ประวัติศาสตร์กัมพูชา "จากอาณาจักรขอมผู้ยิ่งใหญ่สู่การก้าวขึ้นสู่อำนาจของฮุนเซน"
ประวัติศาสตร์กัมพูชา "จากอาณาจักรขอมผู้ยิ่งใหญ่สู่การก้าวขึ้นสู่อำนาจของฮุนเซน"
ประวัติศาสตร์ของประเทศกัมพูชาเป็นเรื่องราวอันยาวนานและซับซ้อน จากยุคแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรขอมที่แผ่อิทธิพลไปทั่วภูมิภาค สู่ช่วงเวลาแห่งความมืดมนภายใต้เงาของสงครามกลางเมืองและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่อนจะก้าวสู่ยุคปัจจุบันภายใต้การนำของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ผู้ครองอำนาจมายาวนาน
ยุคอาณาจักรขอมโบราณ: ความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรม
ประวัติศาสตร์ยุคแรกของกัมพูชาเริ่มต้นด้วยอาณาจักรฟูนันและเจนละ ซึ่งรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและศาสนาจากอินเดียอย่างสูง แต่ยุคที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดคือ สมัยพระนคร หรือ อาณาจักรขอม (คริสต์ศตวรรษที่ 9-15) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองพระนคร (นครธม) กษัตริย์ขอมผู้เกรียงไกรหลายพระองค์ เช่น พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ผู้ทรงสถาปนาอาณาจักร และพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้าง นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้สร้าง นครธม และปราสาทบายน
อาณาจักรขอมในยุคนี้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุดทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะ วิทยาการ และแสนยานุภาพทางทหาร แผ่อิทธิพลครอบคลุมดินแดนส่วนใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีป ก่อนจะเริ่มเสื่อมอำนาจลงจากการรุกรานของอาณาจักรเพื่อนบ้านอย่างอยุธยา และการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าทางทะเล
ยุคแห่งความผันผวน: อาณานิคมและการต่อสู้เพื่อเอกราช
หลังการเสื่อมอำนาจของอาณาจักรขอม กัมพูชาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสยามและเวียดนามสลับกันไป จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้เข้ามามีอำนาจในภูมิภาคอินโดจีน และกัมพูชาก็ได้ตกเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2406 (ค.ศ. 1863)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้เข้ามามีบทบาทในกัมพูชา และหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง ขบวนการชาตินิยมในกัมพูชาได้เติบโตขึ้น จนในที่สุดกัมพูชาก็ได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์จากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) ภายใต้การนำของ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
ยุคมืด: สงครามกลางเมืองและระบอบเขมรแดง
แม้จะได้รับเอกราช แต่การเมืองภายในกัมพูชากลับไร้เสถียรภาพ การเมืองโลกในยุคสงครามเย็นและความขัดแย้งในเวียดนามได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกัมพูชา ในปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) นายพลลอน นอล ได้ก่อรัฐประหารโค่นล้มระบอบสังคมราษฎรนิยมของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และสถาปนาระบอบสาธารณรัฐเขมรขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์นี้ผลักดันให้สมเด็จพระนโรดม สีหนุ หันไปจับมือกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่เรียกตนเองว่า "เขมรแดง" เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลลอน นอล
ในที่สุด วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) กองกำลังเขมรแดงภายใต้การนำของ พล พต ก็สามารถยึดกรุงพนมเปญได้สำเร็จ และสถาปนาระบอบ "กัมพูชาประชาธิปไตย" ขึ้นปกครองประเทศ ช่วงเวลา 4 ปีภายใต้การปกครองของเขมรแดง (พ.ศ. 2518-2522) ถือเป็นยุคที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์กัมพูชา มีการบังคับให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองไปใช้แรงงานในชนบท ยกเลิกระบบเงินตรา การศึกษา และศาสนา มีการทรมานและสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยม โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ ปัญญาชน และผู้ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูของระบอบปฏิวัติ คาดว่ามีชาวกัมพูชาเสียชีวิตในช่วงเวลานี้ไปเกือบ 2 ล้านคน หรือราวหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งประเทศ
การมาถึงของฮุนเซนและยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน
ความโหดร้ายของระบอบเขมรแดง ประกอบกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับเวียดนาม นำไปสู่การตัดสินใจของเวียดนามในการส่งกองทัพเข้าบุกยึดกัมพูชาในปลายปี พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978) และสามารถโค่นล้มรัฐบาลเขมรแดงได้สำเร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) พร้อมกับจัดตั้ง สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา ขึ้น โดยมีกลุ่มผู้นำเขมรที่เคยแปรพักตร์จากเขมรแดงและได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามเป็นแกนนำ
ฮุน เซน ซึ่งเดิมเคยเป็นผู้บัญชาการระดับกลางในกองทัพเขมรแดง แต่ได้หลบหนีไปยังเวียดนามในปี พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) เนื่องจากความขัดแย้งภายในและการกวาดล้างครั้งใหญ่ ได้กลับเข้ามาพร้อมกับกองทัพเวียดนามและก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในรัฐบาลใหม่ เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และต่อมาได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985) ขณะมีอายุเพียง 33 ปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม การมีอยู่ของกองทัพเวียดนามในกัมพูชาทำให้รัฐบาลของฮุน เซน ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ กองกำลังเขมรแดงที่ถอยร่นไปตั้งมั่นอยู่ตามแนวชายแดนไทยยังคงต่อสู้กับรัฐบาลพนมเปญต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนจากจีน สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศอาเซียนบางส่วน
สถานการณ์ที่ยืดเยื้อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพ และในที่สุด ข้อตกลงสันติภาพปารีส ก็ได้รับการลงนามในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) โดยทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันในกัมพูชา ข้อตกลงนี้นำไปสู่การถอนทหารเวียดนาม การจัดตั้งองค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา (UNTAC) และการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993)
ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคฟุนซินเปกของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ได้รับชัยชนะ แต่พรรคประชาชนกัมพูชาของฮุน เซน ซึ่งได้อันดับสอง ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง จนนำไปสู่การเจรจาและจัดตั้งรัฐบาลผสมในรูปแบบ "นายกรัฐมนตรีคู่" โดยมีสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สอง
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือดังกล่าวเต็มไปด้วยความขัดแย้งและจบลงด้วยการปะทะกันด้วยอาวุธในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ซึ่งฝ่ายของฮุน เซน เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด ส่งผลให้เขาก้าวขึ้นสู่อำนาจในฐานะผู้นำสูงสุดของกัมพูชาอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งต่อให้กับบุตรชาย ฮุน มาเนต ในปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) แต่ยังคงมีอิทธิพลอย่างสูงในฐานะประธานองคมนตรีและประธานพรรคประชาชนกัมพูชา
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
เห็นแบบนี้แล้ว คุณยังกล้าใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าต่อหรือไม่?
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เขมรสั่งห้ามจุดพลุฉลองปีใหม่ในกรุงพนมเปญ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
ดาราดัง "บริจิตต์ บาร์โดต์" เสียชีวิตแล้ว
การส่งต่อความสุขของคนในเมือง ความสุขเล็กๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนในส่วนของปี
ทรัมป์ดีใจ เลยแสดงความยินดี ที่ไทยและเขมรหยุดยิง!!
เคล็ดไม่ลับ นึ่งข้าวให้เหนียวนุ่ม
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
ความแตกต่างของ มัทฉะ (Matcha) และ ชาเขียว (Green Tea)
ไข่ดาวน้ำเพื่อสุขภาพ
6 เมนูต้อนรับสงกรานต์ เริ่ดไม่ซ้ำบ้านอื่น!
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่
“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลก
ภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ