการแพ้ เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก โดยมีส่วนประกอบสำคัญ 3 ชนิด ได้แก่:
- Collagen a1 Chain R: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและโครงสร้างผิวใหม่
- High Molecular Weight HA: เพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และต้านอนุมูลอิสระ
- CMC (Carboxymethylcellulose): ยืดอายุผลลัพธ์ พร้อมลดการสลายตัวของคอลลาเจน
Radiesse คืออะไร?
Radiesse คือสารกระตุ้นคอลลาเจนจากเยอรมนี จัดอยู่ในกลุ่ม Regenerative Biostimulator ที่มีส่วนผสมหลักคือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเลียนแบบเนื้อเยื่อมนุษย์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ฟื้นฟูผิวในระดับโครงสร้าง ได้รับการใช้งานมานานกว่า 25 ปี พร้อมงานวิจัยรองรับกว่า 250 ฉบับ Radiesse มีส่วนประกอบหลัก 2 ชนิด:
- CaHA Microspheres: อนุภาคกลมเล็ก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
- CMC Gel: ตัวพาเนื้อสารที่ช่วยให้ฉีดง่าย กระจายตัวดี และคงผลลัพธ์ได้นาน
Karisma VS Radiesse ต่างกันอย่างไร?
Karisma และ Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติต่างกันทั้งในเรื่องส่วนประกอบ กลไกการทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้
ส่วนประกอบ
- Karisma: ใช้ Recombinant Human Collagen เป็นหลัก ร่วมกับ Hyaluronic Acid (HA) และ Carboxymethylcellulose (CMC) ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น และลดการสลายของคอลลาเจน
- Radiesse: ประกอบด้วย Calcium Hydroxylapatite (CaHA) 30% และ CMC 70% ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และโครงสร้างผิวอย่างล้ำลึก
หลักการทำงาน
-
Karisma: กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ฟื้นฟูผิวให้แน่นและชุ่มชื้น พร้อมเติมเต็มริ้วรอยตื้น
-
Radiesse: เติมเต็มทันที จากนั้น CaHA สร้างโครงข่าย 3D กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ ทำให้ผิวเฟิร์มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์
- Karisma: ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน ดูชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้า
- Radiesse: ผิวดูเต็มขึ้นทันที ลดร่องลึก ยกกระชับ และสร้างผิวแข็งแรงในระยะยาว
ข้อจำกัด
- Karisma: ไม่เหมาะกับร่องลึกหรือการปรับโครงหน้า เน้นงานผิว ไม่เปลี่ยนรูปหน้า
- Radiesse: ไม่เหมาะกับผิวบาง เช่น ใต้ตา หรือริมฝีปาก เน้นยกกระชับและฟื้นฟูลึก
ระยะเวลาคงอยู่
- Karisma: ฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง อยู่ได้นาน 6–12 เดือน
- Radiesse: แนะนำ 1–3 ครั้ง อยู่ได้นานสูงสุด 24 เดือน
จุดเด่นของ Karisma
- Karisma คือสารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดฉีด ที่ใช้ Recombinant Human Collagen เป็นตัวแรกของโลก
- ผสานส่วนผสมหลัก 3 ชนิด ได้แก่ Collagen Polypeptide a1 Chain R, Hyaluronic Acid (HMW-HA) และ CMC ช่วยคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน
- เห็นผลได้ทั้งในระยะสั้น (เติมเต็มผิว) และระยะยาว (กระตุ้นคอลลาเจน)
- ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีสังเคราะห์
- สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง
- ผ่านการรับรองจาก อย. (องค์การอาหารและยา)
จุดเด่นของ Radiesse
- Radiesse กระตุ้นการสร้างสารสำคัญในผิวถึง 5 ประการ ได้แก่ Collagen Type 1 สูงสุด 150%, Collagen Type 3 สูงสุด 130%, Elastin สูงสุด 250%, Proteoglycan ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และ Angiogenesis เสริมการไหลเวียนของสารอาหารใต้ผิว
- ให้ผลลัพธ์ครบ 3 มิติ: Healthier ผิวดูสุขภาพดี, Younger ผิวอ่อนเยาว์ และ Longer ยืดอายุผิวที่ดีได้ยาวนาน
- ฉีดได้ 2 แบบ: Non-diluted สำหรับเติมเต็มผิวทันที และ Diluted / Hyper-diluted สำหรับฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้าในระยะยาว
- ไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เพราะเป็นสารเลียนแบบธรรมชาติในร่างกาย
- ใช้ในวงการแพทย์มากว่า 25 ปี พร้อมการรับรองจาก อย. และงานวิจัยมากกว่า 250 ฉบับ
Karisma ใช้ฉีดบริเวณไหน?
Karisma เหมาะกับการบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ในจุดต่าง ๆ ได้แก่
- รอบดวงตา: เติมเต็มริ้วรอยเล็ก เพิ่มความชุ่มชื้น
- หน้าผาก: เติมเต็มริ้วรอยเล็ก และเพิ่มความชุ่มชื้น
- หน้าแก้ม: เพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และความอิ่มฟู
- ร่องแก้ม: เพิ่มความยืดหยุ่นและความอิ่มฟู
- เนินอก: เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น
- ลำคอ: เติมเต็มริ้วรอยเล็ก และเพิ่มความชุ่มชื้น
- หลังมือ: เติมเต็มริ้วรอยเล็ก และเพิ่มความชุ่มชื้น
Radiesse ใช้ฉีดบริเวณไหน?
Radiesse เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก ปรับโครงสร้าง และกระตุ้นคอลลาเจนในหลายจุด ได้แก่
- หน้าแก้ม: ลดหย่อนคล้อย เพิ่มความหนาแน่นของผิว
- ร่องแก้ม: เติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มฟู
- ร่องน้ำหมาก: เติมเต็มและกระชับผิว
- ลำคอ: เพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น
- หลังมือ: ลดเหี่ยวย่น แห้งกร้าน เพิ่มความเต่งตึง
Karisma เหมาะกับใคร?
Karisma เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวหย่อนคล้อย แห้งกร้าน หรือผิวขาดความชุ่มชื้น รวมถึงรูขุมขนกว้าง หลุมสิว รอยสิว จุดด่างดำ ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นและความอิ่มฟูของผิว และฟื้นฟูผิวลำคอ เนินอก หลังมือ เหมาะกับผิวบอบบางที่ต้องการดูแลผิวระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติสุขภาพก่อนรับบริการทุกครั้ง
Radiesse เหมาะกับใคร?
Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และมีปัญหาคอลลาเจนลดลง เช่น ริ้วรอยลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ผิวขาดปริมาตรหรือมิติ รูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน หลุมสิว รวมถึงต้องการฟื้นฟูผิวลำคอและหลังมือ ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติสุขภาพก่อนรับบริการเสมอ
Karisma ช่วยเรื่องอะไร?
Karisma ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทั้งชนิดที่ 1, 2 และ 3 เพื่อฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม และหน้าผาก เพิ่มความแน่นกระชับและความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดี ช่วยกระชับรูขุมขน เติมเต็มหลุมสิว ปรับผิวเรียบเนียน พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและกระจ่างใส ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต
Radiesse ช่วยเรื่องอะไร?
Radiesse ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยเฉพาะ Collagen Type 1 และ 3 ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เติมเต็มปริมาตรผิวที่ยุบตัว ทำให้ผิวอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ พร้อมยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึกให้แข็งแรงและยืดหยุ่น เพิ่มความชุ่มชื้นแก้ผิวแห้งกร้าน เติมเต็มหลุมสิว รอยแผลเป็น ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง และปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
Karisma กับ Radiesse ฉีดร่วมกันได้ไหม?
Karisma และ Radiesse สามารถฉีดร่วมกันได้ แต่ต้องอยู่ในการดูแลและวางแผนโดยแพทย์เท่านั้น แพทย์จะพิจารณาบริเวณที่เหมาะสมในการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด โดย Karisma เน้นกระตุ้นคอลลาเจนและปรับปรุงคุณภาพผิวโดยไม่เปลี่ยนโครงหน้า ส่วน Radiesse เน้นเติมเต็มร่องลึกและปรับโครงสร้างผิวชั้นลึก
การฉีด Karisma และ Radiesse เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน Karisma เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับปรุงคุณภาพผิว ส่วน Radiesse เน้นเติมเต็มร่องลึกและปรับโครงสร้างใบหน้า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว

















