ความสัมพันธ์สองประเทศในจุดเปลี่ยน: ไทยรับมือกัมพูชาอย่างไร?
ขณะนี้กัมพูชาเดินเกมกดดันไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการทูต เช่น ลดเวลาวีซ่าคนไทย, เลิกพึ่งพาไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ตจากไทย, แบนสินค้าไทย, ห้ามผู้ป่วยเข้ารักษาในไทย, เตรียมพร้อมกำลังทหาร ฯลฯ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากนานาชาติให้กดดันไทย และผลักดันข้อพิพาทชายแดนเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) กัมพูชาจึงดูเหมือนมี “ไพ่เหนือ” ไทยในเวทีระหว่างประเทศและสร้างแรงกดดันทั้งในและนอกประเทศ
วิธีการตอบโต้ของไทย: รักษาสมดุลความมั่นคงและภาพลักษณ์เชิงบวก
1. ใช้กลไกทวิภาคี ยึดหลักสันติวิธี
-
ไทยเน้นการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC), GBC, RBC ซึ่งมีประสิทธิภาพและเป็นกลไกที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ ไม่ยอมให้ข้อพิพาทถูกยกระดับไปเวทีโลกหรือศาลโลก
-
การใช้กลไกเหล่านี้ช่วยให้ไทยควบคุมเกมการเจรจา ลดความเสี่ยงที่จะเสียเปรียบในกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ
2. “ยุทธศาสตร์เงียบ” และการตั้งรับเชิงรุก
-
ไทยเลือกใช้ภาษาทางการทูตที่ระมัดระวัง ไม่ยั่วยุ ไม่ตอบโต้รุนแรง เพื่อไม่เปิดช่องให้กัมพูชาใช้เป็นข้ออ้างยื่นฟ้องในเวทีสากล
กลยุทธ์นี้ช่วยรักษาภาพลักษณ์ไทยในสายตาประชาคมโลก ว่าเป็นประเทศที่ยึดหลักสันติวิธีและมนุษยธรรม
-
การไม่ตอบโต้รุนแรงยังช่วยลดโอกาสเกิดความรุนแรงหรือปะทะทางทหาร ซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงทั้งสองฝ่าย
3. มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเป็นขั้นตอน
-
ไทยมีมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์ ตั้งแต่จำกัดการเดินทางเฉพาะกรณีจำเป็น ไปจนถึงปิดจุดผ่านแดนหากสถานการณ์วิกฤต
-
ทุกมาตรการย้ำว่าคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝั่ง และผลกระทบทางเศรษฐกิจ-วิถีชีวิตชายแดน
4. สื่อสารกับประชาคมโลกอย่างรอบคอบ
-
หากกัมพูชาผลักดันเข้าสู่ศาลโลก ไทยสามารถยืนยันว่าศาลไม่มีเขตอำนาจ เพราะไทยไม่เคยให้ความยินยอม และชี้แจงต่อประชาคมโลกว่ากลไกทวิภาคีมีประสิทธิภาพมากกว่า
-
ไทยควรเน้นบทบาทผู้นำอาเซียนที่ยึดหลักสันติภาพและการแก้ปัญหาด้วยการเจรจา
5. ยืนยันจุดยืนไม่เสียดินแดน
-
ไทยประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่นิดเดียว และยืนยันว่าทุกการดำเนินการอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ
สรุป: ไทยควรเดินเกมอย่างไรให้ “ชนะ” ในสายตาประชาคมโลก
-
รักษาความสงบ ไม่ตอบโต้รุนแรง เพื่อไม่เปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลในเวทีโลก
-
เน้นการเจรจาในกรอบทวิภาคีที่ไทยถนัดและมีโครงสร้างรองรับ
-
สื่อสารกับประชาคมโลกอย่างโปร่งใส ยืนยันหลักสันติวิธีและความถูกต้องตามกฎหมาย
-
ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยโดยไม่ยั่วยุหรือใช้อารมณ์
-
หากเข้าสู่ศาลโลก ต้องเตรียมข้อมูลและเหตุผลทางกฎหมายอย่างรอบคอบ พร้อมชี้แจงว่ากลไกที่มีอยู่สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า
กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ไทยรักษาผลประโยชน์สูงสุด ไม่กระทบต่อความมั่นคงทั้งสองฝ่าย และยังคงได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกในฐานะประเทศที่ใช้สันติวิธีและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ













